Home » Trump หนุน Fintech! ตลาด Stablecoin จ่อทะลุ $2 ล้านล้าน

Trump หนุน Fintech! ตลาด Stablecoin จ่อทะลุ $2 ล้านล้าน

12.06.2025 11:24 1 นาทีที่อ่าน Phitchaya Rattanavong
แบ่งปัน: หุ้น
Trump หนุน Fintech! ตลาด Stablecoin จ่อทะลุ $2 ล้านล้าน

ตามรายงานจาก Theblock.com Scott Bessent รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ออกมาคาดการณ์ว่าตลาด Stablecoin ที่หนุนด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีศักยภาพที่จะเติบโตทะลุ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2028 โดยมีแรงหนุนสำคัญจากกฎหมายใหม่และการสนับสนุนจาก Donald Trump ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของโลกการเงินดิจิทัล

วิเคราะห์ GENIUS Act: กฎหมาย Fintech ที่ Trump ดันสุดตัว

หัวใจสำคัญของการเติบโตครั้งนี้คือร่างกฎหมาย “GENIUS Act” ซึ่งล่าสุดวุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ลงมติให้เดินหน้าพิจารณาต่อเพื่อเข้าสู่การโหวตขั้นสุดท้าย กฎหมายฉบับนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จาก Donald Trump ที่ต้องการจะลงนามให้ทันก่อนเดือนสิงหาคม

สาระสำคัญของ GENIUS Act คือการกำหนดให้ Stablecoin ต้องมีสินทรัพย์ค้ำประกันเต็มจำนวนด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หรือสินทรัพย์สภาพคล่องสูงเทียบเท่า นอกจากนี้ ผู้ออกเหรียญที่มีมูลค่าตลาดเกิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์จะต้องผ่านการตรวจสอบบัญชีประจำปี ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและเสถียรภาพให้กับวงการ Fintech อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน การเคลื่อนไหวนี้ถูกมองว่าเป็นการปูทางให้สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่เข้ามาในตลาดได้อย่างปลอดภัย

ทิศทางดังกล่าวกำลังเกิดขึ้นจริง ดังจะเห็นได้จาก การเปิดตัว Stablecoin ของธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง Societe Generale ที่เข้ามาเสริมทัพในตลาดสถาบันการเงิน

อนาคต Stablecoin สู่ $2 ล้านล้าน: โอกาสและความเคลื่อนไหว

Scott Bessent กล่าวเสริมอย่างมั่นใจว่า “ผมเชื่อว่ากฎหมาย Stablecoin ที่ค้ำประกันด้วยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จะสร้างตลาดที่ขยายการใช้งานเงินดอลลาร์ไปทั่วโลกผ่าน Stablecoin เหล่านี้ ผมคิดว่าตัวเลข 2 ล้านล้านดอลลาร์เป็นตัวเลขที่สมเหตุสมผลมาก และอาจจะสูงกว่านั้นมากด้วยซ้ำ” คำกล่าวนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาล Trump ที่จะใช้ Stablecoin เป็นเครื่องมือเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานะสกุลเงินสำรองของดอลลาร์

ปัจจุบัน ตลาด Stablecoin ที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐฯ มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 246.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นกว่า 96% ของตลาด Stablecoin ทั้งหมด การผ่านกฎหมาย GENIUS Act จึงเปรียบเสมือนการปลดล็อกศักยภาพการเติบโตมหาศาล เห็นได้จากความเคลื่อนไหวล่าสุดที่ธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง Bank of America เตรียมเปิดตัว Stablecoin ของตัวเอง และความสำเร็จของ Circle (ผู้ออก USDC) ที่เข้าตลาดหุ้นและราคาพุ่งสูงถึง 235% ในวันแรก

นอกเหนือจากสถาบันในสหรัฐฯ แล้ว ธนาคารระดับโลกอย่าง Santander ก็กำลังเตรียมพร้อมลุยตลาด Stablecoin ทั้งสกุลดอลลาร์และยูโร ซึ่งจะยิ่งเป็นการพลิกโฉมวงการการเงิน

สรุป: Trump และกฎหมายใหม่ หนุน Stablecoin เปลี่ยนโลก Fintech

การคาดการณ์ตลาด Stablecoin ที่จะพุ่งสู่ระดับ 2 ล้านล้านดอลลาร์ไม่ใช่แค่เรื่องเพ้อฝัน แต่เป็นภาพอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นจริง โดยมีปัจจัยเร่งจากการสนับสนุนทางการเมืองของ Donald Trump และกรอบกฎหมาย GENIUS Act ที่ชัดเจน การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน แต่ยังเป็นการเปิดประตูให้สถาบันการเงินและนวัตกรรม Fintech เข้ามาปฏิวัติภูมิทัศน์การเงินโลกอย่างเต็มรูปแบบ นักลงทุนจึงต้องจับตาดูการเติบโตครั้งประวัติศาสตร์นี้อย่างใกล้ชิด

ความร่วมมือระหว่างบริษัทเทคโนโลยีและสถาบันการเงินแบบดั้งเดิมคือหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้ ดังเช่น การที่ Stripe ผนึกกำลังกับธนาคารใหญ่เพื่อปลุกพลัง Stablecoin ซึ่งจะนำไปสู่ยุคใหม่ของนวัตกรรมการเงิน

สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามภาพรวมและเจาะลึกการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม สามารถศึกษา ข่าวสารล่าสุดทั้งหมดเกี่ยวกับวงการ Fintech เพื่อทำความเข้าใจภูมิทัศน์ใหม่นี้ได้ดียิ่งขึ้น

พิชญา รัตนวงศ์ เป็นนักข่าวและนักวิเคราะห์ด้านคริปโตเคอเรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชน ผู้มีความเชี่ยวชาญในการถ่ายทอดข้อมูลที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายสำหรับผู้อ่านทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือผู้เชี่ยวชาญในวงการ ด้วยประสบการณ์กว่า 8 ปีในสายงานข่าวการเงินดิจิทัลและการกำกับดูแล Web3 พิชญาเคยร่วมงานกับทั้งสื่อในประเทศและต่างประเทศ เช่น Bangkok Biz, Asia Blockchain Review และ BeInCrypto เธอมุ่งมั่นในการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้กำหนดนโยบาย ผู้พัฒนาเทคโนโลยี และนักลงทุน พร้อมส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่องกฎระเบียบคริปโตในบริบทไทย-อาเซียน ผลงานของเธอมีจุดเด่นด้านการวิเคราะห์ข่าว DeFi การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ Web3 ที่กำลังเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค

Telegram

แบ่งปัน: หุ้น
มากกว่า Fintech - ข่าวล่าสุดวันนี้
ยังไม่มีความคิดเห็น!

ที่อยู่อีเมลของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่