Peter Schiff เงิบทุกโพสต์! Bitcoin สวนทุกคำทำนายที่เคยเตือน

Peter Schiff นักเศรษฐศาสตร์และผู้สนับสนุนทองคำตัวยง เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะนักวิจารณ์ Bitcoin ที่เสียงดังที่สุดคนหนึ่ง เขามักจะมองว่า Bitcoin เป็นเพียงฟองสบู่เก็งกำไรหรือ “แชร์ลูกโซ่ดิจิทัล” เมื่อย้อนดูโพสต์ของเขาใน X (Twitter) ตลอดหลายปีที่ผ่านมา จะเห็นถึงความกังขาที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว กลับเป็นการประเมินความยืดหยุ่นและการสนับสนุนจากสถาบันที่เพิ่มขึ้นของ Bitcoin ต่ำเกินไป ในขณะที่ Bitcoin ได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีพลังทางการเมืองและการเงินที่แข็งแกร่งหนุนหลัง ท่าทีของ Schiff จึงกลายเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ปฏิเสธนวัตกรรมใหม่ๆ การตรวจสอบคำทำนายในอดีตของเขาแสดงให้เห็นว่าเขามองพลาดเป้าไปมากเพียงใด ซึ่งตอกย้ำถึงอันตรายของกรอบความคิดที่ตายตัวในโลกการเงินที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเติบโตของ Bitcoin ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะโชคช่วย แต่เป็นผลมาจากการยอมรับในวงกว้าง

Peter Schiff มองข้ามพลังสถาบันที่หนุน Bitcoin

ในเดือนมิถุนายน 2023 Schiff ได้ทวีตว่า “#Bitcoin พุ่งทะลุ $28K วันนี้จากข่าวที่บริษัท Wall Street กำลังสร้างตลาดแลกเปลี่ยน… การมีช่องทางให้เล่นพนันกับ Bitcoin มากขึ้น ไม่ได้ทำให้มันมีมูลค่า” โพสต์นี้ด้อยค่าการยอมรับ Bitcoin จากสถาบันการเงินที่กำลังเติบโต โดยมองว่าเป็นเพียงการเก็งกำไร แต่ในความเป็นจริง การเข้ามาของยักษ์ใหญ่แห่ง Wall Street อย่าง BlackRock เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงไปสู่การยอมรับในกระแสหลัก ซึ่งผลักดันให้ราคา Bitcoin พุ่งสูงเกินกว่า 28,000 ดอลลาร์อย่างมหาศาลในปีต่อๆ มา การมองข้ามปัจจัยพื้นฐานนี้ทำให้การวิเคราะห์ของเขาเกี่ยวกับ Bitcoin คลาดเคลื่อนอย่างมาก

ต่อมาในเดือนเมษายน 2024 Schiff ยิ่งตอกย้ำความเชื่อของเขาโดยกล่าวว่า “ผมไม่คิดว่า #Bitcoin มีมูลค่าที่แท้จริงเลย… ในท้ายที่สุด ผมคิดว่า MicroStrategy จะล้มละลาย” คำกล่าวอ้างที่ท้าทายนี้พุ่งเป้าไปที่ MicroStrategy บริษัทที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของการนำ Bitcoin มาใช้ในระดับองค์กรภายใต้การนำของ Michael Saylor แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้ามกับคำทำนายของ Schiff หุ้นของ MicroStrategy พุ่งสูงขึ้นตามราคาของ Bitcoin และมูลค่าการถือครอง Bitcoin ของบริษัทก็เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 44,000 ล้านดอลลาร์ภายในต้นปี 2025 ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงคุณค่าของการลงทุนใน Bitcoin อย่างมีกลยุทธ์

การพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin ไม่เพียงแต่พิสูจน์คุณค่าในตัวเอง แต่ยังส่งผลกระทบในวงกว้าง ทำให้นักลงทุนเริ่มมองหา เหรียญคริปโตอื่น ๆ ที่น่าลงทุนตามไปด้วย

การโจมตีมูลค่าที่แท้จริงและปรัชญาของ Bitcoin

ในเดือนกรกฎาคม 2024 Schiff โต้แย้งว่า “ส่วนที่แย่ที่สุดของ #Bitcoin คือการที่มันถูกนำไปเชื่อมโยงอย่างไม่เป็นธรรมกับแนวคิดอย่างเงินที่มั่นคง (sound money)… เมื่อฟองสบู่แตกในที่สุด ความล้มเหลวของ Bitcoin จะถูกนำมาใช้ประโยชน์” สิ่งนี้สะท้อนความเชื่อของเขาที่ว่าปรัชญาการกระจายอำนาจของ Bitcoin เป็นเพียงฉากหน้า อย่างไรก็ตาม ความสามารถของ Bitcoin ในการฟื้นตัวผ่านวัฏจักรตลาดต่างๆ และการใช้งานที่เพิ่มขึ้นในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ได้ท้าทายคำกล่าวอ้างนี้อย่างสิ้นเชิง โดยมีนักลงทุนสถาบันและแม้กระทั่งรัฐบาลบางแห่งเริ่มสำรวจ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์สำรอง

แนวคิดนี้ยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้นเมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ วิกฤตหนี้สหรัฐฯ ทำให้ Bitcoin ถูกจับตามอง ในฐานะทางเลือกใหม่ของสินทรัพย์สำรอง

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 Schiff เรียก Bitcoin ว่าเป็น “แชร์ลูกโซ่ดิจิทัล” ที่ต้องพึ่งพา “อิทธิพลทางการเมืองเพื่อบังคับให้ผู้เสียภาษีค้ำจุนกลโกงนี้ต่อไป” คำพูดนี้เพิกเฉยต่อการสนับสนุนที่เพิ่มขึ้นจากทั้งสองพรรคการเมืองในสหรัฐอเมริกา โดยบุคคลสำคัญอย่างวุฒิสมาชิก Cynthia Lummis และรองประธานาธิบดี J.D. Vance ต่างสนับสนุนนโยบายที่เป็นมิตรต่อ Bitcoin การผลักดันให้มีกองทุนสำรอง Bitcoin เชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ (U.S. Strategic Bitcoin Reserve) ยิ่งตอกย้ำถึงแรงผลักดันทางการเมืองที่ Schiff มองข้ามไปโดยสิ้นเชิง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Bitcoin ได้กลายเป็นสินทรัพย์ที่มีความสำคัญในระดับประเทศแล้ว

อิทธิพลทางการเมืองที่ Schiff มองข้ามไปนั้นมีผลอย่างยิ่งต่อตลาด ซึ่งเห็นได้จาก การวิเคราะห์ราคา Bitcoin ที่พุ่งสูงจากอิทธิพลของ Trump และปัจจัยทางการเมืองอื่นๆ ที่เข้ามาสนับสนุน

ในที่สุด เดือนมีนาคม 2025 Peter Schiff ก็ได้ประกาศตั้ง “Strategic Bitcoin Reserve” ของตัวเองแบบประชดประชัน พร้อมประกาศว่าเขาจะ “จมไปพร้อมกับเรือลำนี้” เพื่อพิสูจน์ข้อเสียของ Bitcoin ด้วยตัวเอง ทว่า แคมเปญดังกล่าวกลับสะท้อนให้เห็นว่าเขาเริ่มยอมรับอิทธิพลเชิงวัฒนธรรมของ Bitcoin อย่างไม่เต็มใจ และเข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับชุมชนที่เขาเคยวิจารณ์มาตลอด

กรณีของ Peter Schiff เป็นบทเรียนสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงอันตรายของกรอบความคิดที่ยึดติดกับแบบแผนเดิมๆ ในโลกการเงินที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา Bitcoin ได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่นของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า ผ่านการยอมรับจากสถาบันการเงินชั้นนำ การสนับสนุนจากฝ่ายการเมือง และการใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะเผชิญกับคำวิจารณ์ที่รุนแรง แต่พื้นฐานของ Bitcoin ก็ยังคงแข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อไปในอนาคต สำหรับนักลงทุน การเปิดใจและศึกษาเทคโนโลยีใหม่อย่าง Bitcoin คือกุญแจสำคัญในการมองหาโอกาสที่ไม่ควรมองข้าม

Phitchaya Rattanavong

พิชญา รัตนวงศ์ เป็นนักข่าวและนักวิเคราะห์ด้านคริปโตเคอเรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชน ผู้มีความเชี่ยวชาญในการถ่ายทอดข้อมูลที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายสำหรับผู้อ่านทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือผู้เชี่ยวชาญในวงการ ด้วยประสบการณ์กว่า 8 ปีในสายงานข่าวการเงินดิจิทัลและการกำกับดูแล Web3 พิชญาเคยร่วมงานกับทั้งสื่อในประเทศและต่างประเทศ เช่น Bangkok Biz, Asia Blockchain Review และ BeInCrypto เธอมุ่งมั่นในการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้กำหนดนโยบาย ผู้พัฒนาเทคโนโลยี และนักลงทุน พร้อมส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่องกฎระเบียบคริปโตในบริบทไทย-อาเซียน ผลงานของเธอมีจุดเด่นด้านการวิเคราะห์ข่าว DeFi การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ Web3 ที่กำลังเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค