เจาะลึก 7 เหรียญ Altcoin มาแรง: โอกาสทำกำไรมหาศาลในเดือนกรกฎาคม 2025

2 เดือนข้างหน้าอาจจะเป็นโอกาสทองสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาเหรียญ Altcoin มาแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกองทุน Ethereum ETF ได้จุดประกายความสนใจจากนักลงทุนสถาบันระลอกใหม่ และ Altcoin อื่นๆ ก็กำลังจ่อคิวได้รับการอนุมัติ ETF ตามมา ส่งผลให้ตลาด Altcoin คึกคักเป็นอย่างมาก และส่งสัญญาณว่าอาจจะเข้าสู่ Altcoin Season ครั้งใหม่ในไม่ช้า

และนี่คือรายชื่อเหรียญ Altcoin มาแรง ที่ต้องจับตาเพื่อโอกาสในการสร้างผลกำไรที่น่าประทับใจ

7 เหรียญ Altcoin มาแรงเดือนกรกฎาคม 2025

1. Litecoin (LTC)

Litecoin เพิ่งผ่านเหตุการณ์ที่เรียกว่า “Halving” เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2566 ซึ่งทำให้รางวัลสำหรับการขุด Litecoin ใหม่ลดลงเหลือ 6.25 LTC สิ่งนี้ช่วยลดอัตราเงินเฟ้อต่อปีลงเหลือเพียง 0.84% และลดแรงกดดันจากการที่นักขุดเทขายเหรียญด้วย

ในขณะเดียวกัน จำนวนแอดเดรส Litecoin ที่ใช้งานอยู่เฉลี่ยต่อวันก็พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 401,000 แอดเดรส นอกจากนี้ มูลค่าการทำธุรกรรมทั้งหมดบนเครือข่าย Litecoin สูงกว่าช่วงตลาดหมีถึง 38% ซึ่งตอกย้ำบทบาทของเหรียญ Altcoin มาแรงตัวนี้ในฐานะสกุลเงินที่ใช้ชำระเงินได้อย่างรวดเร็ว

ด้วยปัจจัยเหล่านี้ สถาบันการเงินขนาดใหญ่จึงเริ่มทยอยสะสม Litecoin โดยคาดหวังว่า กองทุน Spot LTC ETF จะได้รับการอนุมัติ Bloomberg ประเมินว่ามีโอกาสถึง 95% ที่ ETF นี้จะผ่านภายในปีนี้ ซึ่งจะยิ่งส่งเสริมสถานะของ Litecoin ในฐานะ “เงินดิจิทัล” ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

2. Solana (SOL)

Solana กำลังไปได้สวย รายได้เครือข่ายในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 ทำสถิติสูงสุดที่ 271 ล้านดอลลาร์ นับเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกันที่ Solana เป็นผู้นำตลาด จำนวนผู้ใช้งานรายเดือนของ Solana ตอนนี้เทียบเท่ากับบล็อกเชน Layer 1 และ Layer 2 อื่นๆ ทั่วทั้งตลาดรวมกันเลยทีเดียว

แม้จะมีการใช้งานที่สูง แต่ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมโดยเฉลี่ยบน Solana กลับต่ำอย่างเหลือเชื่อเพียง 0.00025 ดอลลาร์ และสามารถประมวลผลได้ถึง 65,000 ธุรกรรมต่อวินาที (TPS) กองทุน ETF Staking Solana เพิ่งดึงดูดเงินได้ถึง 42 ล้านดอลลาร์ภายในสัปดาห์เดียว แสดงให้เห็นถึงความสนใจของนักลงทุนที่แข็งแกร่งใน เหรียญ Altcoin มาแรง ตัวนี้

เครือข่ายยังเตรียมขยายขีดความสามารถของคิวบล็อกอีก 66% ผ่านข้อเสนอ SIMD-0286 และด้วยการทำงานต่อเนื่องโดยไม่มีหยุดชะงักมา 15 เดือน ทำให้ Solana ถูกมองว่าเป็นโครงสร้างพื้นฐานชั้นนำสำหรับการทำธุรกรรมในวัฏจักรตลาดครั้งนี้

3. Dogecoin (DOGE)

แม้ว่า Dogecoin จะมีการเพิ่มอุปทานคงที่ 5 พันล้านเหรียญต่อปี แต่ Dogecoin Foundation ก็กำลังผลักดันโครงการ “Dogebox” อย่างจริงจัง โดยมีเป้าหมายให้ ร้านค้า 1 ล้านรายรับชำระเงินด้วย DOGE ภายในปี 2568 นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอ OP_CHECKZKP ซึ่งจะนำเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง zk-Rollups และความเข้ากันได้กับ EVM เข้าสู่เครือข่าย

อัตรา Hashrate ของ Dogecoin ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความปลอดภัยของเครือข่าย พุ่งสูงถึง 1.12 TH/s สะท้อนให้เห็นถึงความปลอดภัยที่แข็งแกร่งมาก เรายังเห็นนักลงทุนรายใหญ่ (หรือที่เรียกว่า “วาฬ”) สะสม Dogecoin ในช่วงที่ราคาลดลง

และเช่นเดียวกับ Litecoin ทาง Bloomberg ประเมินว่ามีโอกาสถึง 90% ที่ กองทุน Spot DOGE ETF จะได้รับการอนุมัติ การพัฒนาทั้งหมดเหล่านี้กำลังผลักดันให้ เหรียญ Altcoin มาแรง ตัวนี้ก้าวข้ามภาพลักษณ์ของ “เหรียญมีม” ไปสู่บทบาทที่จริงจังและชัดเจนยิ่งขึ้น

4. Cardano (ADA)

เครือข่าย Cardano กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมี กระเป๋าเงินดิจิทัลกว่า 4.83 ล้านใบ และ 1.25 ล้านใบในจำนวนนี้กำลัง Staking ADA ซึ่งคิดเป็น 26% ของผู้ถือทั้งหมด การจับมือกับ Brave Browser ทำให้ผู้ใช้กว่า 60 ล้านคนสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันกระจายอำนาจ (dApp) บน Cardano ได้โดยตรง

แผนงาน “Blueprint” และ “Ecosystem Guide 2025” ของ Cardano ยังชี้ให้เห็นถึงกรณีการใช้งานจริงของ เหรียญ Altcoin มาแรง ตัวนี้ในด้านโลจิสติกส์และการเงิน ในปลายปีนี้ Plomin Hard Fork จะช่วยยกระดับการกำกับดูแลและรัฐธรรมนูญบนเครือข่าย

พัฒนาการเหล่านี้ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของ Cardano ในฐานะโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะสำหรับองค์กรในโลกแห่งความเป็นจริง

5. Ripple (XRP)

ภายหลังศาลตัดสินให้ XRP มีสถานะเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ทำให้ ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบลดลง และกระตุ้นให้สถาบันต่างๆ ถือครอง XRP มากขึ้น

เครือข่าย XRPL ประมวลผลธุรกรรมเฉลี่ย 2.14 ล้านรายการต่อวันในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 บริการ On-Demand Liquidity (ODL) ของ Ripple ซึ่งใช้ XRP ในการโอนเงินข้ามประเทศ ได้อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมสะสมรวมกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2567

นอกจากนี้ Ripple ยังได้เปิดตัว RLUSD ซึ่งเป็น Stablecoin และเปิดตัว Sidechain ที่รองรับ EVM เพื่อขยายระบบ DeFi (Decentralized Finance) ของตน Bloomberg ประเมินว่าโอกาสที่ กองทุน Spot XRP ETF จะได้รับการอนุมัติสูงถึง 95% สิ่งนี้ช่วยส่งเสริมบทบาทของเหรียญ Altcoin มาแรงตัวนี้ในฐานะช่องทางสภาพคล่องระดับสถาบันในวัฏจักรตลาดใหม่นี้

6. Bitcoin Hyper (HYPER)

Bitcoin Hyper เป็น Layer-2 สุดล้ำที่เชื่อมต่อกับ Bitcoin โดยใช้เทคโนโลยี Solana Virtual Machine (SVM) เพื่อให้สามารถทำธุรกรรมได้เร็วระดับ sub-second และค่าธรรมเนียมต่ำเกือบศูนย์

จุดแข็งของโปรเจกต์คือการผสมผสานความปลอดภัยระดับ Bitcoin เข้ากับความเร็วระดับ Solana พร้อมฟีเจอร์ DeFi, NFT และ dApps แบบครบวงจร

เหรียญ HYPER ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากนักลงทุน โดยในช่วง Presale ระดมทุนได้มากกว่า 4.5 ล้านดอลลาร์ พร้อมผลตอบแทนจาก Staking ที่สูงถึง 213% ต่อปี ด้วยแนวคิดของการเป็น “Bitcoin ที่เร็วกว่า” ทำให้ HYPER กลายเป็นหนึ่งในเหรียญ Altcoin มาแรงที่สุดในเดือนกรกฎาคมนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

7. Snorter Token (SNORT)

อีกหนึ่งเหรียญ Altcoin มาแรงที่ไม่ควรมองข้ามคือ Snorter Token ซึ่งผสานความเป็นเหรียญมีมกับการใช้งานจริงผ่าน Snorter Bot บน Telegram โดยเน้นการเทรดเหรียญมีมแบบอัตโนมัติ เช่น Token Sniping, Copy Trade, ตรวจจับ Rugpull และจัดการพอร์ตแบบเรียลไทม์ ผ่านอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและเร็วบน Solana

ในช่วง Presale เหรียญ SNORT สามารถระดมทุนได้กว่า 2 ล้านดอลลาร์ พร้อมระบบ Staking ที่ให้ผลตอบแทนระหว่าง 177% ต่อปี และยังมีแผนขยายไปยัง Ethereum, BNB Chain, Polygon และ Base ซึ่งเพิ่มโอกาสในการเติบโตอย่างมากในอนาคต

นี่ทำให้ Snorter Token กลายเป็นเหรียญ Altcoin มาแรงที่ผสานความสนุกของมีมเข้ากับการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ

Pimjai Visawakul

พิมพ์ใจ เป็น นักวิเคราะห์ตลาดการเงินที่มีประสบการณ์มากกว่า 8 ปี โดยเริ่มต้นจากการเป็น Day Trader ในตลาดหุ้นไทยก่อนจะเปลี่ยนมาโฟกัสที่ตลาดคริปโตเต็มตัวในปี 2018 ปัจจุบัน นอกจากงานเขียนแล้ว เธอยังเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุนดิจิทัลแอสเซ็ทให้กับกองทุนรวมหลายแห่ง และเป็นวิทยากรในงานประชุมระดับชาติอย่าง Asia Blockchain Summit พิมพ์ใจผสานความเข้าใจด้านจิตวิทยาการลงทุน การวิเคราะห์เทคนิค และพฤติกรรมตลาดเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างเนื้อหาที่ช่วยให้ผู้อ่านเรียนรู้กลยุทธ์การเทรดที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ อ่านสัญญาณตลาดและจัดการความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม ไม่ใช่เพียงคาดเดาหรือใช้อารมณ์เท่านั้น