Home » BTC ขึ้นลงตาม ETF เป็นหลัก! ไม่ใช่การซื้อของบริษัท…จริงดิ?

BTC ขึ้นลงตาม ETF เป็นหลัก! ไม่ใช่การซื้อของบริษัท…จริงดิ?

26.06.2025 11:32 1 นาทีที่อ่าน Tanawat Thanichapol
Disclosure

บทความนี้อาจมีลิงก์พันธมิตร ซึ่งทางเว็บไซต์อาจได้รับค่าตอบแทนหากผู้อ่านคลิกหรือลงทะเบียนผ่านลิงก์ดังกล่าว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับผู้อ่าน หากคุณยังคงใช้ไซต์นี้ต่อไป แสดงว่าคุณยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขของเรา


แบ่งปัน: หุ้น

การลงทุนในคริปโตมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง เนื้อหาในเว็บไซต์จัดทำเพื่อให้ข้อมูล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน เนื้อหาบางส่วนอาจมี Affiliate Links ซึ่งเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่น โปรดอ่าน Affiliate Disclaimer และนโยบายบรรณาธิการสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม

BTC ขึ้นลงตาม ETF เป็นหลัก! ไม่ใช่การซื้อของบริษัท…จริงดิ?

BTC หรือ Bitcoin ขับเคลื่อนโดยนักลงทุนสถาบันก็จริง แต่รายงานล่าสุดจาก K33 Research ได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจว่า กระแสเงินทุนไหลเข้ากองทุน Spot Bitcoin ETF ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญที่สุด ซึ่งมีอิทธิพลต่อราคามากกว่าการเข้าซื้อของบริษัทใหญ่ๆ อย่างมีนัยสำคัญ ทำเอานักลงทุนอ้าปากค้างไปตามๆ กัน

Vetle Lunde จาก K33 ชี้ว่า การไหลเข้า (inflow) ของเงินทุนสู่ Spot Bitcoin ETF มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับการเคลื่อนไหวของราคา โดยข้อมูลเชิงสถิติแสดงให้เห็นว่าปัจจัยนี้มีผลกระทบต่อความผันผวนราย 30 วันของ Bitcoin ถึง 80%

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนที่ผ่านมา การไหลเข้าของ ETF กลับชะลอตัวลง โดยมีการเพิ่มขึ้นเพียง 13,000 เหรียญ ซึ่งส่งผลให้ราคาของ Bitcoin สะท้อนความเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน

เอาจริงดิ? การซื้อ BTC ของบริษัทใหญ่ไม่ได้ช่วยดันราคาขนาดนั้น?

แม้ว่าจะมีข่าวบริษัทมหาชนจำนวนมากหันมาสะสม Bitcoin ในคลังสินทรัพย์ของตนเอง แต่กลับไม่ได้ส่งผลกระทบต่อราคาในตลาดอย่างที่หลายคนคาดหวัง

K33 Research ชี้ว่าบริษัทเหล่านี้จำนวนมากไม่ได้ซื้อ Bitcoin จากตลาดเปิดโดยตรง…

แต่ใช้วิธีการ “แลกเปลี่ยนหุ้นกับคริปโต” (share-for-crypto swaps) กับผู้ถือรายใหญ่เดิม เช่น Tether และ Bitfinex

ตัวอย่างเช่น บริษัท Twenty One ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Softbank ก็ใช้วิธีนี้ในการสร้างพอร์ต Bitcoin ของตนเอง ธุรกรรมลักษณะนี้ไม่ได้สร้างอุปสงค์ใหม่ในตลาด ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างการสะสมของบริษัทกับราคา Bitcoin อยู่ในระดับต่ำเพียง 0.18 เท่านั้น

ปัจจัยมหภาคและเหตุการณ์โลกยังคงป่วนตลาด Bitcoin

นอกเหนือจากกระแสเงินทุนแล้ว ปัจจัยมหภาคและเหตุการณ์ระดับโลกยังคงสร้างความผันผวนให้กับราคา Bitcoin อย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านที่ส่งผลให้ราคา Bitcoin ร่วงลงไปถึง 98,200 ดอลลาร์ ก่อนจะดีดตัวกลับมาที่ 105,000 ดอลลาร์อย่างรวดเร็วหลังมีข่าวความหวังในการหยุดยิง 

เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เกิดการล้างพอร์ตสถานะฟิวเจอร์สครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดยมีสถานะ Long ที่ถูกบังคับขายไปกว่า 17,000 BTC

นอกจากนี้ ตลาดยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนจากการเจรจางบประมาณของรัฐบาลทรัมป์และกำหนดเส้นตายด้านภาษี ซึ่งอาจทำให้ตลาดยังไม่สงบลงในเร็วๆ นี้

บทวิเคราะห์จาก K33 Research สรุปได้ว่า ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนราคา Bitcoin ในปัจจุบันคือกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าและออกจาก Spot ETF ส่วนการเข้าซื้อของบริษัทต่างๆ แม้จะเป็นข่าวใหญ่ แต่กลับมีผลกระทบต่อตลาดน้อยกว่าที่คิด เนื่องจากไม่ได้เป็นการสร้างอุปสงค์ใหม่

ในขณะเดียวกัน นักลงทุนยังต้องเฝ้าระวังความผันผวนจากปัจจัยมหภาคและสถานการณ์โลกที่พร้อมจะส่งผลกระทบต่อตลาดได้ทุกเมื่อ เราแนะนำให้คุณติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ Bitcoin ของเราอยู่เสมอ

บล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล, Web3, วิเคราะห์แนวโน้มราคาสินทรัพย์, โทเค็นโนมิกส์ Tanawat Thanichapol เป็นนักวิเคราะห์คริปโตและที่ปรึกษาบล็อกเชนอิสระจากประเทศไทยที่มีประสบการณ์กว่า 7 ปี จบหลักสูตรด้านเศรษฐกิจดิจิทัลจาก MIT Initiative on the Digital Economy (IDE) เขาเคยร่วมงานกับสตาร์ทอัพคริปโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และปัจจุบันเขียนบทความวิเคราะห์ตลาด รวมถึงพัฒนาบอทช่วยเทรดให้กับสื่อสายคริปโตหลายแห่ง เขาเชี่ยวชาญด้านโทเค็นโนมิกส์ การวิเคราะห์ on-chain และการจับสัญญาณแนวโน้มในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล สนใจเป็นพิเศษในด้านการเงินแบบกระจายศูนย์และอนาคตของ We

Telegram

แบ่งปัน: หุ้น
มากกว่า Bitcoin - ข่าวล่าสุดวันนี้
ยังไม่มีความคิดเห็น!

ที่อยู่อีเมลของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่