เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2025 ราคาของ Ethereum (ETH) ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 8% ภายในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ขณะที่ Bitcoin (BTC) แม้จะสามารถทะลุระดับ 120,000 ดอลลาร์ได้ แต่กลับปรับขึ้นเพียง 1.6% ในช่วงเวลาเดียวกัน สาเหตุหลักที่ทำให้ราคา ETH พุ่งแรง มาจากการผ่านร่างกฎหมาย GENIUS Act ซึ่งช่วยสร้างความชัดเจนทางกฎหมายในเรื่องของ stablecoin ที่ส่วนใหญ่พัฒนาขึ้นบนเครือข่าย Ethereum
อีกปัจจัยสำคัญคือแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ Ethereum ยังคงรักษาบทบาทสำคัญในฐานะโครงสร้างพื้นฐานของ Web3 ได้อย่างแข็งแกร่ง
ในขณะที่ Bitoin มีแนวโน้มชะลอตัวหลังจากสร้างจุดสูงสุดระยะสั้น สิ่งที่น่าจับตามองกลับกลายเป็นพัฒนาการที่เกิดขึ้นบนเครือข่ายของ Bitcoin เอง โดยเฉพาะโครงการ Layer2 ที่ชื่อว่า Bitcoin Hyper (HYPER) ซึ่งกำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม
ในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา HYPER สามารถระดมทุนได้เพิ่มอีกกว่า 300,000 ดอลลาร์ ทำให้ยอดรวมการระดมทุนของโปรเจกต์นี้ทะลุระดับ 3.31 ล้านดอลลาร์เรียบร้อยแล้ว โดยราคาซื้อขายของโทเค็น HYPER ขณะนี้อยู่ที่ 0.0123 ดอลลาร์ และเหลือเวลาอีกไม่ถึง 14 ชั่วโมงก่อนที่ราคาจะถูกปรับขึ้นในรอบ presale ถัดไป
การเคลื่อนไหวของตลาดในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมคริปโตอย่างมีนัยสำคัญ โดย Ethereum ยังคงโดดเด่นในฐานะรากฐานของ Web3 ส่วน Bitcoin ก็เริ่มพัฒนาไปสู่แพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่นและหลากหลายยิ่งขึ้น ผ่านโครงสร้าง Layer2 ที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
Ethereum แข็งแกร่งต่อเนื่อง ขณะ Bitcoin เปิดศักราชใหม่ผ่าน Layer2 สุดล้ำ
Ethereum (ETH) ยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ โดยแตะระดับสูงสุดชั่วคราวที่ 3,626 ดอลลาร์ในช่วงวันศุกร์ ก่อนจะปรับตัวเล็กน้อยลงมาอยู่ที่ราว 3,585.50 ดอลลาร์ในช่วงเวลาที่เขียนบทความนี้ การเคลื่อนไหวของราคานี้ได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันและปัจจัยทางการเมืองที่เอื้อต่อการเติบโตของตลาดคริปโต

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ร่างกฎหมาย GENIUS Act ซึ่งเคยผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภามาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ โดยเนื้อหาของกฎหมายมุ่งเน้นไปที่การกำกับดูแล stablecoin และสินทรัพย์แบบ tokenized ในระดับรัฐบาลกลาง
เนื่องจากโครงสร้างของ stablecoin และแพลตฟอร์ม DeFi ส่วนใหญ่อยู่บนเครือข่าย Ethereum ทำให้กฎหมายฉบับนี้ถูกมองว่าเป็นตัวเร่งสำคัญที่ช่วยสนับสนุนความแข็งแกร่งของระบบนิเวศ Ethereum และกระตุ้นความสนใจจากนักลงทุนสถาบันอย่างต่อเนื่อง
อีกหนึ่งปัจจัยที่ตอกย้ำความเชื่อมั่นใน ETH คือการที่กองทุน ETF ประเภท spot ที่ลงทุนใน Ethereum มีเงินทุนไหลเข้าสดใหม่กว่า 726 ล้านดอลลาร์ภายในสัปดาห์เดียว สะท้อนให้เห็นถึงการเพิ่มน้ำหนักของนักลงทุนสถาบันที่ตอบรับต่อความชัดเจนด้านกฎระเบียบที่กำลังเกิดขึ้น

ในทางกลับกัน Bitcoin (BTC) กลับเผชิญภาวะชะลอตัว หลังจากเคยแตะจุดสูงสุดที่ 122,838 ดอลลาร์ในช่วงก่อนหน้า ราคากลับอ่อนตัวลงไปที่ 116,000 ดอลลาร์เมื่อต้นสัปดาห์ ก่อนจะดีดกลับมาอยู่ในระดับปัจจุบัน นักลงทุนมองว่าการปรับฐานในครั้งนี้เป็นผลมาจากการขาดปัจจัยใหม่ที่กระตุ้นราคาอย่างมีนัยสำคัญ
ถึงแม้ราคาจะดูนิ่ง แต่ความเชื่อมั่นในศักยภาพระยะยาวของ Bitcoin ยังไม่หายไป เพียงแต่การลงทุนกำลังเคลื่อนไปสู่รูปแบบใหม่ โดยหนึ่งในไฮไลต์ของสัปดาห์นี้คือการเปิดตัวของ Bitcoin Hyper (HYPER) โปรเจกต์ Layer2 ความเร็วสูงที่พัฒนาขึ้นบน Solana Virtual Machine (SVM)
แม้เพิ่งเปิดตัวได้เพียงราวหนึ่งเดือน แต่ presale ของ HYPER กลับได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากนักลงทุน ถือเป็นสัญญาณบวกที่แสดงให้เห็นถึงความสนใจในทิศทางใหม่ของ Bitcoin ในฐานะแพลตฟอร์มที่สามารถโปรแกรมและขยายขอบเขตการใช้งานได้มากกว่าการเป็นเพียงเครือข่ายสำหรับการโอนมูลค่า
การเปลี่ยนผ่านนี้สะท้อนถึงการปรับยุทธศาสตร์ของผู้ที่เชื่อมั่นใน Bitcoin ซึ่งกำลังหันไปสนับสนุนโครงการที่ช่วยยกระดับความสามารถของเครือข่าย ผ่านเทคโนโลยี Layer2 ที่ทันสมัยและตอบโจทย์การใช้งานในโลก Web3
HYPER ปฏิวัติ Bitcoin Layer2 ด้วย SVM – พร้อมดัน BTC สู่โลกโปรแกรมเมเบิล
Bitcoin Hyper หรือ HYPER กำลังกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในวิวัฒนาการของเครือข่าย Bitcoin โดยใช้เทคโนโลยี Layer2 บน Solana Virtual Machine (SVM) เพื่อขยายขีดความสามารถของ BTC ให้เข้าสู่โลกของการใช้งานที่ยืดหยุ่นและโปรแกรมเมเบิล
แนวคิดเบื้องหลังของ HYPER คือการนำ BTC จริงไปล็อกไว้บนเครือข่ายหลักผ่านสะพานแบบ non-custodial ซึ่งใช้กลไก zeroknowledge proof เพื่อรักษาความปลอดภัย จากนั้นจึงสร้างเหรียญ wrapped บน Layer2 ของเครือข่าย HYPER เพื่อให้สามารถใช้งาน BTC ได้ในระบบใหม่ที่มีความเร็วสูงโดยไม่กระทบต่อคุณสมบัติดั้งเดิมของ Bitcoin
ระบบนี้เปิดทางให้ BTC ไม่เพียงแต่เป็นสินทรัพย์สำหรับเก็บมูลค่าใน cold wallet หรือ ETF อีกต่อไป แต่สามารถนำมาใช้งานจริงในแอปพลิเคชันต่างๆ ที่เคยถูกจำกัด ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายด้วยค่าธรรมเนียมต่ำ การใช้งานใน DeFi ที่อิงสภาพคล่องของ BTC โดยตรง หรือแม้กระทั่งการสร้างและแลกเปลี่ยน NFT ที่รันบนเครือข่าย Bitcoin อย่างแท้จริง
แม้ว่ากระบวนการทั้งหมดจะเกิดขึ้นบน Layer2 แต่ BTC ดั้งเดิมยังคงถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยบนเครือข่ายหลักซึ่งได้รับการปกป้องด้วยระบบ consensus ของ Bitcoin เอง สะพานที่เชื่อมต่อระหว่างสองระบบใช้ zeroknowledge proof ในการตรวจสอบ ทำให้การเคลื่อนย้าย BTC เข้าออกจาก Layer2 สามารถทำได้โดยไม่ต้องพึ่งพาตัวกลาง และยังรักษาความโปร่งใสตามแบบฉบับของ Bitcoin
กระบวนการถอนเหรียญก็ทำได้ง่าย เพียงผู้ใช้ burn เหรียญ wrapped BTC บน Layer2 เหรียญ BTC จริงก็จะถูกปล่อยออกจากสะพานกลับคืนสู่เครือข่ายหลักทันที

เพื่อสนับสนุนระบบนิเวศของนักพัฒนา Bitcoin Hyper ยังเปิดตัว SDKs และ APIs พร้อมรองรับภาษา Rust ซึ่งเป็นภาษายอดนิยมในสายงานพัฒนา Web3 และ Solana โดยนักพัฒนาสามารถเริ่มต้นเขียนโปรแกรมได้ทันทีโดยไม่ต้องเรียนรู้ระบบใหม่หรือต้องเผชิญกับข้อจำกัดเชิงโครงสร้างแบบในอดีต เช่นที่พบใน Stacks หรือ Rootstock
แนวทางของ HYPER จึงไม่เพียงแต่ขยายศักยภาพของ Bitcoin แต่ยังรักษาแก่นแท้ของมันเอาไว้อย่างครบถ้วน พร้อมทั้งเปิดพื้นที่ใหม่ให้ชุมชนพัฒนาสร้างสรรค์นวัตกรรมบนรากฐานของเครือข่ายที่มีความน่าเชื่อถือที่สุดในโลก
HYPER ชูอนาคต BTC ใหม่ ระดมทุนพุ่งกว่า $3.3M นักพัฒนาแห่เข้าใช้
ในขณะที่ Ethereum ยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันและผู้ใช้งานจริง จากบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ Web3 และกฎหมายใหม่ที่ช่วยเพิ่มความชัดเจนด้านกฎระเบียบ ทิศทางของ Bitcoin กลับดูคลุมเครือในช่วงเวลานี้ ส่งผลให้กระแสเงินทุนบางส่วนเริ่มเคลื่อนไปยังโครงการที่มีเป้าหมายในการต่อยอดศักยภาพของ Bitcoin โดยเฉพาะในด้านการใช้งานจริง
หนึ่งในโครงการที่กำลังได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วคือ Bitcoin Hyper (HYPER) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเปลี่ยนบทบาทของ Bitcoin จากสินทรัพย์เก็บมูลค่ามาเป็นระบบที่สามารถโปรแกรมได้อย่างยืดหยุ่น โดยใช้เทคโนโลยี Layer2 บน Solana Virtual Machine (SVM)
ในขณะนี้ โครงการ Bitcoin Hyper สามารถระดมทุนในช่วง presale ได้มากกว่า 3.31 ล้านดอลลาร์เรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันก็มีเหรียญ HYPER มากกว่า 191 ล้านโทเคนที่ถูก stake บนโปรโตคอล native ของระบบ ซึ่งให้ผลตอบแทนแบบ dynamic สูงถึง 274% ต่อปี (APY) ตัวเลขนี้สะท้อนความเชื่อมั่นในระยะยาวของกลุ่มนักลงทุนรุ่นแรกที่เข้าร่วม
เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงโทเคน HYPER ผู้ใช้งานสามารถซื้อ Bitcoin Hyper ได้ผ่านหลากหลายช่องทาง ทั้ง SOL, ETH, USDT, BNB และแม้กระทั่งบัตรเครดิต นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังแนะนำให้ใช้งานผ่าน Best Wallet ซึ่งได้ลิสต์ HYPER ไว้ในหมวด Upcoming Tokens เรียบร้อยแล้ว ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถติดตาม จัดการ และเคลมโทเคนได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น
ผู้สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของโปรเจกต์ได้ผ่านช่องทางโซเชียลอย่าง Telegram และ X
บล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล, Web3, วิเคราะห์แนวโน้มราคาสินทรัพย์, โทเค็นโนมิกส์ Tanawat Thanichapol เป็นนักวิเคราะห์คริปโตและที่ปรึกษาบล็อกเชนอิสระจากประเทศไทยที่มีประสบการณ์กว่า 7 ปี จบหลักสูตรด้านเศรษฐกิจดิจิทัลจาก MIT Initiative on the Digital Economy (IDE) เขาเคยร่วมงานกับสตาร์ทอัพคริปโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และปัจจุบันเขียนบทความวิเคราะห์ตลาด รวมถึงพัฒนาบอทช่วยเทรดให้กับสื่อสายคริปโตหลายแห่ง เขาเชี่ยวชาญด้านโทเค็นโนมิกส์ การวิเคราะห์ on-chain และการจับสัญญาณแนวโน้มในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล สนใจเป็นพิเศษในด้านการเงินแบบกระจายศูนย์และอนาคตของ We