ตลาด Ethereum (ETH) กำลังร้อนระอุเป็นพิเศษ หลังจากข้อมูลล่าสุดเผยว่ามูลค่าสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures Open Interest) ได้พุ่งทะยานทำสถิติสูงสุดใหม่ตลอดกาล (All-Time High) ทะลุ 2 หมื่นล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากการเก็งกำไรของนักลงทุนรายย่อย ประกอบกับการเข้าสะสมอย่างต่อเนื่องของสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่อย่าง BlackRock ซึ่งส่งสัญญาณว่าราคาอาจกำลังเตรียมตัวพุ่งสู่เป้าหมายใหม่ในเร็วๆ นี้
ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน Glassnode ยืนยันว่า มูลค่ารวมของสัญญาซื้อขาย Ethereum ล่วงหน้า (Futures Open Interest) ได้พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่กว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ แม้ว่าราคา Spot ของ ETH จะยังเคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่าแนวต้านสำคัญที่ 2,800 ดอลลาร์ก็ตาม ปรากฏการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงการใช้ Leverage ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในตลาด ซึ่งหมายความว่านักเทรดกำลังเดิมพันกับการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตด้วยความมั่นใจที่มากขึ้น
$ETH futures open interest (cash-margined) just hit a new all-time high – topping $20B. Despite a slight pullback from the $2.8K levels, leverage continues to build as traders load up using stablecoins. pic.twitter.com/XP3KmhkdJ1
— glassnode (@glassnode) June 12, 2025
ขณะเดียวกัน CryptoQuant บริษัทวิเคราะห์ข้อมูล On-chain ได้ชี้ให้เห็นว่าความถี่ในการเทรด Futures ของนักลงทุนรายย่อยได้พุ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 1 ปี ซึ่งสวนทางกับกิจกรรมบนเครือข่าย Bitcoin ที่ค่อนข้างซบเซา การเติบโตนี้ส่วนใหญ่ขับเคลื่อนโดยสัญญาประเภท Cash-Margined ซึ่งนักเทรดใช้ Stablecoins ในการวางหลักประกันเพื่อเพิ่มกำลังซื้อ ซึ่งแม้จะช่วยขยายโอกาสทำกำไร แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงและความผันผวนให้กับตลาดโดยรวมเช่นกัน
6/ Futures Trading Frequency Spikes Above its 1-year Average
Futures trading frequency among small investors just spiked above its 1-year average. The Retail Activity Surge metrics signals 'Too Many Retail' on the futures exchanges. pic.twitter.com/vloW1JYFOb
— CryptoQuant.com (@cryptoquant_com) June 10, 2025
ความคึกคักของตลาด Ethereum ที่สวนทางกับ Bitcoin นี้ทำให้นักวิเคราะห์หลายคนเริ่มจับตามองว่า ETH จะสามารถแซงหน้า BTC ในไตรมาส 3 ได้หรือไม่ ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าติดตามอย่างยิ่ง
นอกเหนือจากแรงเก็งกำไรของรายย่อยแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่หนุนตลาด ETH คือการเข้าซื้ออย่างต่อเนื่องจากฝั่งสถาบัน โดยล่าสุดมีรายงานว่า BlackRock บริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เข้าซื้อเหรียญเพิ่มอีกเป็นมูลค่ากว่า 163.6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นของสถาบันที่มีต่อศักยภาพของ Ethereum ในระยะยาว
ข้อมูลจาก Lookonchain ยังเผยให้เห็นถึงกิจกรรมของนักลงทุนรายใหญ่ (Whales) ที่ทำการถอน ETH จำนวนมหาศาลออกจาก Exchange ต่างๆ เช่น Abraxas Capital ที่ถอน ETH ออกไปถึง 44,612 เหรียญ (มูลค่าประมาณ 123 ล้านดอลลาร์) จาก Binance และ Kraken ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การถอนเหรียญออกจาก Exchange ไปเก็บในกระเป๋าส่วนตัวมักเป็นสัญญาณของการสะสมเพื่อถือครองระยะยาว
Whale/institution 0xFC82 withdrew 33,500 $ETH($93.5M) from #Binance over the past 2 days.https://t.co/fqx0FAPCaP pic.twitter.com/CaOeJVzeYu
— Lookonchain (@lookonchain) June 12, 2025
การสะสมเพื่อถือครองระยะยาวนี้สอดคล้องกับการวิเคราะห์ของหลายสำนักที่มองบวกต่ออนาคตของเหรียญ ซึ่งสามารถศึกษา แนวโน้มราคา Ethereum ในปี 2025-2030 เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนได้
ด้วยปัจจัยบวกเหล่านี้ นักวิเคราะห์หลายรายจึงมองว่า ETH มีโอกาสที่จะทะลุแนวต้านสำคัญที่ 2,800 ดอลลาร์ และอาจพุ่งขึ้นไปทดสอบระดับจิตวิทยาที่ 3,000 ดอลลาร์ได้ในไม่ช้า อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังความเสี่ยงจากการใช้ Leverage ที่สูงเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่การล้างพอร์ต (Liquidation) อย่างรุนแรงหากตลาดเกิดความผันผวน
สถานการณ์เช่นนี้ทำให้หลายคนมองว่า ราคา Ether อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ ซึ่งการเคลื่อนไหวในระยะสั้นนี้อาจเป็นตัวกำหนดทิศทางในอนาคตได้
โดยสรุป สถานการณ์ของ Ethereum ในปัจจุบันได้รับแรงหนุนจากสองปัจจัยหลัก คือ การเก็งกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงในตลาด Futures จากฝั่งรายย่อย และการเข้าสะสมอย่างต่อเนื่องจากสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่อย่าง BlackRock และเหล่าวาฬ การบรรจบกันของสองแรงขับเคลื่อนนี้ได้ผลักดันให้ความเชื่อมั่นในตลาด ETH พุ่งสูงขึ้น และสร้างโอกาสที่ราคาจะสามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ 2,800 ดอลลาร์ และมุ่งหน้าสู่ 3,000 ดอลลาร์ได้ แต่นักลงทุนยังคงต้องจับตาความเสี่ยงจากความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นจาก Leverage ที่สูงเป็นประวัติการณ์นี้อย่างใกล้ชิด
นอกจากปัจจัยที่กล่าวมาแล้ว การอนุมัติ Spot Ethereum ETF ก็เป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่อาจส่งผลต่อราคาอย่างมหาศาล ทำให้นักลงทุนต่างมองหา เหรียญคริปโตที่น่าลงทุนในช่วงเวลานี้ เพื่อคว้าโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงของตลาด
Bitcoin (BTC) กลายเป็นสินทรัพย์จำเป็นสำหรับนักลงทุนชื่อ […]
วันนี้ราคา Pi Network (PI) ดิ่งหนัก ร่วงลงกว่า 12% เรีย […]
Bitcoin กำลังจะเข้าสู่ยุคใหม่ด้วยการเปิดตัว Layer 2 ที่ […]
Ethereum Foundation ได้เปิดตัวโครงการรักษาความปลอดภัยที […]