XRP ร่วง 10% หลังวาฬเทขาย! ลุ้นแนวรับสำคัญ $3.00 จะไหวอยู่ไหม?

XRP ดิ่งลงกว่า 10% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาซึ่งนับเป็นการปรับฐานที่หนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 

การลดลงครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากการเทขายของนักลงทุนรายใหญ่ และการล้างพอร์ต Long Position ครั้งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของปีบน Binance 

นักลงทุนต่างจับตาว่าแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 3 ดอลลาร์ว่าจะสามารถพยุงราคา XRP ไว้ได้หรือไม่!?

แรงเทขายจากวาฬและการล้างพอร์ตครั้งใหญ่กดดันราคา XRP

CryptoQuant ชี้ว่ากระเป๋าคริปโตที่เชื่อมโยงกับคริส ลาร์เซ่น (Chris Larsen) ผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple มีการโอน XRP มากกว่า 50 ล้าน XRP มูลค่ากว่า 140 ล้านดอลลาร์ไปยังกระดานเทรดต่าง ๆ

การเทขายอย่างหนักเช่นนี้ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดฟิวเจอร์ส โดยข้อมูลจาก Coinglass แสดงให้เห็นว่ามูลค่า Open Interest ของ XRP ลดลงอย่างรวดเร็วจาก 10,940 ล้านดอลลาร์เหลือเพียง 9,100 ล้านดอลลาร์หรือลดลงกว่า 16% สะท้อนให้เห็นว่านักเทรดที่ใช้ Leverage ถูกบังคับล้างพอร์ต

เหตุการณ์นี้ยังนำไปสู่การล้างพอร์ต Long Position ของ XRP ครั้งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของปีบน Binance โดยมีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 86 ล้านดอลลาร์ภายในไม่กี่ชั่วโมง 

การล้างพอร์ตครั้งใหญ่เช่นนี้ยิ่งซ้ำเติมให้ราคา XRP ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

วิเคราะห์ข้อมูลจาก CryptoQuant: สัญญาณเตือนจากวาฬ

แม้ว่าก่อนหน้านี้ได้มีข้อมูลการสะสมเหรียญ XRP จากวาฬ โดยมีกระเป๋าคริปโตกว่า 2,700 ใบที่ถือครอง XRP มากกว่าหนึ่งล้าน XRP แต่ข้อมูลล่าสุดจาก CryptoQuant กลับบ่งชี้ว่าสถานการณ์อาจกำลังเปลี่ยนไป 

ค่าเฉลี่ย Whale Flow แบบ 90 วันของ XRP ได้พลิกกลับมาเป็นลบ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าผู้ถือครองรายใหญ่อาจกำลังเริ่มทยอยขายสินทรัพย์ของตนเองออกมา

สิ่งที่น่าสนใจคือตัวชี้วัดนี้เคยพลิกเป็นบวกในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมก่อนที่ราคา XRP จะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง

ดังนั้น การที่ตัวชี้วัดกลับมาเป็นลบในปัจจุบันจึงอาจเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าราคา XRP อาจกำลังจะดิ่งลงเร็ว ๆ นี้ ซึ่งนักลงทุนควรจับตาและใช้ความระมัดระวังในการเทรดเป็นพิเศษ

จับตาแนวรับและแนวต้านสำคัญของ XRP

ถึงแม้จะมีความผันผวนในระยะสั้น แต่โครงสร้างตลาดในภาพรวมของ XRP ยังคงดูเป็นบวก การทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบหลายเดือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังคงยืนยันแนวโน้มขาขึ้น 

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กำลังจับตาแนวรับสำคัญอย่างใกล้ชิด โดยโซนที่น่าสนใจที่สุดคือบริเวณ 2.95-3 ดอลลาร์ซึ่งเป็นแนวรับทางจิตวิทยา

หากแรงขายยังคงดำเนินต่อไป ราคา XRP อาจมุ่งหน้าไปสู่โซน 2.66-2.86 ดอลลาร์โดยมีแนวรับที่ 2.64 ดอลลาร์ซึ่งเคยเป็นแนวต้านสำคัญในไตรมาสที่ 2 และอาจพลิกกลับมาเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งได้ 

ในทางกลับกัน หากราคา XRP สามารถทะลุแนวต้าน 3.25 ดอลลาร์ขึ้นไปได้ จะเป็นการยืนยันการกลับตัวเป็นขาขึ้นในระยะสั้น 

แต่หากหลุดแนวรับ 3 ดอลลาร์และ 2.64 ดอลลาร์ติดต่อกัน อาจเป็นสัญญาณการเปลี่ยนโครงสร้างเป็นขาลงอย่างชัดเจน

ขอบคุณข้อมูลจาก https://cointelegraph.com/news/xrp-s-bull-run-might-have-ended-at-dollar3-65-here-s-what-must-happen-to-save-it

แนะนำ Snorter Token ($SNORT) – เหรียญมีมสำหรับนักเทรด

ในขณะที่เหรียญหลักอย่าง XRP กำลังผันผวน นักลงทุนจำนวนมากเริ่มมองหาโอกาสใน Altcoin อื่น ๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และหนึ่งในโครงการที่กำลังมาแรงคือ Snorter Token ซึ่งเป็น Utility Token ของ Snorter Bot

Snorter Bot คือระบบเทรดบน Telegram ที่ออกแบบมาเพื่อนักเทรดสาย Degen โดยเฉพาะให้สามารถเทรดได้รวดเร็วด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำ พร้อมฟีเจอร์ครบครันตั้งแต่ Swap, Snipe เหรียญใหม่, Stop-Loss ไปจนถึงการคัดลอกการซื้อขาย โดยทั้งหมดนี้ทำได้โดยตรงผ่านแอป Telegram ไม่ต้องสลับไปมาให้วุ่นวาย

ล่าสุด Snorter Token สามารถระดมทุนในช่วงพรีเซลไปได้แล้วกว่า 2 ล้านดอลลาร์ภายในเวลาไม่ถึงเดือน แสดงให้เห็นถึงความสนใจอย่างล้นหลามจากชุมชน นี่จึงไม่ใช่แค่เหรียญกระแส แต่เป็นเครื่องมือการเทรดจริงที่อาจเปลี่ยนเกมสำหรับนักเทรดรายย่อย

ผู้ที่สนใจสามารถเรียนรู้รายละเอียดโครงการ Snorter Token เพิ่มเติมและวิธีการซื้อโทเค็นอย่างละเอียดได้ที่นี่

Sukrit Wittaya

สุกฤษ วิทยา เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลที่คร่ำหวอดในวงการมากว่า 10 ปี เขาเริ่มต้นจากการพัฒนาแอปพลิเคชันด้านฟินเทคก่อนจะหันมาให้ความสนใจในการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัลในช่วงปี 2017 ผ่านการเขียนบล็อก ปัจจุบัน สุกฤษเป็นทั้งนักวิเคราะห์เทคโนโลยี Web3 นักเขียน และที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลให้กับทั้งสตาร์ทอัปและองค์กรภาครัฐ ผลงานของเขามุ่งเน้นที่การเชื่อมโยงระหว่างเทคโนโลยีกับการใช้งานจริงในโลกการเงิน โดยเฉพาะการอธิบายแนวคิดซับซ้อนให้เข้าใจง่าย พร้อมทั้งนำเสนอบทวิเคราะห์ที่ช่วยให้ผู้อ่านมองเห็นโอกาสและความเสี่ยงในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างรอบด้าน