Home » บริษัทมหาชนแห่ซื้อ Bitcoin แซงหน้า ETF 3 ไตรมาสติด!

บริษัทมหาชนแห่ซื้อ Bitcoin แซงหน้า ETF 3 ไตรมาสติด!

02.07.2025 13:51 2 นาทีที่อ่าน Tanawat Thanichapol
Disclosure

บทความนี้อาจมีลิงก์พันธมิตร ซึ่งทางเว็บไซต์อาจได้รับค่าตอบแทนหากผู้อ่านคลิกหรือลงทะเบียนผ่านลิงก์ดังกล่าว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับผู้อ่าน หากคุณยังคงใช้ไซต์นี้ต่อไป แสดงว่าคุณยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขของเรา


แบ่งปัน: หุ้น

การลงทุนในคริปโตมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง เนื้อหาในเว็บไซต์จัดทำเพื่อให้ข้อมูล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน เนื้อหาบางส่วนอาจมี Affiliate Links ซึ่งเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่น โปรดอ่าน Affiliate Disclaimer และนโยบายบรรณาธิการสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม

บริษัทมหาชนแห่ซื้อ Bitcoin แซงหน้า ETF 3 ไตรมาสติด!

ตลาดคริปโตกำลังจับตาสัญญาณสำคัญ เมื่อข้อมูลล่าสุดจาก Coindesk และ BitcoinTreasuries.net เผยว่าบริษัทมหาชน (Public Companies) ได้เร่งเครื่องเข้าซื้อ Bitcoin แซงหน้ากองทุน Spot Bitcoin ETF เป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกันแล้ว สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ครั้งใหญ่ ที่องค์กรธุรกิจเริ่มมอง Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองเพื่อการเติบโตระยะยาวมากกว่าแค่การเก็งกำไร ปรากฏการณ์นี้ไม่เพียงแต่สร้างแรงขับเคลื่อนใหม่ให้กับตลาด Bitcoin แต่ยังบ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นใน Bitcoin จากภาคธุรกิจกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

เปิดข้อมูล: บริษัทมหาชนทุ่มซื้อ Bitcoin แซงหน้า ETF อย่างชัดเจน

จากข้อมูลล่าสุดใน BitcoinTreasuries.net ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน) กลุ่มบริษัทมหาชนได้เพิ่มขึ้นมาถึง 23 บริษัท และได้เพิ่มการถือครอง Bitcoin อย่างมหาศาล โดยเข้าซื้อไปประมาณ 131,000 BTC คิดเป็นการเติบโตถึง 18% จากไตรมาสก่อนหน้า ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นถึงความต้องการ Bitcoin ที่แข็งแกร่งจากภาคธุรกิจอย่างแท้จริง

ในทางกลับกัน กลุ่มกองทุน Spot Bitcoin ETF แม้จะยังคงเป็นผู้เล่นรายใหญ่ แต่กลับมีการเติบโตที่ช้ากว่า โดยเพิ่มการถือครองไปเพียง 111,000 BTC หรือเติบโตขึ้น 8% ในช่วงเวลาเดียวกัน การที่บริษัทมหาชนมีอัตราการเข้าซื้อ Bitcoin ที่สูงกว่า ETF ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกันนี้ ถือเป็นเทรนด์ที่น่าจับตาและกำลังเปลี่ยนภูมิทัศน์การลงทุนใน Bitcoin ไปอย่างสิ้นเชิง

สำหรับนักลงทุนรายย่อยที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเทรนด์นี้และต้องการเริ่มต้น การทำความเข้าใจขั้นตอนการลงทุนก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยสามารถศึกษา วิธีซื้อ Bitcoin อย่างละเอียดสำหรับผู้เริ่มต้น เพื่อเป็นแนวทางในการเข้าสู่ตลาด

วิเคราะห์ภาพรวมการถือครอง Bitcoin ใครคือเจ้ามือตัวจริง?

แม้ว่าอัตราการเข้าซื้อของบริษัทมหาชนจะมาแรง แต่หากมองในภาพรวมของปริมาณการถือครองทั้งหมด กองทุน Spot Bitcoin ETF ยังคงเป็นผู้ถือครอง Bitcoin รายใหญ่ที่สุด โดยมี Bitcoin ในครอบครองมากกว่า 1.4 ล้าน BTC ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 6.8% ของอุปทาน Bitcoin ทั้งหมดที่มีจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญ

ภาพรวมการถือครอง Bitcoin เจ้ามือตัวจริงคือ ETF

ในขณะที่กลุ่มบริษัทมหาชนทั้งหมดถือครอง Bitcoin รวมกันอยู่ที่ประมาณ 4% ของอุปทานทั้งหมด ความแตกต่างนี้ชี้ให้เห็นว่า แม้บริษัทต่างๆ จะเร่งสะสม Bitcoin แต่ก็ยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าจะไล่ทันปริมาณที่กองทุน ETF ถืออยู่ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการเติบโตที่รวดเร็วกว่ากำลังส่งสัญญาณว่าสมดุลอำนาจในการถือครอง Bitcoin อาจเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต

ปัจจัยเบื้องหลัง: ทำไมบริษัทถึงเร่งสะสม Bitcoin

เหตุผลหลักที่บริษัทมหาชนหันมาใช้กลยุทธ์สะสม Bitcoin ในคลังสำรอง (Treasury) คือการมองหาโอกาสเติบโตเชิงกลยุทธ์ที่เหนือกว่าเครื่องมือการลงทุนแบบดั้งเดิม การถือครอง Bitcoin ช่วยให้บริษัทสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ดึงดูดนักลงทุนกลุ่มใหม่ๆ ที่มีความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ดิจิทัล และเปิดประตูสู่แหล่งเงินทุนใหม่ๆ ที่มองเห็นศักยภาพของ Bitcoin

กลยุทธ์นี้ถูกนำมาใช้และพิสูจน์ความสำเร็จโดยผู้นำในวงการอย่าง Michael Saylor ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการใช้ Bitcoin เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน โดย กลยุทธ์ Bitcoin ของ Saylor ทำกำไรมหาศาลถึง 14,000 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สองเพียงไตรมาสเดียว และได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับองค์กรอื่นๆ

ความน่าสนใจคือ แนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไปแม้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง เช่น ในเดือนเมษายน 2025 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับผลกระทบจากการประกาศนโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่บริษัทมหาชนก็ยังขยายการถือครอง Bitcoin เพิ่มขึ้น 4% แซงหน้า ETF ที่เติบโตเพียง 2% สิ่งนี้ตอกย้ำว่าบริษัทเหล่านี้ไม่ได้มอง Bitcoin เป็นเพียงการลงทุนระยะสั้น แต่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ระยะยาว

เจาะลึกสถิติ: การเติบโตของ Bitcoin ในคลังองค์กร

ข้อมูลจาก BitcoinTreasuries.net ยังช่วยฉายภาพให้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าการยอมรับ Bitcoin ในภาคธุรกิจไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในเชิงปริมาณ แต่ยังขยายตัวในเชิงกว้างอีกด้วย ปัจจุบันมีบริษัทมหาชนที่ประกาศถือครอง Bitcoin อย่างเป็นทางการถึง 141 แห่ง ซึ่งมากกว่าจำนวนกองทุน ETF ที่มีอยู่ 44 แห่งอย่างชัดเจน

จำนวนบริษัทมหาชนที่ประกาศถือ Bitcoin

 

หนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนของเทรนด์นี้คือบริษัท Metaplanet จากญี่ปุ่น ซึ่งกำลังสร้างความฮือฮาด้วยการเดินหน้ารับ Bitcoin เป็นสินทรัพย์หลักของบริษัท โดยล่าสุด Metaplanet ได้ทุ่มซื้อ Bitcoin เพิ่มอีกจำนวนมาก จนกลายเป็นผู้ถือครองรายใหญ่ของโลก

เช่นเดียวกันกับบริษัทในอุตสาหกรรมเหมืองขุดอย่าง Marathon Digital (MARA) ที่ยังคงเดินหน้าสะสม Bitcoin อย่างต่อเนื่อง แม้จะเผชิญกับความท้าทายด้านการผลิต ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในระยะยาว โดย การสะสม Bitcoin ของ MARA ก็เป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาที่น่าสนใจ

ภาพรวมทั้งหมดแสดงให้เห็นว่ามีองค์กรที่ถือ Bitcoin รวมกันถึง 254 ราย และตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นถึง 23 รายภายในช่วง 30 วันที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าการสะสม Bitcoin กำลัง “กระจายตัวในแนวลึก” คือมีปริมาณการซื้อเพิ่มขึ้น และ “ขยายตัวในแนวกว้าง” คือมีจำนวนผู้เล่นในตลาดเพิ่มขึ้น โดยมีกลุ่มบริษัทมหาชนเป็นผู้นำเทรนด์นี้อย่างแท้จริง การยอมรับ Bitcoin ในระดับนี้กำลังสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับการเติบโตในอนาคต

สรุป: บริษัทมหาชนกำลังเปลี่ยนเกมการลงทุนใน Bitcoin

การที่บริษัทมหาชนเร่งเข้าซื้อ Bitcoin แซงหน้ากองทุน ETF ถึง 3 ไตรมาสติดต่อกัน ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ มันแสดงให้เห็นว่า Bitcoin ได้รับการยอมรับในฐานะสินทรัพย์สำรองเชิงกลยุทธ์ (Strategic Treasury Asset) ไม่ใช่แค่สินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไรอีกต่อไป แนวโน้มนี้ไม่เพียงแต่จะสร้างเสถียรภาพให้กับราคา Bitcoin ในระยะยาว แต่ยังเป็นการปูทางให้องค์กรอื่นๆ หันมาพิจารณาการลงทุนใน Bitcoin มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ระบบนิเวศของ Bitcoin แข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

การเคลื่อนไหวของสถาบันเหล่านี้ทำให้นักลงทุนจำนวนมากเริ่มตั้งคำถามถึงทิศทางในอนาคต และพิจารณาว่า การลงทุน Bitcoin ตอนนี้ยังทันหรือไม่ ซึ่งการวิเคราะห์แนวโน้มราคาจึงเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจ

บล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล, Web3, วิเคราะห์แนวโน้มราคาสินทรัพย์, โทเค็นโนมิกส์ Tanawat Thanichapol เป็นนักวิเคราะห์คริปโตและที่ปรึกษาบล็อกเชนอิสระจากประเทศไทยที่มีประสบการณ์กว่า 7 ปี จบหลักสูตรด้านเศรษฐกิจดิจิทัลจาก MIT Initiative on the Digital Economy (IDE) เขาเคยร่วมงานกับสตาร์ทอัพคริปโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และปัจจุบันเขียนบทความวิเคราะห์ตลาด รวมถึงพัฒนาบอทช่วยเทรดให้กับสื่อสายคริปโตหลายแห่ง เขาเชี่ยวชาญด้านโทเค็นโนมิกส์ การวิเคราะห์ on-chain และการจับสัญญาณแนวโน้มในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล สนใจเป็นพิเศษในด้านการเงินแบบกระจายศูนย์และอนาคตของ We

Telegram

แบ่งปัน: หุ้น
มากกว่า Bitcoin - ข่าวล่าสุดวันนี้
ยังไม่มีความคิดเห็น!

ที่อยู่อีเมลของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่