เท็กซัสตั้งกองทุน Bitcoin! สัญญาณบวกครั้งใหญ่มาแล้ว

รัฐเท็กซัสสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการคริปโตในสหรัฐฯ หลังจากผู้ว่าการรัฐ Greg Abbott ได้ลงนามอนุมัติร่างกฎหมาย SB 21 จัดตั้ง ‘กองทุนสำรอง Bitcoin เชิงยุทธศาสตร์’ (Strategic Bitcoin Reserve) อย่างเป็นทางการ นับเป็นครั้งแรกที่รัฐในสหรัฐฯ มีการจัดตั้งกองทุนสำรองสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนการยอมรับ Bitcoin ในระดับสถาบันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของสกุลเงินหลัก ซึ่งทำให้หลายฝ่ายมองว่า Bitcoin อาจก้าวขึ้นมาเป็นเงินสำรองโลก ในวันที่หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เจาะลึกกองทุนสำรอง Bitcoin ของเท็กซัส: ก้าวสำคัญสู่อนาคต

การอนุมัติร่างกฎหมาย SB 21 ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่แสดงให้เห็นวิสัยทัศน์ของเท็กซัสที่มองว่า Bitcoin คืออนาคตทางการเงิน โดยกองทุนสำรองนี้จะได้รับเงินทุนสนับสนุนจากหลายช่องทาง ทั้งงบประมาณที่จัดสรรโดยสภานิติบัญญัติ, ค่าธรรมเนียมเฉพาะทาง และเงินบริจาค ซึ่งแตกต่างจากแนวคิดของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ที่เคยเสนอให้เก็บเฉพาะเหรียญที่ยึดมาได้เท่านั้น

สิ่งที่น่าสนใจในกฎหมายฉบับนี้คือการกำหนดเงื่อนไขว่า เท็กซัสจะสามารถนำคริปโตเคอร์เรนซีเข้ากองทุนสำรองได้ก็ต่อเมื่อสินทรัพย์นั้นมีมูลค่าตลาด (Market Cap) สูงกว่า 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ติดต่อกันในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งในปัจจุบันมีเพียง Bitcoin เท่านั้นที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม กฎเกณฑ์นี้ได้เปิดประตูไว้สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ที่อาจเติบโตในอนาคต เช่น Ethereum ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของเท็กซัสในการเป็นผู้นำด้านการยอมรับคริปโตในระยะยาว

วิเคราะห์ผลกระทบ: ทำไมการเคลื่อนไหวของเท็กซัสจึงสำคัญต่อ Bitcoin

การจัดตั้งกองทุนสำรอง Bitcoin ของเท็กซัสไม่ได้เป็นเพียงข่าวดีสำหรับคนในรัฐเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบในวงกว้างต่อตลาดคริปโตทั้งหมด การที่รัฐที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของสหรัฐฯ กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าในเรื่องนี้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นและอาจเป็นตัวกระตุ้นให้รัฐอื่นๆ พิจารณาเดินตามรอย

แนวทางของเท็กซัสสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของนักลงทุนสถาบันรายใหญ่อย่าง Michael Saylor ซึ่งไม่เพียงแต่เดินหน้าซื้อ Bitcoin เพิ่มอย่างต่อเนื่อง แต่ยังได้แสดงมุมมองว่า ราคา Bitcoin อาจพุ่งสูงถึง 21 ล้านดอลลาร์ ในอนาคต

นอกจากการลงทุนในระดับสถาบันแล้ว ข้อมูลบนเครือข่ายยังบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น โดยล่าสุดพบว่า การไหลออกของ Bitcoin บน Binance ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของตลาดกระทิงรอบใหม่

การเคลื่อนไหวนี้ช่วยยกระดับสถานะของ Bitcoin จากสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไรไปสู่สินทรัพย์เชิงยุทธศาสตร์ที่แม้แต่ภาครัฐก็ให้ความสำคัญ ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักลงทุนสถาบันรายใหญ่ให้เข้ามาในตลาดมากขึ้น และส่งเสริมการบูรณาการระหว่างระบบการเงินแบบดั้งเดิม (TradFi) และโลกคริปโตให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้นในอนาคต

การยอมรับ Bitcoin ที่เพิ่มขึ้น สู่ความต้องการ Layer-2 ที่มาแรง

จากการวิเคราะห์แนวโน้มการยอมรับ Bitcoin ในระดับสถาบันที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดดังที่เห็นในเท็กซัส ทำให้นักลงทุนและนักพัฒนาเริ่มมองถึงปัญหาคอขวดที่อาจเกิดขึ้นกับเครือข่าย Bitcoin นั่นคือความแออัดและค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นเมื่อมีการใช้งานหนาแน่น ด้วยเหตุนี้ โซลูชัน Layer-2 จึงกลายเป็นที่จับตามองอย่างมาก โดยเฉพาะโปรเจกต์ใหม่อย่าง Bitcoin Hyper ($HYPER) ที่กำลังได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม

Bitcoin Hyper คือโปรเจกต์มีมที่มียูทิลิตี้ เป็น Layer-2 ที่สร้างขึ้นบน Solana Virtual Machine (SVM) เพื่อแก้ปัญหาความสามารถในการขยายตัวของ Bitcoin โดยตรง ด้วยเป้าหมายที่จะทำให้เครือข่ายรวดเร็วขึ้น มีค่าธรรมเนียมถูกลง และรองรับ Smart Contracts ได้เต็มรูปแบบ โอกาสสุดท้ายก่อน Presale ปิดรอบเร็วๆนี้! Bitcoin Hyper ระดมทุนไปแล้วกว่า 1.6 ล้านดอลลาร์ แสดงถึงความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั่วโลก หากการยอมรับ Bitcoin ในระดับสถาบันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง Layer-2 อย่าง $HYPER อาจให้ผลตอบแทนมากกว่าการถือ Bitcoin ตรงๆ หลายเท่า และถือเป็นหนึ่งในเหรียญ altcoin ที่น่าสนใจสำหรับตลาดกระทิงรอบนี้

ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วม Presale ได้ในราคาเริ่มต้นเพียง $0.0115 และยังสามารถนำเหรียญไป Stake เพื่อรับผลตอบแทน APY สูงสุดถึง 2,000% ได้ทันที

• ศึกษาวิธีซื้อ Bitcoin Hyper 
• เว็บไซต์ทางการ: https://bitcoinhyper.com/th
• ติดตามในแอค X: https://x.com/BTC_Hyper2
• ติดตามในช่องทาง Telegram: https://t.me/btchyperz

สรุป: เท็กซัสปูทางอนาคต Bitcoin และโอกาสใน Layer-2

การตัดสินใจของรัฐเท็กซัสในการจัดตั้งกองทุนสำรอง Bitcoin ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกที่ชัดเจนต่ออนาคตและการยอมรับในระยะยาวของสกุลเงินดิจิทัลอันดับหนึ่งของโลก การเติบโตในระดับสถาบันนี้ยิ่งตอกย้ำถึงความจำเป็นของโซลูชัน Layer-2 ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถของเครือข่าย ซึ่งทำให้โปรเจกต์ที่มีนวัตกรรมอย่าง Bitcoin Hyper ($HYPER) อยู่ในตำแหน่งที่น่าสนใจและอาจกลายเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนระบบนิเวศของ Bitcoin ในยุคถัดไป

จากข่าวเชิงบวกและการยอมรับที่เพิ่มขึ้นนี้ อาจทำให้นักลงทุนหลายคนเกิดคำถามว่า ลงทุนบิทคอยน์ตอนนี้ยังทันหรือไม่ และแนวโน้มราคาในอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป

Phitchaya Rattanavong

พิชญา รัตนวงศ์ เป็นนักข่าวและนักวิเคราะห์ด้านคริปโตเคอเรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชน ผู้มีความเชี่ยวชาญในการถ่ายทอดข้อมูลที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายสำหรับผู้อ่านทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือผู้เชี่ยวชาญในวงการ ด้วยประสบการณ์กว่า 8 ปีในสายงานข่าวการเงินดิจิทัลและการกำกับดูแล Web3 พิชญาเคยร่วมงานกับทั้งสื่อในประเทศและต่างประเทศ เช่น Bangkok Biz, Asia Blockchain Review และ BeInCrypto เธอมุ่งมั่นในการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้กำหนดนโยบาย ผู้พัฒนาเทคโนโลยี และนักลงทุน พร้อมส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่องกฎระเบียบคริปโตในบริบทไทย-อาเซียน ผลงานของเธอมีจุดเด่นด้านการวิเคราะห์ข่าว DeFi การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ Web3 ที่กำลังเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค