คู่แข่งใหม่ของ Dogecoin? $SOLX เหรียญมีม Layer-2 พรีเซลทะลุ 1,500 ล้าน

แม้ Dogecoin จะยังคงเป็นเหรียญมีมยอดนิยมระดับโลก แต่ภาพรวมของสินทรัพย์กลับอยู่ในช่วงทรงตัว โดยล่าสุดราคาขยับเล็กน้อยมาอยู่ที่ประมาณ 0.20 ดอลลาร์

ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา Dogecoin มีอัตราการเติบโตเพียง 3% เท่านั้น ทว่า เหรียญนี้ยังคงครองอันดับ 8 ของโลกในด้านมูลค่าตลาดรวมซึ่งอยู่ที่ประมาณ 30,000 ล้านดอลลาร์

แม้ปริมาณการซื้อขายของ Dogecoin ในรอบ 24 ชั่วโมงจะสูงถึง 1,500 ล้านดอลลาร์ซึ่งสะท้อนถึงสภาพคล่องที่ยังแข็งแกร่ง แต่การเคลื่อนไหวในเชิงราคายังค่อนข้างนิ่ง ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มปรับพอร์ตเข้าสู่ทางเลือกอื่น

Elon Musk ยังส่งอิทธิพลต่อ Dogecoin แต่อนาคตยังไม่ชัดเจน

แรงสนับสนุนจากอีลอน มัสก์ (Elon Musk) โดยเฉพาะข่าวลือเกี่ยวกับการนำ Dogecoin ไปใช้งานบนแพลตฟอร์ม X Money และแนวโน้มการเปิดตัว Dogecoin ETF ยังคงเป็นแรงหนุนสำคัญ 

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า แม้ Dogecoin อาจขึ้นไปแตะระดับ 0.30 ถึง 0.35 ดอลลาร์ในกลางปี 2025 แต่ความคืบหน้าทางเทคโนโลยีของ Dogecoin ยังจำกัด

Solaxy: เหรียญมีมหน้าใหม่ที่กำลังเป็นที่จับตา

เมื่อความไม่แน่นอนของ Dogecoin เริ่มชัดเจนขึ้น นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มมุ่งความสนใจไปยังโครงการหน้าใหม่อย่าง Solaxy ($SOLX) ซึ่งเป็นโครงการ Layer‑2 ตัวแรกบนเครือข่าย Solana ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาเชิงเทคนิคของบล็อกเชน เช่น ความล่าช้าในการทำธุรกรรมและข้อจำกัดด้านการเชื่อมต่อกับ dApps

ขณะนี้ Solaxy อยู่ในช่วงการขายรอบพรีเซลและสามารถระดมทุนได้แล้วกว่า 47 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,500 ล้านบาท) โดยราคาโทเค็น ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 0.001752 ดอลลาร์ 

สิ่งที่น่าสนใจคือ นักลงทุนสามารถรับผลตอบแทนจากการ Stake ได้สูงสุดถึง 86% ทำให้ Solaxy เป็นทางเลือกที่น่าสนใจทั้งในแง่ของการเก็งกำไรและการสร้างรายได้แบบ Passive

Solaxy: Layer‑2 บน Solana ที่ออกแบบมาเพื่ออนาคต

Solaxy ไม่ได้เป็นแค่เหรียญมีมเพื่อการเก็งกำไรและพึ่งพากระแสเท่านั้นดังเช่น Dogecoin แต่เป็นโครงสร้าง Layer‑2 ที่พัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของ Solana ทั้งในแง่ความเร็ว การปรับขนาด และค่าธรรมเนียมที่ต่ำ 

อีกทั้งยังรองรับการใช้งานข้ามเครือข่ายกับบล็อกเชนอื่นอย่าง Ethereum ซึ่งทำให้ Solaxy มีศักยภาพในการเป็นจุดเชื่อมสำคัญในระบบนิเวศ DeFi และ GameFi

ที่สำคัญ Solaxy ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยโดยบริษัทภายนอก ซึ่งช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในตัวโค้ดและระบบก่อนเข้าสู่การเปิดใช้งานเครือข่ายหลักที่มีกำหนดในเดือนมิถุนายน 2025

เหตุใดนักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มเบี่ยงเบนความสนใจจาก Dogecoin และหันมาสนใจ Solaxy?

แม้ Dogecoin จะได้รับการสนับสนุนอย่างเหนียวแน่นจากชุมชนผู้ใช้งาน และยังมีแรงหนุนจากอีลอน มัสก์ย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่ยังขาดคือแผนการพัฒนาที่ชัดเจน แตกต่างจาก Solaxy ที่มีแผนงานและกลยุทธ์ทางเทคโนโลยีและวิธีการจัดสรรโทเค็นอย่างครอบคลุม

นักลงทุนจึงเริ่มให้ความสนใจ Solaxy เนื่องจากเล็งเห็นโอกาสในการเติบโตที่สูงกว่า โดยเฉพาะเมื่อมีฟีเจอร์การ Stake และระบบการกำกับดูแลที่เปิดโอกาสให้ผู้ถือโทเค็นมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางของโครงการ

ในทางกลับกัน Dogecoin ยังขาดฟีเจอร์สำคัญเหล่านี้ และอาจไม่สามารถตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการมีบทบาทมากกว่าการรอราคาขึ้น

โอกาสสุดท้ายรอบพรีเซล

ด้วยเวลาเหลือไม่ถึง 5 วัน และยอดระดมทุนที่ใกล้ถึงเป้าหมาย นักลงทุนที่สนใจอาจต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็วก่อนราคาจะปรับตัวขึ้น

ราคา Solaxy ปัจจุบันที่ 0.001752 ดอลลาร์ต่อโทเค็น หากราคาไปถึงเป้าหมายที่ 0.2 ดอลลาร์ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ภายในปี 2030 ผู้ที่เข้าร่วมตั้งแต่ช่วงพรีเซลมีโอกาสรับผลตอบแทนสูงถึง 11,000%

ยิ่งไปกว่านั้น โครงการยังมีการจัดสรรโทเค็นอย่างยุติธรรม ไม่ถูกควบคุมโดยนักลงทุนรายใหญ่ใด ๆ และมอบข้อมูลโปร่งใสผ่านเอกสารชี้ชวนอย่างเป็นทางการ

สรุป: Solaxy คือคู่แข่งใหม่ที่น่าจับตาของ Dogecoin

ในขณะที่ Dogecoin ยังขาดทิศทางเทคโนโลยีที่ชัดเจน Solaxy กลับปรากฏตัวพร้อมวิสัยทัศน์ระยะยาวที่แข็งแกร่ง ทั้งในแง่ของเทคโนโลยี การเงิน และความปลอดภัย

Solaxy ไม่ได้เป็นเพียงแค่สินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไร แต่ยังมอบโอกาสในการสร้างรายได้ระยะยาว และการมีส่วนร่วมในระบบนิเวศ Web3 อย่างแท้จริง 

สำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่ที่ต้องการมากกว่าการลงทุนแบบฉาบฉวย Solaxy คือหนึ่งในโครงการที่ไม่ควรมองข้ามในปีนี้

Sukrit Wittaya

สุกฤษ วิทยา เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลที่คร่ำหวอดในวงการมากว่า 10 ปี เขาเริ่มต้นจากการพัฒนาแอปพลิเคชันด้านฟินเทคก่อนจะหันมาให้ความสนใจในการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัลในช่วงปี 2017 ผ่านการเขียนบล็อก ปัจจุบัน สุกฤษเป็นทั้งนักวิเคราะห์เทคโนโลยี Web3 นักเขียน และที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลให้กับทั้งสตาร์ทอัปและองค์กรภาครัฐ ผลงานของเขามุ่งเน้นที่การเชื่อมโยงระหว่างเทคโนโลยีกับการใช้งานจริงในโลกการเงิน โดยเฉพาะการอธิบายแนวคิดซับซ้อนให้เข้าใจง่าย พร้อมทั้งนำเสนอบทวิเคราะห์ที่ช่วยให้ผู้อ่านมองเห็นโอกาสและความเสี่ยงในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างรอบด้าน