Home » BTC ทำ ATH ใหม่ – BlackRock ทุบสถิติ! ถือเกิน 700,000 BTC แล้ว!

BTC ทำ ATH ใหม่ – BlackRock ทุบสถิติ! ถือเกิน 700,000 BTC แล้ว!

10.07.2025 9:58 2 นาทีที่อ่าน Tanawat Thanichapol
Disclosure

บทความนี้อาจมีลิงก์พันธมิตร ซึ่งทางเว็บไซต์อาจได้รับค่าตอบแทนหากผู้อ่านคลิกหรือลงทะเบียนผ่านลิงก์ดังกล่าว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับผู้อ่าน หากคุณยังคงใช้ไซต์นี้ต่อไป แสดงว่าคุณยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขของเรา


แบ่งปัน: หุ้น

การลงทุนในคริปโตมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง เนื้อหาในเว็บไซต์จัดทำเพื่อให้ข้อมูล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน เนื้อหาบางส่วนอาจมี Affiliate Links ซึ่งเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่น โปรดอ่าน Affiliate Disclaimer และนโยบายบรรณาธิการสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม

BTC ทำ ATH ใหม่ – BlackRock ทุบสถิติ! ถือเกิน 700,000 BTC แล้ว!

BTC (Bitcoin) เพิ่งทำลายสถิติสูงสุด (ATH) ใหม่ไปหมาดๆ และกำลังกลายเป็นศูนย์กลางความเคลื่อนไหวอีกครั้ง เมื่อ BlackRock บริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เข้าถือครอง Bitcoin ผ่านกองทุน iShares Bitcoin Trust (IBIT) ทะลุ 700,000 เหรียญเป็นที่เรียบร้อย

ปรากฏการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นภายในระยะเวลาเพียงปีครึ่งหลังเปิดตัวกองทุน แสดงให้เห็นถึงความต้องการจากนักลงทุนสถาบันที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และกำลังส่งผลต่อโครงสร้างตลาด Bitcoin ในภาพรวมอย่างชัดเจน

การเคลื่อนไหวของ BlackRock ครั้งนี้ไม่เพียงแสดงถึงบทบาทของ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์กระแสหลักสำหรับการลงทุน แต่ยังชี้ชัดถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในภูมิทัศน์การลงทุนที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างถาวรด้วย

IBIT ของ BlackRock ทุบทุกสถิติ! การเติบโตของกองทุน Bitcoin ที่เร็วที่สุด

กองทุน iShares Bitcoin Trust (IBIT) ของ BlackRock ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการ ETF ด้วยการเติบโตที่รวดเร็วอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ข้อมูลล่าสุดจาก Glassnode ยืนยันว่า IBIT ถือครอง Bitcoin มากถึง 700,307 BTC คิดเป็นมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) สูงถึง 7.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตัวเลขนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ IBIT เป็นกองทุน Bitcoin ETF ที่ใหญ่ที่สุด แต่ยังครองสัดส่วนกว่า 55% ของ Bitcoin ทั้งหมดที่ถูกถือครองโดย Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย

ความสำเร็จของกองทุน Bitcoin นี้ยังทำลายสถิติเดิมของวงการอย่างราบคาบ โดยใช้เวลาเพียง 551 วันในการไปถึงหลัก 7.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเร็วกว่ากองทุนทองคำอย่าง SPDR Gold Shares ที่ต้องใช้เวลากว่า 1,600 วันทำการในการไปถึงจุดเดียวกัน

สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและการยอมรับในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoin ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในหมู่นักลงทุนสถาบันภายใต้การนำของ BlackRock

แรงซื้อจากสถาบันเปลี่ยนโครงสร้างตลาด Bitcoin อย่างสิ้นเชิง

การอนุมัติ Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐอเมริกาเมื่อต้นปี 2024 ได้ปลดล็อกประตูให้นักลงทุนสถาบันเข้าสู่ตลาด Bitcoin อย่างเต็มรูปแบบ กองทุนเหล่านี้จำเป็นต้องซื้อ Bitcoin จริงเพื่อสำรองไว้ ทำให้เกิดแรงซื้อจำนวนมหาศาลที่ดูดซับอุปทานหรือซัพพลาย Bitcoin ออกจากตลาดโดยตรง

ข้อมูลชี้ชัดว่าในปี 2025 ยอดซื้อ Bitcoin สุทธิจาก ETF และบริษัทอย่าง MicroStrategy รวมกันสูงถึง 2.82 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าซัพพลาย Bitcoin ใหม่ที่ถูกขุดขึ้นมาในช่วงเวลาเดียวกันถึงหลายเท่าตัว ซึ่งอยู่ที่เพียง 7.85 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น

ความต้องการที่ล้นหลามนี้ ส่งผลให้ IBIT กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำกำไรได้มากที่สุดในบรรดากองทุนทั้งหมด 1,197 กองทุนของ BlackRock โดยมีรายงานว่า BlackRock สร้างรายได้จาก IBIT มากกว่ากองทุนเรือธงอย่าง S&P 500 ETF เสียอีก ปรากฏการณ์นี้เป็นเครื่องยืนยันว่า Bitcoin ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในพอร์ตการลงทุนของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ไปแล้ว และกำลังเปลี่ยนแปลงพลวัตของตลาดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!

วิเคราะห์อนาคต: BlackRock จะกลายเป็นผู้ถือ BTC รายใหญ่ที่สุดหรือไม่?

ด้วยอัตราการเข้าซื้อ Bitcoin ที่น่าทึ่ง ทำให้เกิดคำถามที่น่าสนใจว่า BlackRock กำลังจะกลายเป็นผู้ถือครอง Bitcoin รายใหญ่ที่สุดในโลกหรือไม่ ปัจจุบัน IBIT กำลังไล่ตามจำนวน Bitcoin ที่คาดว่าถูกถือครองโดยผู้สร้างนิรนามอย่าง ซาโตชิ นากาโมโตะ ซึ่งประเมินว่ามีอยู่ประมาณ 1.1 ล้าน BTC นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าหาก IBIT ยังคงรักษาอัตราการซื้อ Bitcoin ที่เดือนละ 40,000 BTC ต่อไป กองทุนนี้ก็อาจจะแซงหน้าซาโตชิขึ้นเป็นผู้ถือ Bitcoin อันดับหนึ่งได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2026

การสะสม Bitcoin อย่างต่อเนื่องของ BlackRock ไม่ใช่แค่การแข่งขันทางตัวเลข แต่เป็นการส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในตลาดคริปโต นักวิเคราะห์มองว่าอุปสงค์ที่ขับเคลื่อนโดย ETF กำลังสร้าง “พื้นฐานราคา” (Price Floor) ที่แข็งแกร่งให้กับ Bitcoin ซึ่งอาจช่วยลดความผันผวนในระยะยาวและดึงดูดนักลงทุนกลุ่มใหม่ๆ เข้ามาในตลาด Bitcoin มากขึ้น การเคลื่อนไหวนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ระดับโลก

การที่กองทุน IBIT ของ BlackRock สามารถสะสม Bitcoin ได้เกิน 700,000 BTC ในระยะเวลาอันสั้น ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงการยอมรับ Bitcoin ในระดับสถาบันอย่างเต็มรูปแบบ แรงซื้อที่มหาศาลนี้ไม่เพียงแต่ทุบสถิติในวงการ ETF แต่ยังกำลังเปลี่ยนแปลงสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานของ Bitcoin อย่างถาวร การเข้ามาของยักษ์ใหญ่อย่าง BlackRock ได้เพิ่มความน่าเชื่อถือและสร้างเสถียรภาพให้กับตลาด Bitcoin ซึ่งจะส่งผลดีต่อนักลงทุนและระบบนิเวศคริปโตในระยะยาว นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนว่ายุคใหม่ของการลงทุนใน Bitcoin ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

บล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล, Web3, วิเคราะห์แนวโน้มราคาสินทรัพย์, โทเค็นโนมิกส์ Tanawat Thanichapol เป็นนักวิเคราะห์คริปโตและที่ปรึกษาบล็อกเชนอิสระจากประเทศไทยที่มีประสบการณ์กว่า 7 ปี จบหลักสูตรด้านเศรษฐกิจดิจิทัลจาก MIT Initiative on the Digital Economy (IDE) เขาเคยร่วมงานกับสตาร์ทอัพคริปโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และปัจจุบันเขียนบทความวิเคราะห์ตลาด รวมถึงพัฒนาบอทช่วยเทรดให้กับสื่อสายคริปโตหลายแห่ง เขาเชี่ยวชาญด้านโทเค็นโนมิกส์ การวิเคราะห์ on-chain และการจับสัญญาณแนวโน้มในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล สนใจเป็นพิเศษในด้านการเงินแบบกระจายศูนย์และอนาคตของ We

Telegram

แบ่งปัน: หุ้น
มากกว่า Bitcoin - ข่าวล่าสุดวันนี้
ยังไม่มีความคิดเห็น!

ที่อยู่อีเมลของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่