คาดการณ์ราคา Dogecoin, Shiba Inu และ Pepe — 24 มิถุนายน 2025

ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีโดยรวมยังคงอยู่ในช่วงชะลอตัว เพราะความตึงเครียดในตะวันออกกลางดูเหมือนจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เหรียญมีมชั้นนำอย่าง Dogecoin, Shiba Inu และ Pepe ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง โดย Dogecoin และ Shiba Inu ทำจุดต่ำสุดใหม่ ขณะที่ Pepe หลุดแนวรับสำคัญ

Dogecoin เสี่ยงต่ำกว่า 0.15 ดอลลาร์

Dogecoin ปิดสัปดาห์ในแดนลบติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 โดยปรับตัวลดลงกว่า -10% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าช่วงต้นสัปดาห์นี้ Dogecoin ได้ฟื้นตัวเล็กน้อยกว่า 0.5% ท่ามกลางแรงขายที่เริ่มลดลง

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2025 ราคาได้ร่วงลงแตะจุดต่ำสุดในรอบสองเดือนที่ 0.1427 ดอลลาร์ก่อนจะปิดวันที่ระดับ 0.1512 ดอลลาร์ แนวโน้มขาลงที่ทวีความรุนแรงขึ้น กำลังกดดันระดับแนวรับที่ 0.1428 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดที่เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2025

หาก Dogecoin ปิดต่ำกว่าระดับ 0.1428 ดอลลาร์อีกครั้ง อาจเปิดทางให้ราคาร่วงลงแตะจุดต่ำสุดของปีนี้ที่ 0.1298 ดอลลาร์

MACD เคลื่อนไหวลงในแดนลบพร้อมเส้นสัญญาณซึ่งสะท้อนแรงขายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ RSI อยู่ที่ระดับ 28 ซึ่งเข้าสู่เขต “ขายมากเกินไป” ซึ่งชี้ว่าตลาดอาจเริ่มมีแรงซื้อกลับในระยะสั้น

หาก Dogecoin สามารถกลับมายืนเหนือระดับ 0.1710 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง อาจเปิดทางให้ดีดกลับสู่ระดับจิตวิทยาที่ 0.20 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง

Shiba Inu เสี่ยงหลุดแนวรับจิตวิทยา

Shiba Inu ขยับขึ้นเล็กน้อยไม่ถึง 1% โดยยังสามารถยืนเหนือแนวรับจิตวิทยาที่ 0.000010 ดอลลาร์ได้ อย่างไรก็ตาม การที่ราคาลงแตะระดับต่ำสุดในรอบปีที่ 0.00001004 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2025 ได้สะท้อนว่าแรงขายที่ยังคงมีอยู่

หาก Shiba Inu ปิดต่ำกว่าระดับ 0.000010 ดอลลาร์ก็มีความเสี่ยงที่ราคาจะร่วงลงต่อไปยังแนวรับถัดไปที่ 0.00000883 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดรายวันในเดือนมกราคมที่ผ่านมา

MACD ยังดิ่งลึกลงในแดนลบซึ่งแสดงให้เห็นถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ RSI ที่ระดับ 28 บ่งชี้ถึงสภาวะขายมากเกินไป แต่ก็มีสัญญาณของการกลับตัวเล็กน้อย

หากราคาสามารถฟื้นตัวและปิดเหนือ 0.00001150 ดอลลาร์ได้อย่างแข็งแกร่ง เป็นที่คาดการณ์ว่าอาจเป็นการเปิดทางขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเดือนที่ 0.00001337 ดอลลาร์

Pepe ไม่สามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญได้

Pepe Coin ยังคงอ่อนตัวลงกว่า -1% เมื่อต้นสัปดาห์นี้ การปรับฐานของราคาได้ขยายตัวต่อเนื่องติดต่อกัน 4 วันซึ่งทำให้ราคาลดลงรวมกว่า -14% โดยราคาหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 0.00000900 ดอลลาร์ ส่งผลให้กำไรที่สะสมมาตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมถูกลบล้างเกือบทั้งหมด

ด้วยราคาต่ำสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ 0.00000830 ดอลลาร์ ทำให้ Pepe Coin สู่ระดับต่ำสุดในรอบเดือน และอาจเสี่ยงต่อการร่วงไปทดสอบระดับ 0.00000794 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดปิดรายวันต่ำสุดของเดือนพฤษภาคม

MACD ยังแสดงสัญญาณลบซึ่งแสดงถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วน RSI อยู่ที่ระดับ 31 ซึ่งแม้ยังไม่เข้าสู่เขตขายมากเกินไป แต่ก็แสดงถึงแรงกดดันที่ยังคงอยู่

หาก Pepe Coin สามารถกลับมายืนเหนือระดับแนวรับเดิมที่ 0.00000830 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง อาจส่งเสริมให้ราคาฟื้นตัวต่อเนื่องสู่ระดับจิตวิทยาที่ 0.000010 ดอลลาร์

สรุปภาพรวม

กลุ่มเหรียญมีมกำลังเผชิญแรงขายรุนแรงท่ามกลางความไม่แน่นอนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี หากไม่มีปัจจัยฟื้นตัวใหม่ ๆ Dogecoin, Shiba Inu และ Pepe Coin อาจต้องเผชิญกับการปรับฐานลึกขึ้นอีก 

อย่างไรก็ตาม สัญญาณบางประการจาก RSI ที่อยู่ในเขตขายมากเกินไปอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัวในระยะสั้นหากแรงขายเริ่มลดลง

Bitcoin Hyper เหรียญมีมมาใหม่ที่เล็งเขย่าวงการคริปโต

Bitcoin Hyper ($HYPER) คือโซลูชัน Layer-2 ตัวแรกของเครือข่าย Bitcoin ที่พัฒนาบน Solana Virtual Machine ได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่แอปพลิเคชันด้านการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) เกมบล็อกเชน ไปจนถึง NFT และเหรียญมีม

โครงการนี้ถูกมองว่าเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญในการยกระดับ Bitcoin จากสินทรัพย์เพื่อการเก็บมูลค่าไปสู่ระบบนิเวศที่สามารถใช้งานได้จริง 

ปัจจุบัน Bitcoin Hyper อยู่ในช่วงพรีเซลที่ราคาเพียง 0.011975 ดอลลาร์ และมีการคาดการณ์ว่าราคาอาจพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.32 ดอลลาร์ภายในปี 2025

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Bitcoin Hyper และวิธีการซื้อโทเค็นรอบพรีเซลได้ที่นี่

Sukrit Wittaya

สุกฤษ วิทยา เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลที่คร่ำหวอดในวงการมากว่า 10 ปี เขาเริ่มต้นจากการพัฒนาแอปพลิเคชันด้านฟินเทคก่อนจะหันมาให้ความสนใจในการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัลในช่วงปี 2017 ผ่านการเขียนบล็อก ปัจจุบัน สุกฤษเป็นทั้งนักวิเคราะห์เทคโนโลยี Web3 นักเขียน และที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลให้กับทั้งสตาร์ทอัปและองค์กรภาครัฐ ผลงานของเขามุ่งเน้นที่การเชื่อมโยงระหว่างเทคโนโลยีกับการใช้งานจริงในโลกการเงิน โดยเฉพาะการอธิบายแนวคิดซับซ้อนให้เข้าใจง่าย พร้อมทั้งนำเสนอบทวิเคราะห์ที่ช่วยให้ผู้อ่านมองเห็นโอกาสและความเสี่ยงในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างรอบด้าน