Michael Saylor จัดหนัก! ทุ่มซื้อ BTC อีก $1.05B!

Michael Saylor และบริษัท Strategy กลับมาสร้างความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อีกครั้งในตลาดคริปโต ด้วยการประกาศเข้าซื้อ Bitcoin (BTC) เพิ่มเติมอีก 10,100 BTC คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การเข้าซื้อครั้งนี้ไม่เพียงแต่ตอกย้ำความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าที่ Saylor มีต่อ Bitcoin แต่ยังส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังนักลงทุนทั่วโลก

เปิดพอร์ตล่าสุด MicroStrategy หลังทุ่มซื้อ BTC เพิ่มล็อตใหญ่

ตามประกาศล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2025 Michael Saylor ยืนยันว่า Strategy ได้เข้าซื้อ Bitcoin เพิ่มจำนวน 10,100 BTC ในราคาเฉลี่ยประมาณ 104,080 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ทำให้มูลค่าการลงทุนในครั้งนี้สูงถึง 1.05 พันล้านดอลลาร์

การซื้อครั้งนี้ส่งผลให้พอร์ตการลงทุนของ Strategy มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างมหาศาล โดยปัจจุบันบริษัทถือครอง Bitcoin ทั้งสิ้น 592,100 BTC คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 41.84 พันล้านดอลลาร์ โดยมีต้นทุนเฉลี่ยในการเข้าซื้ออยู่ที่ 70,666 ดอลลาร์ต่อ BTC ซึ่งหมายความว่าบริษัทมีกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (Unrealized Profit) จำนวนมหาศาล

ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับ Strategy เพียงบริษัทเดียว เพราะล่าสุดมีรายงานว่า บริษัท Metaplanet ได้เข้าสะสม Bitcoin เพิ่มเติม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการยอมรับในระดับองค์กรที่กว้างขวางขึ้น

วิเคราะห์กลยุทธ์ Saylor เดิมพันอนาคต BTC ไม่สนความผันผวน

กลยุทธ์ของ Strategy ยังคงแน่วแน่ในการสะสม Bitcoin อย่างต่อเนื่อง โดยใช้เงินทุนที่ได้มาจากการขายหุ้นและตราสารหนี้ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้บริษัทกลายเป็นผู้ถือครอง Bitcoin รายใหญ่ที่สุดในกลุ่มบริษัทมหาชน แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายทางกฎหมายจากนักลงทุนบางกลุ่มตามรายงานเมื่อเดือนพฤษภาคม 2025 ก็ตาม

กลยุทธ์การลงทุนอย่างต่อเนื่องนี้สอดคล้องกับมุมมองของเขาที่ว่า Bitcoin ได้พ้นยุคแห่งความผันผวนรุนแรงแล้ว และกำลังเข้าสู่ช่วงของสินทรัพย์ที่มีเสถียรภาพมากขึ้น

การตัดสินใจเข้าซื้อในช่วงที่ราคา BTC ค่อนข้างมีเสถียรภาพบริเวณ 104,000 ดอลลาร์ ชี้ให้เห็นถึงการเข้าซื้ออย่างมีแบบแผนและคำนวณมาอย่างดี อย่างไรก็ตาม การสะสมในปริมาณมหาศาลนี้ได้จุดประกายให้เกิดการถกเถียงในตลาดเกี่ยวกับผลกระทบต่ออุปทานและความกังวลเรื่องการชี้นำตลาด ซึ่งยังคงต้องรอการศึกษาผลกระทบในระยะยาวต่อไป

อิทธิพลของกลยุทธ์นี้ได้แผ่ขยายไปในวงกว้าง โดยมีรายงานว่า แม้แต่ Trump และ GameStop ก็เริ่มถือ Bitcoin ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแนวทางของ Saylor กำลังกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ในตลาด

Bitcoin Hyper ($HYPER): โอกาสใหม่บน Layer-2 ของ BTC

จากการเดินหน้าสะสม BTC ของ Michael Saylor ทำให้นักลงทุนหลายคนเริ่มมองหาโอกาสในตลาด Altcoin ที่ต่อยอดจากระบบนิเวศของ Bitcoin โดยเฉพาะโปรเจกต์ Layer-2 ที่กำลังมาแรงอย่าง Bitcoin Hyper ($HYPER) ซึ่งมีเป้าหมายปฏิวัติการใช้งาน Bitcoin จากสินทรัพย์เก็บมูลค่าสู่ระบบนิเวศที่รองรับ dApps และ DeFi ได้เต็มรูปแบบ

โอกาสสุดท้ายก่อน Presale ปิดรอบ! Bitcoin Hyper ($HYPER) ระดมทุนไปแล้วกว่า 1 ล้านดอลลาร์ในเวลาอันสั้น และกำลังเป็นที่จับตาอย่างมาก หากความต้องการ BTC จากสถาบันยังคงแข็งแกร่ง โปรเจกต์ที่ช่วยขยายขีดความสามารถอย่าง $HYPER อาจให้ผลตอบแทนมากกว่าการถือ BTC ตรงๆ หลายเท่า และเป็นหนึ่งในเหรียญ Altcoin ที่น่าสนใจสำหรับตลาดกระทิงรอบนี้

Bitcoin Hyper สร้างขึ้นบน Solana Virtual Machine (SVM) เพื่อแก้ปัญหาความช้าของ Bitcoin ดั้งเดิม ทำให้สามารถรองรับธุรกรรมความเร็วสูงและค่าธรรมเนียมต่ำ เหมาะสำหรับ DeFi, NFT และ Meme Coin โดยปัจจุบันโปรเจกต์อยู่ในช่วง Presale ซึ่งผู้ลงทุนสามารถซื้อได้ด้วย ETH, USDT, BNB หรือบัตรเครดิต พร้อมเข้าร่วมโปรแกรม Stake เพื่อรับผลตอบแทนสูงถึง 700-2,000% APY ได้ทันที

สรุป: Michael Saylor เดิมพันสุดตัว หนุน BTC สู่เป้าหมายใหม่

การเข้าซื้อ Bitcoin ครั้งล่าสุดของ Michael Saylor เป็นการส่งสารที่ทรงพลังว่า เขายังคงเชื่อมั่นในศักยภาพระยะยาวของ BTC อย่างไม่เปลี่ยนแปลง การกระทำที่ชัดเจนนี้มีน้ำหนักมากกว่าคำพูดใดๆ และเป็นการตอกย้ำว่า Bitcoin ยังคงเป็นสินทรัพย์เก็บมูลค่าชั้นนำสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ การเคลื่อนไหวนี้อาจเป็นแรงผลักดันสำคัญที่หนุนให้ราคา BTC เดินหน้าสู่เป้าหมายใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้

เป้าหมายดังกล่าวสอดคล้องกับที่ Michael Saylor ฟันธงว่า Bitcoin จะพุ่งทะลุ หนึ่งล้านดอลลาร์ในอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกต่างจับตามอง การเข้าซื้อครั้งใหญ่นี้ทำให้นักลงทุนจำนวนมากตั้งคำถามว่า การลงทุน Bitcoin ตอนนี้ยังทันหรือไม่ และทิศทางราคาในอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป

Tanawat Kittikajorn

บล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล, Web3, วิเคราะห์แนวโน้มราคาสินทรัพย์, โทเค็นโนมิกส์ Tanawat Thanichapol เป็นนักวิเคราะห์คริปโตและที่ปรึกษาบล็อกเชนอิสระจากประเทศไทยที่มีประสบการณ์กว่า 7 ปี จบหลักสูตรด้านเศรษฐกิจดิจิทัลจาก MIT Initiative on the Digital Economy (IDE) เขาเคยร่วมงานกับสตาร์ทอัพคริปโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และปัจจุบันเขียนบทความวิเคราะห์ตลาด รวมถึงพัฒนาบอทช่วยเทรดให้กับสื่อสายคริปโตหลายแห่ง เขาเชี่ยวชาญด้านโทเค็นโนมิกส์ การวิเคราะห์ on-chain และการจับสัญญาณแนวโน้มในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล สนใจเป็นพิเศษในด้านการเงินแบบกระจายศูนย์และอนาคตของ We