การลงทุนในคริปโตมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง เนื้อหาในเว็บไซต์จัดทำเพื่อให้ข้อมูล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน โปรดอ่านนโยบายบรรณาธิการสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม
บทความนี้อาจมีลิงก์พันธมิตร ซึ่งทางเว็บไซต์อาจได้รับค่าตอบแทนหากผู้อ่านคลิกหรือลงทะเบียนผ่านลิงก์ดังกล่าว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับผู้อ่าน หากคุณยังคงใช้ไซต์นี้ต่อไป แสดงว่าคุณยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขของเรา
การลงทุนในคริปโตมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง เนื้อหาในเว็บไซต์จัดทำเพื่อให้ข้อมูล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน โปรดอ่านนโยบายบรรณาธิการสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่ามกลางสถานการณ์ตลาดที่ไม่แน่นอนและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีได้เผชิญกับแรงเทขายอย่างหนัก ส่งผลให้ราคา Bitcoin ปรับตัวลดลงกว่า 5% ทำให้นักวิเคราะห์หลายคนเริ่มกังวลถึงความเป็นไปได้ของเหตุการณ์ “Black Swan” อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่านักลงทุนสถาบันรายใหญ่อย่าง BlackRock จะมองเห็นโอกาสในวิกฤตนี้และยังคงเดินหน้าเข้าซื้อ Bitcoin อย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าผลกระทบอาจไม่รุนแรงอย่างที่คาดการณ์กันไว้
JUST IN: BlackRock buys 6,088 Bitcoin worth $638.5 million. pic.twitter.com/pldvtk0nbv
— Whale Insider (@WhaleInsider) June 18, 2025
กองทุน Spot Bitcoin ETF ที่ได้รับการอนุมัติในสหรัฐอเมริกาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้กลายเป็นมาตรวัดความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันที่สำคัญ ซึ่งชุมชนคริปโตต่างจับตามองกระแสเงินทุนไหลเข้า-ออกอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินความต้องการ Bitcoin ในตลาด และข้อมูลล่าสุดก็ชี้ให้เห็นว่าความต้องการยังคงแข็งแกร่ง
The market is down.
— Arkham (@arkham) June 17, 2025
BUT FIDELITY IS BUYING BTC
TWENTY ONE CAPITAL IS BUYING BTC
AND SAYLOR IS BUYING BTC pic.twitter.com/p0OI4eDFq7
แนวโน้มนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่เป็นผลมาจากกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่า เงินทุนไหลเข้า Bitcoin และ Ethereum อย่างมหาศาล ติดต่อกันมาหลายสัปดาห์แล้ว
แม้จะมีข่าวเชิงลบและคำเตือนเกี่ยวกับ Black Swan Event แต่ข้อมูลล่าสุดเผยให้เห็นว่ามีเงินทุนไหลเข้าสู่กองทุน Spot Bitcoin ETF สูงถึง 216 ล้านดอลลาร์ในวันเดียว สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่านักลงทุนสถาบันยังคงเข้าซื้อ Bitcoin อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของ Michael Saylor ที่มักจะเข้าซื้อ Bitcoin เพิ่มในทุกครั้งที่ราคาปรับตัวลงเช่นกัน การที่ราคาเริ่มฟื้นตัวยังสนับสนุนแนวคิดที่ว่าเหตุการณ์ Black Swan ที่แท้จริงนั้นไม่สามารถคาดเดาได้ และเมื่อมีเสียงเตือนออกมาอย่างหนาหู ก็อาจหมายความว่าช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว
การเคลื่อนไหวของนักลงทุนรายใหญ่เช่นนี้สะท้อนความเชื่อมั่นอย่างชัดเจน โดยล่าสุด Michael Saylor ได้ทุ่มเงินซื้อ Bitcoin เพิ่ม ซึ่งเป็นการตอกย้ำกลยุทธ์การเข้าซื้อในช่วงที่ตลาดปรับฐาน
ในบรรดากองทุน Spot Bitcoin ETF ทั้งหมด กองทุน iShares Bitcoin Trust ($IBIT) ของ BlackRock ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถือว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย และล่าสุด BlackRock ได้เข้าซื้อ Bitcoin เพิ่มเติมเป็นมูลค่าสูงถึง 638 ล้านดอลลาร์
แม้ว่านักลงทุนสถาบันจะสามารถขายสินทรัพย์ของตนได้ทุกเมื่อ แต่โดยทั่วไปแล้วพวกเขามีมุมมองการลงทุนในระยะยาว การเข้าซื้อจำนวนมหาศาลในครั้งนี้จึงเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า BlackRock มองเห็นศักยภาพการเติบโตของ Bitcoin ในระยะยาวและใช้จังหวะที่ราคาปรับตัวลงเป็นโอกาสในการสะสมสินทรัพย์เพิ่ม
นอกเหนือจาก Bitcoin แล้ว ความสนใจของ BlackRock ยังขยายไปสู่สินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำอื่นๆ ด้วยเช่นกัน โดยมีรายงานว่า BlackRock ได้เข้าสะสม Ethereum อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้มูลค่าสัญญา Futures ของ ETH พุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
แม้จะมีสัญญาณบวกจากฝั่งนักลงทุนสถาบัน แต่ตลาดยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย และท่าทีของสหรัฐฯ ต่อความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ซึ่งอาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดในระยะสั้นได้
คำแถลงของ Jerome Powell ประธาน Fed มักส่งผลกระทบต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นนักลงทุนควรเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนที่อาจเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ราคา Bitcoin ในระยะยาวยังคงเป็นบวกอย่างยิ่ง เนื่องจากสถาบันใหญ่อย่าง BlackRock และนักลงทุนรายใหญ่อื่นๆ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพวกเขาพร้อมที่จะใช้ทุกโอกาสในการเข้าซื้อเมื่อราคาลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยพยุงราคาและสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดโดยรวม
ด้วยความเชื่อมั่นจากสถาบันการเงินชั้นนำนี้เอง ทำให้ตลาดคาดการณ์ในแง่บวกมากขึ้น โดยแพลตฟอร์มพยากรณ์อย่าง Polymarket ได้แสดงให้เห็นถึง ความน่าจะเป็นที่ราคา Bitcoin จะพุ่งทะลุ $130,000 ภายในสิ้นปี 2025
โดยสรุป แม้ตลาดคริปโตจะเผชิญกับความผันผวนในระยะสั้นจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจมหภาค แต่การเคลื่อนไหวของนักลงทุนสถาบันอย่าง BlackRock ที่ยังคงทุ่มเงินมหาศาลเข้าซื้อ Bitcoin ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า “Smart Money” ยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพของสินทรัพย์ดิจิทัลนี้ การเข้าซื้อสวนกระแสในช่วงที่ตลาดตื่นตระหนกเป็นการตอกย้ำแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว และอาจบ่งชี้ว่าวิกฤตในปัจจุบันเป็นเพียงอุปสรรคชั่วคราวมากกว่าจะเป็นการเปลี่ยนแนวโน้มของตลาด
BTC หรือ Bitcoin ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุด […]
David Bird หรือที่รู้จักในนาม ASX Trader ผู้เชี่ยวชาญด้ […]
BTC (Bitcoin) เริ่มฟื้นตัวเหนือ 105,000 ดอลลาร์ แม้สถาน […]
ท่ามกลางความผันผวนของสภาวะภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง ด […]