BTC (Bitcoin) และ ETH (Ethereum) สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหม่ในโลกการเงิน เมื่อ Standard Chartered กลายเป็นธนาคารระดับโลกแห่งแรกที่มีความสำคัญเชิงระบบ (G-SIB) ที่เปิดโต๊ะเทรด Spot สำหรับทั้ง Bitcoin และ Ethereum อย่างเป็นทางการ
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ตอกย้ำความเชื่อมั่นใน Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ลงทุน และอาจเปิดทางให้เงินทุนสถาบันไหลเข้าสู่ตลาดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกสำคัญต่ออนาคตของ Bitcoin และคริปโตเคอร์เรนซีโดยรวม
เจาะลึกบริการเทรด BTC สำหรับลูกค้าระดับสถาบัน
บริการใหม่ของ Standard Chartered ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าระดับสถาบันโดยเฉพาะ ซึ่งรวมถึงกลุ่มผู้จัดการสินทรัพย์ (Asset Managers) นักลงทุนรายใหญ่ และบริษัทข้ามชาติที่เป็นลูกค้าของแผนกธนาคารเพื่อการลงทุนและบรรษัท
การเปิดตัวบริการเทรด Bitcoin และ Ethereum ในครั้งนี้ จะดำเนินการผ่านสาขาในสหราชอาณาจักรเป็นหลัก จุดเด่นที่สำคัญคือการผสานรวมโต๊ะเทรดคริปโตเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานด้านการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (FX) ที่มีอยู่เดิม ทำให้ลูกค้าสถาบันสามารถเข้าถึงการซื้อขาย Bitcoin ได้อย่างราบรื่นผ่านอินเทอร์เฟซที่คุ้นเคย
ลูกค้าจะมีทางเลือกในการจัดเก็บสินทรัพย์ โดยสามารถใช้บริการแพลตฟอร์มรับฝากสินทรัพย์ (Custody) ของ Standard Chartered เอง หรือเลือกใช้ผู้ให้บริการภายนอกได้ตามความต้องการ ในช่วงแรก บริการเทรด Bitcoin จะเปิดให้บริการในช่วงเวลาทำการของตลาดเอเชียและยุโรป
อย่างไรก็ตาม ธนาคารกำลังพิจารณาขยายเวลาให้บริการเป็น 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ หากมีความต้องการจากตลาดเพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมในการรองรับปริมาณการซื้อขาย Bitcoin ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ผลกระทบต่อราคา BTC และการยอมรับในวงกว้าง
การที่ธนาคารระดับโลกอย่าง Standard Chartered เข้ามาเปิดบริการเทรด Bitcoin โดยตรง ถือเป็นการให้ความเชื่อมั่นและรับรอง (Validation) สถานะของ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ทางการเงินที่ถูกกฎหมายและน่าเชื่อถือในสายตาของโลกการเงินกระแสหลัก
การเคลื่อนไหวนี้ช่วยลดความกังวลด้านความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลและเพิ่มความน่าดึงดูดใจให้กับนักลงทุนสถาบันที่เคยลังเลที่จะเข้ามาในตลาด Bitcoin มาก่อน
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การเปิดประตูครั้งนี้จะกระตุ้นให้เกิดความต้องการ Bitcoin จากสถาบันการเงินอื่นๆ ตามมาอีกระลอก ซึ่งจะส่งผลให้มีเงินทุนจำนวนมหาศาลไหลเข้าสู่ตลาด และอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ราคา Bitcoin ปรับตัวสูงขึ้นในระยะกลางถึงระยะยาว
การยอมรับ Bitcoin จากสถาบันการเงินขนาดใหญ่ยังช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดโดยรวม ลดความผันผวนที่รุนแรง และปูทางให้ Bitcoin กลายเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุนของสถาบันทั่วโลกได้อย่างแท้จริง การลงทุนในเหรียญคริปโตชั้นนำนี้จะไม่ใช่เรื่องเฉพาะกลุ่มอีกต่อไป
แผนการในอนาคต: ขยายบริการสู่สินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ
Standard Chartered ไม่ได้หยุดอยู่แค่การให้บริการเทรด Bitcoin และ Ethereum แบบ Spot เท่านั้น แต่ยังมีแผนที่จะขยายผลิตภัณฑ์และบริการให้ครอบคลุมสินทรัพย์ดิจิทัลในวงกว้างมากขึ้นในอนาคตด้วย ซึ่งรวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตราสารอนุพันธ์อย่าง Non-Deliverable Forwards (NDFs) ที่อ้างอิงกับราคา Bitcoin ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนสถาบันสามารถบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Rene Michau หัวหน้าฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลกของธนาคาร ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนถึงความต้องการสินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มลูกค้าสถาบัน และเป็นการวางตำแหน่งให้ Standard Chartered เป็นผู้นำในหมู่สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมที่กำลังก้าวเข้าสู่ตลาดคริปโตอย่างเต็มตัว
การสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเทรด BTC ในวันนี้ คือการวางรากฐานเพื่อรองรับการเติบโตของระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดในอนาคต ซึ่ง Bitcoin ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้
โดยสรุปก็คือ การเคลื่อนไหวนี้จะช่วยเพิ่มสภาพคล่อง ความน่าเชื่อถือ และเสถียรภาพให้กับตลาด Bitcoin ได้ในระยะยาว และน่าจะเป็นตัวกระตุ้นให้สถาบันการเงินอื่น ๆ ต้องเร่งปรับตัวตาม ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะส่งผลดีต่อการเติบโตของราคา Bitcoin และระบบนิเวศคริปโตโดยรวมในอนาคต
บล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล, Web3, วิเคราะห์แนวโน้มราคาสินทรัพย์, โทเค็นโนมิกส์ Tanawat Thanichapol เป็นนักวิเคราะห์คริปโตและที่ปรึกษาบล็อกเชนอิสระจากประเทศไทยที่มีประสบการณ์กว่า 7 ปี จบหลักสูตรด้านเศรษฐกิจดิจิทัลจาก MIT Initiative on the Digital Economy (IDE) เขาเคยร่วมงานกับสตาร์ทอัพคริปโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และปัจจุบันเขียนบทความวิเคราะห์ตลาด รวมถึงพัฒนาบอทช่วยเทรดให้กับสื่อสายคริปโตหลายแห่ง เขาเชี่ยวชาญด้านโทเค็นโนมิกส์ การวิเคราะห์ on-chain และการจับสัญญาณแนวโน้มในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล สนใจเป็นพิเศษในด้านการเงินแบบกระจายศูนย์และอนาคตของ We