Robinhood แพลตฟอร์มการลงทุนชื่อดังสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ ด้วยการประกาศแผนเปิดตัวหุ้นในรูปแบบโทเคน (Tokenized Shares) ของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ยังไม่เข้าตลาดหลักทรัพย์อย่าง OpenAI และ SpaceX สำหรับผู้ใช้งานในยุโรปโดยเฉพาะ การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่นำเทคโนโลยี Web3 เข้ามาผสมผสานกับโลกการเงินแบบดั้งเดิมอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งอาจเป็นการปฏิวัติวิธีที่นักลงทุนรายย่อยจะเข้าถึงสินทรัพย์ในตลาดเอกชน การมาถึงของโครงสร้างพื้นฐาน Web3 นี้กำลังจะเปลี่ยนภูมิทัศน์การลงทุนไปตลอดกาล และนี่คือจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่น่าจับตามองสำหรับวงการ Web3 ทั่วโลก
Vlad Tenev, CEO ของ Robinhood, ได้เปิดเผยแผนการอันน่าทึ่งนี้ระหว่างงานอีเวนต์ที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส โดยระบุว่าผู้ใช้งานในยุโรปที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Robinhood จะสามารถเข้าถึงและเป็นเจ้าของหุ้นโทเคนซึ่งเป็นตัวแทนกรรมสิทธิ์ในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง OpenAI และ SpaceX ได้ในไม่ช้า นี่คือการนำนวัตกรรม Web3 มาใช้เพื่อทลายกำแพงการลงทุนที่เคยจำกัดอยู่แค่ในกลุ่มนักลงทุนสถาบันหรือผู้มีความมั่งคั่งสูงเท่านั้น การใช้ประโยชน์จาก Web3 จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องและการเข้าถึงได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
นอกเหนือจากความเคลื่อนไหวของ SpaceX แล้ว อีกหนึ่งบริษัทของ Elon Musk ก็กำลังสร้างแรงกระเพื่อมในวงการเช่นกัน โดยมีรายงานว่า แพลตฟอร์ม X ของ Elon Musk เตรียมเข้าสู่ตลาด Fintech อย่างเต็มตัว ซึ่งตอกย้ำทิศทางการบุกเบิกด้านนวัตกรรมการเงินของเขา
Tenev ยังได้สาธิตการทำงานของระบบด้วยการโอนหุ้นโทเคนของ OpenAI มูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ไปยัง Robinhood Europe เพื่อเตรียมแจกจ่ายให้กับผู้ใช้งานที่มีคุณสมบัติต่อไป ซึ่งเป็นการยืนยันว่าเทคโนโลยี Web3 ที่รองรับธุรกรรมนี้พร้อมใช้งานจริงแล้ว “ธุรกรรมการโอนหุ้นโทเคนของ OpenAI ประสบความสำเร็จด้วยดี” Tenev กล่าวเสริมผ่านโพสต์บน X การเคลื่อนไหวนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นอย่างสูงต่อศักยภาพของ Web3 ในการสร้างระบบการเงินที่เปิดกว้างและโปร่งใสมากขึ้นสำหรับทุกคน
การเปิดตัวหุ้นโทเคนของ OpenAI และ SpaceX เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ที่ใหญ่กว่าของ Robinhood ในการรุกเข้าสู่ตลาดโลกด้วยเทคโนโลยี Web3 บริษัทมีแผนที่จะนำเสนอหุ้นโทเคนของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ อีกกว่า 200 บริษัทให้กับลูกค้าในยุโรป ควบคู่ไปกับการขยายบริการด้านคริปโตเคอร์เรนซี เช่น บริการ Staking และการเทรด Perpetual Futures สำหรับผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกา ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ Web3 ของบริษัท
หุ้นโทเคนเหล่านี้จะได้รับการค้ำประกันด้วยหุ้นจริงในอัตราส่วน 1:1 และคาดว่าจะสามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ซึ่งจะมอบสภาพคล่องและความยืดหยุ่นให้กับนักลงทุนทั่วโลกอย่างมหาศาล การผสานรวมสินทรัพย์ดั้งเดิมเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานของบล็อกเชนและ Web3 คือการที่ Robinhood กำลังวางตำแหน่งตัวเองให้เป็นผู้นำในจุดตัดระหว่างโลก FinTech และการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ซึ่งเป็นหัวใจหลักของระบบนิเวศ Web3 ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การพัฒนาด้าน Web3 นี้จะสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับนักลงทุนอย่างแน่นอน
การผสานเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ากับการเงินไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในแวดวงการลงทุนเท่านั้น แต่ยังขยายไปสู่ภาคการชำระเงินด้วย โดยล่าสุดมีข่าวว่า Shopify ทดสอบการใช้ USDC สำหรับจ่ายเงินออนไลน์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการนำ Web3 มาใช้ในโลกธุรกิจจริง
การตัดสินใจของ Robinhood ครั้งนี้ถือเป็นก้าวที่สำคัญเชิงกลยุทธ์เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและขยายฐานผู้ใช้งานนอกสหรัฐฯ เข้าสู่สภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Web3 ระดับโลก การนำสินทรัพย์ทางการเงินแบบดั้งเดิมมาไว้บนบล็อกเชน หรือที่เรียกว่า Tokenization คือหนึ่งในกรณีการใช้งานที่ทรงพลังที่สุดของ Web3 ซึ่งมีศักยภาพในการปลดล็อกมูลค่าและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับตลาดทุนอย่างมหาศาล
แนวโน้มนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในตลาดทุน แต่ยังรวมถึงภาคธุรกิจขนาดใหญ่ด้วยเช่นกัน ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า บริษัทใหญ่ๆ หันมาใช้ Stablecoin เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับเทคโนโลยีบล็อกเชนในระดับองค์กร
การเดิมพันของ Tenev ในหลักทรัพย์โทเคนอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงในวงกว้างว่านักลงทุนจะเข้าถึงตลาดทั้งภาครัฐและเอกชนได้อย่างไรในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความต้องการในการซื้อขายแบบเศษส่วน (Fractional Trading), การซื้อขายได้ตลอด 24/7, และการลงทุนข้ามพรมแดนกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เทคโนโลยี Web3 ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และการเคลื่อนไหวของ Robinhood ในครั้งนี้ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าอนาคตของการเงินกำลังมุ่งหน้าสู่โลก Web3 อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
การประกาศของ Robinhood ที่จะนำหุ้นโทเคนของ OpenAI และ SpaceX มาให้นักลงทุนรายย่อยในยุโรปได้ลงทุน ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงการบรรจบกันของโลกการเงินแบบดั้งเดิมและเทคโนโลยี Web3 ที่กำลังเกิดขึ้นจริง การเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงแต่จะเปิดประตูสู่การลงทุนในสินทรัพย์ที่เคยเข้าถึงได้ยาก แต่ยังเป็นการปูทางไปสู่อนาคตที่ตลาดทุนจะมีความเป็นประชาธิปไตย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยโครงสร้างพื้นฐานของ Web3 นี่คือการเดิมพันครั้งใหญ่ที่อาจกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรม FinTech และส่งเสริมให้เกิดการยอมรับเทคโนโลยี Web3 ในวงกว้างต่อไป
ทิศทางดังกล่าวสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่กำลังศึกษาเทคโนโลยีนี้อย่างจริงจังเช่นกัน โดยมีรายงานเกี่ยวกับ แผนการใช้ Stablecoin ของ Amazon และ Walmart เพื่อปฏิวัติระบบการชำระเงินและลดค่าธรรมเนียมในอนาคต
แพลตฟอร์ม X ของ Elon Musk กำลังเตรียมการเปลี่ยนแปลงครั้ […]
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาเรียกร้องให้สภาผู้แทนรา […]
Shopify แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ กำลังก้าวเข้าสู่โ […]
ยักษ์ใหญ่แห่งวงการค้าปลีกอย่าง Amazon และ Walmart กำลัง […]