ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีปิดฉากครึ่งแรกของปี 2025 ไปด้วยภาพที่น่าประหลาดใจ แม้ภาพรวมตลาดจะเติบโตขึ้นเล็กน้อย แต่สินทรัพย์ดิจิทัลเบอร์สองของโลกอย่าง Ethereum กลับมีมูลค่าร่วงลงอย่างหนัก สวนทางกับ Bitcoin ที่ยังคงแข็งแกร่ง คำถามสำคัญที่นักลงทุนต่างสงสัยคือ อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ราคา Ethereum ดิ่งลงอย่างรุนแรง และแนวโน้มในอนาคตของ Ethereum จะเป็นอย่างไรต่อไป ท่ามกลางความผันผวนนี้ ยังมีโอกาสซ่อนอยู่หรือไม่ บทวิเคราะห์นี้จะเจาะลึกทุกแง่มุมของสถานการณ์ Ethereum ในปัจจุบัน
ภาพรวมตลาดคริปโตครึ่งปีแรก: เติบโตเพียงเล็กน้อยแต่ซ่อนความผันผวนมหาศาล
เมื่อมองภาพรวมตลาดคริปโตในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2025 จะพบว่ามูลค่าตลาดรวมเพิ่มขึ้นเพียง 2.14% แตะระดับ 3.25 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ตัวเลขนี้อาจดูเหมือนตลาดไม่มีความเคลื่อนไหวมากนัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตลอดช่วงเวลาดังกล่าวเต็มไปด้วยความผันผวนอย่างรุนแรง และเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญซึ่งส่งผลดีต่อ Bitcoin แต่กลับเป็นผลเสียต่อสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Ethereum
การเติบโตเพียงเล็กน้อยของตลาดโดยรวมนั้นบดบังความจริงที่ว่าเกิดการโยกย้ายเงินทุนครั้งสำคัญ นักลงทุนจำนวนมากเลือกที่จะลดความเสี่ยงโดยการย้ายเงินออกจาก Altcoins และหันไปถือ Bitcoin แทน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นใน Bitcoin ที่มีมากกว่าในยามที่ตลาดไม่แน่นอน ซึ่งสถานการณ์นี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาของ Ethereum อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
วิเคราะห์ราคา Ethereum ดิ่งหนัก สวนทาง Bitcoin ที่ยังคงแข็งแกร่ง
ข้อมูลสถิติในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025 แสดงให้เห็นภาพที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงระหว่างสองเหรียญยักษ์ใหญ่ โดยราคา Ethereum (ETH) ได้สูญเสียมูลค่าไปมากกว่า 26% ในขณะที่ราคา Bitcoin (BTC) กลับปรับตัวสูงขึ้นถึง 14.5% ในช่วงเวลาเดียวกัน ความแตกต่างนี้ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนมอง Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า (Safe Haven) ในโลกคริปโต

ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับ Ethereum เพียงเหรียญเดียว แต่ยังส่งผลกระทบไปยังตลาด Altcoin ในวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มเหรียญที่อยู่นอก 10 อันดับแรกของตลาดซึ่งมีมูลค่าลดลงรวมกันกว่า 30% การร่วงลงของราคา Ethereum จึงเปรียบเสมือนสัญญาณเตือนถึงสภาวะที่ยากลำบากของตลาด Altcoin ทั้งหมด ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากระแสเงินทุนกำลังไหลออกจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอย่าง Ethereum ไปสู่สินทรัพย์ที่มั่นคงกว่า
เจาะลึกสาเหตุหลักที่กดดันราคา Ethereum ในปี 2025
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคา Ethereum ร่วงลงอย่างหนักคือ ‘ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาค’ (Macro-economic uncertainty) ในช่วงเวลาที่สภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเปราะบางและทิศทางไม่ชัดเจน นักลงทุนมักจะเทขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่ง Ethereum ถูกจัดอยู่ในกลุ่มนี้เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับการใช้งานในระบบนิเวศ DeFi และ NFT ที่อ่อนไหวต่อสภาวะเศรษฐกิจ
ในทางตรงกันข้าม Bitcoin สามารถยืนหยัดและรักษาเสถียรภาพของราคาได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากมองว่า Bitcoin มีคุณสมบัติคล้ายกับ ‘ทองคำดิจิทัล’ ซึ่งเป็นสินทรัพย์สำหรับเก็บรักษามูลค่าในยามวิกฤต ความแตกต่างในการรับรู้ของนักลงทุนนี้เองที่ทำให้ปี 2025 เป็นปีที่ท้าทายอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ถือครอง Ethereum และทำให้ราคาของ Ethereum เคลื่อนไหวสวนทางกับ Bitcoin
มองไปข้างหน้า: สัญญาณบวกที่อาจหนุนการฟื้นตัวของ Ethereum
แม้ว่าสถานการณ์ของ Ethereum ในปัจจุบันจะดูน่าเป็นห่วง แต่ก็เริ่มมีสัญญาณบวกปรากฏขึ้นที่อาจนำไปสู่การฟื้นตัวได้ในอนาคต โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวในด้านกฎระเบียบของสหรัฐอเมริกา เช่น ร่างกฎหมาย GENIUS Act ที่จะสร้างความชัดเจนให้กับ Stablecoins และ CLARITY Act ที่จะกำหนดนิยามของสินทรัพย์ดิจิทัลแต่ละประเภทให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ความชัดเจนทางกฎหมายเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนสถาบัน ซึ่งอาจนำไปสู่การไหลกลับของเงินทุนเข้าสู่ตลาด Altcoin และ Ethereum อีกครั้ง นอกจากนี้ การคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในอนาคต ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกสำคัญ เนื่องจากในอดีต ตลาดคริปโตมักจะทำผลงานได้ดีในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งจะช่วยหนุนให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่าง Ethereum กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง
แนวโน้มดังกล่าวเริ่มเห็นเป็นรูปธรรมแล้ว เมื่อมีรายงานว่าสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่เริ่มใช้ Ethereum เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพของเครือข่ายในระยะยาว
นอกเหนือจากความเคลื่อนไหวของสถาบันแล้ว สัญญาณจากนักลงทุนรายใหญ่หรือ ‘วาฬ’ ก็เป็นที่น่าจับตาเช่นกัน โดยมีข้อมูลว่าวาฬเริ่มช้อนซื้อ Ethereum คาดการณ์การฟื้นตัว ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นในมูลค่าพื้นฐานของเหรียญ
ด้วยปัจจัยบวกเหล่านี้ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองตรงกันว่าปี 2025 อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ Ethereum แม้ว่าราคาในปัจจุบันจะยังไม่สะท้อนศักยภาพที่แท้จริงก็ตาม
TOKEN6900 ($T6900) เหรียญ Meme มาแรงที่อาจสร้างเศรษฐีใหม่
ท่ามกลางความผันผวนของ Ethereum และตลาด Altcoin นักลงทุนจำนวนมากเริ่มมองหาโอกาสทำกำไรสูงในเหรียญทางเลือก โดยเฉพาะเหรียญมีมที่มีโอกาสเติบโตแบบไวรัลอย่าง TOKEN6900 (T6900) ที่กำลังเป็นกระแสร้อนแรง จากแรงบันดาลใจในความสำเร็จของ SPX6900 ที่เคยสร้างผลตอบแทนมหาศาล TOKEN6900 มาพร้อมคอนเซปต์ที่กล้าหาญและจริงใจที่สุดในตลาด คือการเป็นเหรียญที่ ‘ไม่มี Utility’ และ ‘ไม่มีโร้ดแมป’ ซึ่งนี่คือจุดแข็งที่ทำให้มันแตกต่าง เพราะไม่มีการให้คำสัญญาที่เกินจริง มีเพียงพลังของชุมชนและความโปร่งใส

โปรเจกต์นี้เปิดขายโทเคนถึง 80% ในรอบ Presale โดยไม่มีรอบพิเศษสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ (VC) ทำให้เป็นโอกาสของชุมชนอย่างแท้จริง ด้วย Hard Cap เพียง 5 ล้านดอลลาร์ ทำให้มีโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ง่าย ปัจจุบันราคา Presale อยู่ที่ $0.0064 และกำลังจะปรับขึ้นในรอบถัดไป นี่อาจเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่มองหาเหรียญทางเลือกที่มีศักยภาพสูง ท่ามกลางสภาวะที่ตลาด Ethereum ยังคงเผชิญกับความท้าทาย
สรุป: Ethereum เผชิญมรสุม แต่แสงสว่างรออยู่ปลายอุโมงค์?
โดยสรุป การที่ราคา Ethereum ร่วงลงอย่างหนักในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 ในขณะที่ Bitcoin ยังคงแข็งแกร่งนั้น มีสาเหตุหลักมาจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาคที่ผลักดันให้นักลงทุนหันไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของ Ethereum อาจไม่ได้มืดมนเสมอไป ความชัดเจนทางกฎหมายที่กำลังจะเกิดขึ้นในสหรัฐฯ ประกอบกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ย อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยพลิกฟื้นความเชื่อมั่นและดึงดูดเม็ดเงินให้ไหลกลับเข้ามาสู่ระบบนิเวศของ Ethereum อีกครั้ง นักลงทุนจึงควรจับตาสถานการณ์ของ Ethereum อย่างใกล้ชิด เพราะนี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับอนาคตของราชาแห่ง Altcoin อย่าง Ethereum
พิชญา รัตนวงศ์ เป็นนักข่าวและนักวิเคราะห์ด้านคริปโตเคอเรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชน ผู้มีความเชี่ยวชาญในการถ่ายทอดข้อมูลที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายสำหรับผู้อ่านทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือผู้เชี่ยวชาญในวงการ ด้วยประสบการณ์กว่า 8 ปีในสายงานข่าวการเงินดิจิทัลและการกำกับดูแล Web3 พิชญาเคยร่วมงานกับทั้งสื่อในประเทศและต่างประเทศ เช่น Bangkok Biz, Asia Blockchain Review และ BeInCrypto
เธอมุ่งมั่นในการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้กำหนดนโยบาย ผู้พัฒนาเทคโนโลยี และนักลงทุน พร้อมส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่องกฎระเบียบคริปโตในบริบทไทย-อาเซียน ผลงานของเธอมีจุดเด่นด้านการวิเคราะห์ข่าว DeFi การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ Web3 ที่กำลังเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค