Fed ส่งซิก! Bitcoin พุ่งทะลุ $106K ลุ้นไปต่อ

ราคา Bitcoin ดีดตัวกลับขึ้นมายืนเหนือระดับ $106,000 ได้อย่างรวดเร็ว หลังจากร่วงลงไปต่ำกว่า $98,500 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา การฟื้นตัวครั้งนี้ได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น หลังสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางเริ่มคลี่คลายลง

วิเคราะห์ Bitcoin ฟื้นตัวแกร่ง! ตลาดมั่นใจ Fed ลดดอกเบี้ย

การฟื้นตัวของราคา Bitcoin เกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศ “การหยุดยิงโดยสมบูรณ์” ระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ซึ่งช่วยลดความวิตกกังวลในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนจับตามองคือทิศทางนโยบายการเงินของ Fed

ข้อมูลจาก CME FedWatch Tool ชี้ให้เห็นว่า ตลาดให้น้ำหนักมากขึ้นต่อโอกาสที่ Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 3.75% หรือต่ำกว่าภายในเดือนพฤศจิกายน โดยมีความน่าจะเป็นเพิ่มขึ้นจาก 38% เป็น 53% ภายในสัปดาห์เดียว สิ่งนี้สะท้อนว่านักลงทุนมองว่าความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์อาจกระตุ้นให้ Fed ต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อพยุงเศรษฐกิจ

แม้จะมีความผันผวนที่ทำให้เกิดการล้างพอร์ต Long Position ไปกว่า 193 ล้านดอลลาร์ แต่ตลาดอนุพันธ์ของ Bitcoin ยังคงมีเสถียรภาพ โดยมีปริมาณสัญญาซื้อขายล่วงหน้าคงค้าง (Open Interest) อยู่ที่ 68,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันที่ยังคงแข็งแกร่ง

ความเชื่อมั่นนี้ยังสะท้อนผ่านการเคลื่อนไหวของนักลงทุนสถาบันรายใหญ่ โดยล่าสุดมีรายงานว่า BlackRock ทุ่มซื้อ Bitcoin สวนวิกฤตตลาด ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณบวกที่ชัดเจน

ในทำนองเดียวกัน บริษัทอย่าง Metaplanet ก็เข้าช้อนซื้อ Bitcoin เพิ่มเติม ในช่วงที่ตลาดปรับตัวลง แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์การลงทุนระยะยาวของสถาบัน

นอกเหนือจากกองทุนแล้ว บุคคลสำคัญในวงการอย่าง Michael Saylor ก็ยังคงเดินหน้าซื้อ Bitcoin เพิ่ม อย่างต่อเนื่อง พร้อมแสดงวิสัยทัศน์เชิงบวกต่อราคาในระยะยาว

จับตา Hashrate ของ Bitcoin ร่วงหนัก กระทบจริงหรือแค่ข่าวลือ?

ประเด็นที่น่ากังวลเล็กน้อยคือการลดลงของ Hashrate ของ Bitcoin ถึง 8% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์บางส่วนตั้งข้อสังเกตว่าอาจเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยมีการคาดการณ์ว่าอาจมีการลักลอบขุด Bitcoin ในอิหร่านซึ่งอาจได้รับผลกระทบ

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอย่าง Daniel Batten ได้ออกมาให้ความเห็นว่า การลดลงของ Hashrate ในระดับนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ และมักเกิดขึ้นจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น การลดการใช้ไฟฟ้าชั่วคราวของเหมืองขุดในสหรัฐฯ ช่วงที่สภาพอากาศเลวร้าย

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือเหตุการณ์พายุรุนแรงในรัฐเท็กซัสและโอคลาโฮมาเมื่อวันที่ 22 เมษายน ซึ่งส่งผลให้ Hashrate ของ Bitcoin ลดลงถึง 27% ชั่วคราว ดังนั้น การที่ Hashrate ลดลง 8% อาจไม่ใช่สัญญาณอันตรายอย่างที่หลายคนกังวล และไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพื้นฐานของเครือข่าย Bitcoin ในระยะยาว

ขณะเดียวกัน รัฐเท็กซัสก็กำลังกลายเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของ Bitcoin ในมิติอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน โดยล่าสุดได้มีการ อนุมัติกองทุนสำรอง Bitcoin แห่งแรกในสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นการยอมรับในระดับรัฐที่น่าจับตามอง

สรุป: Fed คือปัจจัยสำคัญ หนุน Bitcoin ท่ามกลางความผันผวน

แม้การฟื้นตัวของ Bitcoin จะได้รับอานิสงส์จากข่าวการหยุดยิงในตะวันออกกลาง แต่ปัจจัยขับเคลื่อนที่แท้จริงในขณะนี้คือความคาดหวังของตลาดต่อนโยบายของ Fed การที่ Bitcoin สามารถดีดตัวกลับมายืนเหนือ $100,000 ได้อย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันที่ยังคงแข็งแกร่งและมองว่า Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก

จากปัจจัยทั้งหมดนี้ ทำให้นักลงทุนจำนวนมากเริ่มตั้งคำถามว่า ลงทุนบิทคอยน์ตอนนี้ยังทันหรือไม่ และทิศทางราคาในอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป

Phitchaya Rattanavong

พิชญา รัตนวงศ์ เป็นนักข่าวและนักวิเคราะห์ด้านคริปโตเคอเรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชน ผู้มีความเชี่ยวชาญในการถ่ายทอดข้อมูลที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายสำหรับผู้อ่านทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือผู้เชี่ยวชาญในวงการ ด้วยประสบการณ์กว่า 8 ปีในสายงานข่าวการเงินดิจิทัลและการกำกับดูแล Web3 พิชญาเคยร่วมงานกับทั้งสื่อในประเทศและต่างประเทศ เช่น Bangkok Biz, Asia Blockchain Review และ BeInCrypto เธอมุ่งมั่นในการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้กำหนดนโยบาย ผู้พัฒนาเทคโนโลยี และนักลงทุน พร้อมส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่องกฎระเบียบคริปโตในบริบทไทย-อาเซียน ผลงานของเธอมีจุดเด่นด้านการวิเคราะห์ข่าว DeFi การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ Web3 ที่กำลังเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค