กระแสความสนใจใน Stablecoin กำลังถาโถมเข้าสู่ภาคธุรกิจของสหรัฐฯ อย่างรุนแรง บริษัทจำนวนมากตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรยักษ์ใหญ่ต่างกำลังมองหาโซลูชันการชำระเงินบนบล็อกเชน เพื่อหลีกเลี่ยงความไร้ประสิทธิภาพของระบบการเงินแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนว่าโลกการเงินกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว
ผลการวิจัยล่าสุดจาก Coinbase เผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า ผู้บริหารจากบริษัทใน Fortune 500 เกือบ 30% ยอมรับว่าองค์กรของพวกเขากำลังพิจารณาหรือได้เริ่มนำ Stablecoin มาปรับใช้แล้ว ซึ่งตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากเพียง 8% ในปีที่แล้ว สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วขององค์กรขนาดใหญ่ต่อเทคโนโลยีการเงินที่ขับเคลื่อนด้วยคริปโต
เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้คือความไม่พอใจต่อระบบธนาคารแบบเก่าที่ทั้งล่าช้า มีค่าธรรมเนียมสูง และมีข้อจำกัดในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน Stablecoin จึงกลายเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าดึงดูด ด้วยความสามารถในการทำธุรกรรมที่รวดเร็ว ต้นทุนต่ำ และไร้พรมแดนโดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง
ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในฝั่งบริษัทเทคโนโลยีเท่านั้น แต่สถาบันการเงินดั้งเดิมก็เริ่มปรับตัวเช่นกัน โดยล่าสุดมีข่าวว่า Societe Generale เตรียมเปิดตัว Stablecoin ของตัวเอง บนบล็อกเชนยอดนิยมอย่าง Ethereum และ Solana
ในขณะเดียวกัน บริษัทฟินเทคชั้นนำอย่าง Stripe ก็กำลังเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน โดยมีรายงานว่า Stripe ได้ร่วมมือกับธนาคารใหญ่เพื่อผลักดัน Stablecoin ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงระหว่างโลกการเงินใหม่และเก่าเข้าด้วยกัน
ขณะเดียวกัน ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMBs) ก็กำลังตามมาติดๆ โดยผลสำรวจพบว่าผู้นำ SMBs กว่า 80% มองว่า Stablecoin คือทางออกของปัญหาค่าธรรมเนียมที่สูงและอุปสรรคการชำระเงินระหว่างประเทศ เพิ่มขึ้นจาก 61% ในปีก่อนหน้า และเกือบครึ่งหนึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้คริปโตภายในสามปีข้างหน้า
เทรนด์นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวคิด แต่มีข้อมูล On-Chain ที่ยืนยันอย่างชัดเจน โดยปริมาณการทำธุรกรรม Stablecoin รายเดือนพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงปลายปี 2024 ถึงต้นปี 2025 แตะระดับกว่า 717,000 ล้านดอลลาร์ และเมื่อรวมปริมาณธุรกรรมทั้งปีมีมูลค่าสูงถึง 27.6 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งแซงหน้าปริมาณการใช้จ่ายผ่าน Visa และ Mastercard รวมกันไปแล้ว
นอกจากนี้ จำนวนผู้ถือครอง Stablecoin ทั่วโลกยังพุ่งสูงกว่า 161 ล้านคน ซึ่งมากกว่าฐานผู้ใช้งานของแอปพลิเคชันธนาคารชั้นนำในสหรัฐฯ เสียอีก การเติบโตนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในภาคธุรกิจเท่านั้น แต่สถาบันระดับโลกอย่าง Uber ก็กำลังศึกษาการใช้ Stablecoin เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการชำระเงินทั่วโลก ในขณะที่หน่วยงานภาครัฐในรัสเซียและสหรัฐฯ ก็ได้ประกาศแผนที่จะสำรวจกลยุทธ์ Stablecoin ระดับชาติเช่นกัน
ทิศทางการเติบโตนี้ยังได้รับแรงหนุนจากมุมมองของบุคคลสำคัญทางการเมือง ซึ่งมีรายงานว่า Trump ได้แสดงการสนับสนุนวงการ Fintech และคาดการณ์ว่าตลาด Stablecoin อาจมีมูลค่ามหาศาลในอนาคต
การยอมรับ Stablecoin ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในกลุ่มบริษัท Fortune 500 และธุรกิจทั่วโลก ชี้ให้เห็นว่าสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทนี้ได้ก้าวข้ามจากการเป็นเพียงเครื่องมือทางการเงินเฉพาะกลุ่ม ไปสู่การเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่สำคัญระดับโลกแล้ว นี่คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญซึ่งจะผลักดันให้เทคโนโลยี Fintech และบล็อกเชนกลายเป็นกระแสหลักที่นักลงทุนและทุกภาคส่วนต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
การเคลื่อนไหวของสถาบันการเงินระดับโลกเป็นเครื่องยืนยันถึงทิศทางนี้ได้เป็นอย่างดี ดังเช่นธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง Santander ที่กำลังเตรียมลุยตลาด Stablecoin ทั้งในสกุลเงินดอลลาร์และยูโร ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการการเงินโลก
ตามรายงานจาก Theblock.com Scott Bessent รัฐมนตรีว่าการก […]
ธนาคารยักษ์ใหญ่จากยุโรป Societe Generale ผ่านบริษัทในเค […]
Ethereum กำลังก้าวขึ้นมาเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับสถ […]
David Schwartz ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ของ […]