Bitcoin (BTC) กลายเป็นสินทรัพย์จำเป็นสำหรับนักลงทุนชื่อดังมากมาย ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง
ตัวอย่างเช่น Robert Kiyosaki ผู้เขียนหนังสือการเงินชื่อดังอย่าง “พ่อรวยสอนลูก” (Rich Dad Poor Dad) ได้ออกมาส่งสัญญาณเตือนครั้งใหญ่ถึงความไม่สงบที่กำลังก่อตัวขึ้นในสหรัฐอเมริกา โดยชี้ว่าอาจนำไปสู่ “สงครามกลางเมือง” ที่มีรากฐานมาจากปัญหาเศรษฐกิจที่รุนแรง
และท่ามกลางความวุ่นวายนี้ เขาได้แนะนำให้นักลงทุนหันมาปกป้องความมั่งคั่งของตนเองผ่านสินทรัพย์ที่จับต้องได้จริงอย่างทองคำ, แร่เงิน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง BTC
ในโพสต์ล่าสุดบนแพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) เขาระบุว่าสงครามกลางเมืองได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ทั้งนี้ คำกล่าวของเขาเกิดขึ้นท่ามกลางความแตกแยกทางการเมืองและความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น
วิกฤตปัจจุบันซ้ำรอยประวัติศาสตร์อย่างไร? ฟังความเห็น Kiyosaki
Robert Kiyosaki เชื่อมโยงสถานการณ์ความไม่สงบในปัจจุบันเข้ากับทฤษฎี “The Fourth Turning” หรือ “วัฏจักรแห่งวิกฤต” ของนักประวัติศาสตร์อย่าง William Strauss และ Neil Howe ทฤษฎีนี้ชี้ให้เห็นว่าสังคมจะเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่ทุก ๆ หลายทศวรรษ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสังคมโดยสิ้นเชิง
ตัวอย่างของวิกฤตในอดีตที่ทฤษฎีนี้กล่าวถึง ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression), สงครามโลกครั้งที่สอง, สงครามกลางเมืองในอเมริกา และ การปฏิวัติอเมริกา
Robert เชื่อว่าวิกฤตในปัจจุบันเกิดจากความไม่พอใจของประชาชนต่อธนาคารกลาง โดยเฉพาะนโยบายการพิมพ์เงินอย่างต่อเนื่องและอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเขามองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการทำลายความมั่งคั่งของคนทั่วไป และเปรียบเสมือนการขโมยในเชิงสถาบัน
เขากล่าวว่า “ปัญหาคือเหล่าธนาคารกำลังขโมยความมั่งคั่งของประชาชนผ่านระบบเงินปลอมที่พวกเขาสร้างขึ้นจากการพิมพ์เงินของธนาคารกลาง”
นอกจากนี้ Robert ยังระบุว่าทศวรรษแห่งเงินกระดาษกำลังจะสิ้นสุดลง และผู้คนควรหันไปพึ่งพาสินทรัพย์ที่มีมูลค่าจริง เช่น ทองคำ เงิน และ Bitcoin เพื่อปกป้องอนาคตทางการเงินของพวกเขา โดยเขาเน้นว่า สินทรัพย์เหล่านี้จะช่วยลดอำนาจของธนาคารที่ทุจริตและไม่โปร่งใส
ราคา Bitcoin จะไปสู่ $1 ล้านในอีก 10 ปี…จริงหรือ?
ในฐานะผู้สนับสนุนสินทรัพย์จริงมานานหลายปี Robert Kiyosaki มองว่า BTC เป็นเกราะป้องกันเงินเฟ้อในยุคปัจจุบัน และยังเป็นเครื่องมือสำหรับการเก็บรักษาความมั่งคั่งในระยะยาวอีกด้วย
Robert คาดการณ์ว่าภายในสิ้นปีนี้ BTC อาจมีราคาสูงถึง 180,000-200,000 ดอลลาร์ และในอีก 10 ปีข้างหน้า เขาเชื่อว่า $BTC จะพุ่งไปถึง 1 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ทองคำและเงินอาจแตะ 30,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ
เขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่มองเห็นอนาคตอันสดใสของ BTC เพราะ Shunyet Jan หัวหน้าทีมอนุพันธ์จาก Bybit ก็คาดการณ์ว่า หากแนวโน้มในปัจจุบันยังคงอยู่ BTC ก็อาจแตะ 125,000 ดอลลาร์ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2026
ในขณะเดียวกัน Scott Melker นักวิเคราะห์คริปโตที่มีชื่อเสียง ก็คาดว่า BTC อาจพุ่งขึ้นไปถึง 250,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2025 โดยการเติบโตนี้จะมาจากความสนใจของสถาบันที่เพิ่มขึ้น และกรอบการกำกับดูแลที่เป็นมิตรต่อคริปโตมากยิ่งขึ้น
บรรยากาศที่เอื้อต่อการเติบโตดังกล่าวไม่ได้จำกัดเพียง BTC เท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้กับโปรเจกต์ที่มีศักยภาพสูง เช่น Bitcoin Bull Token หรือ Bitcoin Hyper อีกด้วย
จับตา Bitcoin Bull Token: โปรเจกต์ใหม่ที่โตตาม BTC พร้อมแจก BTC จริง!
BTC Bull Token ($BTCBULL) เป็น meme coin ที่มาพร้อมกับระบบนิเวศที่พัฒนาขึ้นโดยอิงจากการเติบโตของราคา BTC โปรเจกต์นี้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถรับประโยชน์จากการขึ้นลงของ BTC ได้โดยไม่จำเป็นต้องถือครอง BTC โดยตรง ซึ่งแตกต่างจาก meme coin อื่น ๆ ที่มักจะพึ่งพากระแสชั่วคราว

BTCBULL วางแผนระบบนิเวศที่มีเป้าหมายและกลยุทธ์ชัดเจน พร้อมทั้งผูกพันกับมูลค่าของ BTC
โปรเจกต์นี้ตั้งอยู่บนความเชื่อมั่นที่ว่า BTC จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตจะสามารถทะลุ 250,000 ดอลลาร์ได้
เพื่อเป็นการดึงดูดนักลงทุนและสนับสนุนผู้ถือเหรียญระยะยาว โปรเจ็กต์ BTC Bull Token มีแผนเปิดตัวกลไกการเผาเหรียญ (Burning Mechanism) และแจก Airdrop เมื่อ BTC แตะราคาที่กำหนดไว้
จุดเด่นของ BTC Bull ได้แก่:
- Tokenomics ที่ผูกกับ BTC: ระบบเผาเหรียญและ Airdrop จะถูกกระตุ้นเมื่อ BTC บรรลุเป้าหมายราคาที่กำหนด
- ผลตอบแทนจากการ Staking สูง: ปัจจุบันให้ผลตอบแทน 57% ต่อปี (APY)
- การเติบโตที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน: ผสมผสานวัฒนธรรม meme กับปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคและการเติบโตของ BTC
นอกจากนี้ YouTuber อย่าง JNVCK Crypto ยังได้พูดถึงศักยภาพของ BTC Bull ในวิดีโอ “Top 5 meme coins” ซึ่งเป็นการยืนยันว่าโปรเจกต์นี้น่าสนใจไม่น้อย
ใครพลาดซื้อก่อนการขายพรีเซลจบลง คุณอาจจะไม่ได้เห็นโทเค็น BTCBULL ราคาถูกอีกเลย!
ผู้ที่สนใจสามารถซื้อโทเค็น BTC Bull ได้ที่เว็บไซต์ทางการหรือผ่านแอปพลิเคชัน Best Wallet โดยราคาต่อโทเค็นในรอบพรีเซลล์ปัจจุบันอยู่ที่ 0.00256 ดอลลาร์ และสามารถชำระผ่าน ETH, USDT, BNB, SOL หรือบัตรเครดิตก็ได้
หมายเหตุ: การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นความเสี่ยงสูง และจำเป็นต้องใช้ความรับผิดชอบอย่างสูงสุด
บทสรุป Bitcoin: นาทีนี้ ไม่มีไม่ได้แล้ว!
คำเตือนของ Robert Kiyosaki เกี่ยวกับวิกฤตที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ และการผู้คนมีความเชื่อมั่นต่อสินทรัพย์ทางเลือกอย่าง BTC, ทองคำ และเงิน มากขึ้น ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่แน่นอนและผู้คนเริ่มไม่ไว้วางใจสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม สินทรัพย์เหล่านี้กลับได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ในขณะเดียวกัน โปรเจกต์ BTC Bull ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรม meme และเศรษฐกิจจริง กำลังกลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม
บล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล, Web3, วิเคราะห์แนวโน้มราคาสินทรัพย์, โทเค็นโนมิกส์ Tanawat Thanichapol เป็นนักวิเคราะห์คริปโตและที่ปรึกษาบล็อกเชนอิสระจากประเทศไทยที่มีประสบการณ์กว่า 7 ปี จบหลักสูตรด้านเศรษฐกิจดิจิทัลจาก MIT Initiative on the Digital Economy (IDE) เขาเคยร่วมงานกับสตาร์ทอัพคริปโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และปัจจุบันเขียนบทความวิเคราะห์ตลาด รวมถึงพัฒนาบอทช่วยเทรดให้กับสื่อสายคริปโตหลายแห่ง เขาเชี่ยวชาญด้านโทเค็นโนมิกส์ การวิเคราะห์ on-chain และการจับสัญญาณแนวโน้มในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล สนใจเป็นพิเศษในด้านการเงินแบบกระจายศูนย์และอนาคตของ We