ข่าวใหญ่สะเทือนวงการนักลงทุน! คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับกำไรจากการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Capital Gains Tax) ตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง นับเป็นก้าวสำคัญที่ส่งสัญญาณเชิงบวกต่อตลาดคริปโตในประเทศ และตอกย้ำความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Hub) ของภูมิภาค
[📢 เดินหน้าเต็มสูบ! รัฐบาลเร่งส่งเสริมไทยเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลของโลก 🇹🇭🌐]
— จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ (@jamornvivat) June 17, 2025
ผมมีข่าวดีมาบอกครับ! วันนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการเป็น Digital Asset Hub ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ…
ตามประกาศจากนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มาตรการยกเว้นภาษีคริปโตฉบับนี้จะครอบคลุมกำไรจากการโอนคริปโทเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัล ที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. เท่านั้น
โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2572 รวมระยะเวลา 5 ปีเต็ม ซึ่งการยกเว้นนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการซื้อขายอย่างโปร่งใสและสนับสนุนการเติบโตของนวัตกรรมในประเทศ
เป้าหมายหลักของนโยบายนี้คือการสร้างแรงจูงใจเพื่อดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากทั้งในและต่างประเทศให้เข้ามาในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลของไทยมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการบริโภคภายในประเทศ รัฐบาลประเมินว่าแม้จะสูญเสียรายได้จากภาษีกำไรส่วนทุน แต่จะสามารถจัดเก็บภาษีในรูปแบบอื่น เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นได้ในระยะกลางไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
การยกเว้นภาษีนี้เปิดโอกาสให้นักลงทุนมองหาผลตอบแทนได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น ซึ่งทำให้การพิจารณา 7 เหรียญคริปโตที่น่าลงทุนในปี 2025 กลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจยิ่งขึ้น
นโยบายนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ ‘Thailand 4.0’ ที่ต้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยตั้งเป้าให้เศรษฐกิจดิจิทัลมีสัดส่วนสำคัญต่อ GDP ของประเทศในอนาคต
การออกกฎหมายและมาตรการด้านภาษีคริปโตที่ชัดเจน ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นหนึ่งในประเทศผู้บุกเบิกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังที่ระบุในรายงานของ OECD ปี 2024 เกี่ยวกับนวัตกรรมทางการเงิน นอกจากนี้ กรมสรรพากรยังได้เตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตามมาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลของ OECD (Common Reporting Standard) เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและประสิทธิภาพในการตรวจสอบธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การอนุมัติยกเว้นภาษีคริปโตในครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยปลดล็อกศักยภาพของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยอย่างแท้จริง นโยบายดังกล่าวไม่เพียงแต่จะทำให้นักลงทุนรายย่อยมีความคล่องตัวในการซื้อขายมากขึ้น แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังนักลงทุนทั่วโลกว่าไทยพร้อมแล้วที่จะเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมทางการเงินและเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ตลาดคริปโตไทยกลับมาคึกคักและเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ข่าวดีนี้อาจทำให้หลายคนเริ่มสนใจในตลาดคริปโต สำหรับผู้ที่กำลังมองหาจุดเริ่มต้น สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วิธีลงทุนคริปโตสำหรับมือใหม่ปี 2025 เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง
ความคึกคักของตลาดที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นนี้ อาจรวมไปถึงกระแสของสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทต่างๆ เช่น เหรียญมีม ซึ่งนักลงทุนมือใหม่สามารถเรียนรู้ คู่มือการซื้อเหรียญมีมสำหรับปี 2025 เพื่อทำความเข้าใจในสินทรัพย์ประเภทนี้ได้