BlackRock ดัน Bitcoin พุ่ง! ETF ทะลุ $70B เร็วสุดในโลก

สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการคริปโตอีกครั้ง! เมื่อกองทุน iShares Bitcoin Trust (IBIT) ของ BlackRock บริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้ทุบสถิติกลายเป็น ETF ที่สามารถระดมสินทรัพย์ได้ถึง 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์ ความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงแต่ตอกย้ำความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบัน แต่ยังเป็นสัญญาณสำคัญที่อาจผลักดันราคา Bitcoin ไปสู่จุดสูงสุดใหม่

BlackRock ทุบสถิติ! Bitcoin ETF (IBIT) โตเร็วสุดในประวัติศาสตร์

กองทุน iShares Bitcoin Trust (IBIT) ของ BlackRock สร้างปรากฏการณ์ด้วยการระดมสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ทะลุ 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยใช้เวลาเพียง 341 วันหลังจากการเปิดตัว ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการ ETF ทั้งหมด

จากข้อมูลของ Eric Balchunas นักวิเคราะห์จาก Bloomberg ชี้ว่า IBIT ทำลายสถิติเดิมของกองทุนทองคำ GLD ที่ใช้เวลานานถึง 1,691 วัน หรือเร็วกว่าถึง 5 เท่า ความสำเร็จอันน่าทึ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความต้องการ Bitcoin จากนักลงทุนสถาบันและรายย่อยที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลนับตั้งแต่ได้รับการอนุมัติจาก ก.ล.ต. สหรัฐฯ เมื่อต้นปี 2024

วิเคราะห์เบื้องหลังความสำเร็จของ Bitcoin และแรงซื้อจากสถาบัน

การมาถึงของ Spot Bitcoin ETF ได้เปิดประตูให้นักลงทุนสถาบันและรายย่อยสามารถเข้าถึง Bitcoin ได้ง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้นผ่านตลาดหุ้นแบบดั้งเดิม โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยตนเอง ซึ่ง BlackRock ในฐานะผู้จัดการกองทุนรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ใช้ความน่าเชื่อถือดึงดูดเม็ดเงินลงทุนได้อย่างมหาศาล

ความสำเร็จของ ETF เหล่านี้ได้จุดประกายให้บริษัทอื่นๆ สนใจเข้ามาในตลาดนี้เช่นกัน ล่าสุดมีข่าวว่า Trump Media ยื่นขออนุมัติ Bitcoin ETF ซึ่งอาจสร้างแรงกระเพื่อมให้กับตลาดคริปโตอีกครั้ง

เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง กองทุน IBIT ของ BlackRock มีขนาดใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยมีสินทรัพย์กว่า 70,000 ล้านดอลลาร์ ทิ้งห่างอันดับสองอย่าง Fidelity (FBTC) ที่มีประมาณ 20,000 ล้านดอลลาร์ และ Grayscale (GBTC) ที่มีไม่ถึง 20,000 ล้านดอลลาร์ นักวิเคราะห์อย่าง James Seyffart จาก Bloomberg ถึงกับกล่าวว่า “การเติบโตของ IBIT นั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อ BlackRock และ Bitcoin

จับตาราคา Bitcoin หลัง ETF ทำนิวไฮ จะพุ่งไปได้อีกไกลแค่ไหน?

กระแสเงินทุนที่ไหลเข้าสู่ Bitcoin ETF มีความสัมพันธ์โดยตรงกับราคาของ Bitcoin ข้อมูลชี้ว่าในช่วงที่สินทรัพย์สุทธิรวมของ Bitcoin ETF ทั้ง 12 กองทุนพุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 134,000 ล้านดอลลาร์ ราคา Bitcoin ก็ได้ทำสถิติสูงสุดตลอดกาล (All-Time High) ที่ระดับ 111,900 ดอลลาร์เช่นกัน

การที่เม็ดเงินจากสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ไหลเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการสร้างฐานราคาที่แข็งแกร่งให้กับ Bitcoin และลดความผันผวนในระยะยาว นักลงทุนต่างจับตามองว่าแรงหนุนจาก ETF โดยเฉพาะจาก BlackRock จะสามารถผลักดันให้ราคา Bitcoin ทะลุแนวต้านสำคัญและสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ต่อไปได้หรือไม่

ท่ามกลางการจับตามองนี้ นักวิเคราะห์หลายคนเริ่มออกมาคาดการณ์เป้าหมายราคาที่สูงขึ้น โดยมี การคาดการณ์ราคา Bitcoin พุ่งสู่ $150K ที่อาจเกิดขึ้นได้หากตลาดยังคงเป็นกระทิงต่อไป

นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของ Coinbase Premium และการลดลงอย่างต่อเนื่องของปริมาณ Bitcoin บน Exchange ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งของนักลงทุนและแนวโน้มการถือครอง Bitcoin ระยะยาว

สรุป: BlackRock และแนวโน้มการเติบโตในอนาคต

สรุป: การเติบโตของ Bitcoin ETF จาก BlackRock ชี้ชัดถึงการยอมรับ Bitcoin ในหมู่นักลงทุนสถาบันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยเม็ดเงินมหาศาลที่ไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มราคา BTC จึงยังคงแข็งแกร่งและน่าจับตาต่อไปในฐานะสินทรัพย์เพื่อการลงทุนกระแสหลัก สัญญาณบวกของเหรียญคริปโตอันดับหนึ่งนี้ทำให้หลายคนจับตาตลาดคริปโตเริ่มมองหาโอกาสในตลาดคริปโตอื่นๆ ด้วยเช่นกัน หากคุณสนใจสามารถอ่านเพจทางเลือกอีก 7 เหรียญคริปโตที่น่าลงทุนในปี 2025 ซึ่งวิเคราะห์เหรียญอีกหลายตัวที่น่าสนใจ

Phitchaya Rattanavong

พิชญา รัตนวงศ์ เป็นนักข่าวและนักวิเคราะห์ด้านคริปโตเคอเรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชน ผู้มีความเชี่ยวชาญในการถ่ายทอดข้อมูลที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายสำหรับผู้อ่านทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือผู้เชี่ยวชาญในวงการ ด้วยประสบการณ์กว่า 8 ปีในสายงานข่าวการเงินดิจิทัลและการกำกับดูแล Web3 พิชญาเคยร่วมงานกับทั้งสื่อในประเทศและต่างประเทศ เช่น Bangkok Biz, Asia Blockchain Review และ BeInCrypto เธอมุ่งมั่นในการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้กำหนดนโยบาย ผู้พัฒนาเทคโนโลยี และนักลงทุน พร้อมส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่องกฎระเบียบคริปโตในบริบทไทย-อาเซียน ผลงานของเธอมีจุดเด่นด้านการวิเคราะห์ข่าว DeFi การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ Web3 ที่กำลังเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค