การลงทุนในคริปโตมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง เนื้อหาในเว็บไซต์จัดทำเพื่อให้ข้อมูล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน โปรดอ่านนโยบายบรรณาธิการสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม
บทความนี้อาจมีลิงก์พันธมิตร ซึ่งทางเว็บไซต์อาจได้รับค่าตอบแทนหากผู้อ่านคลิกหรือลงทะเบียนผ่านลิงก์ดังกล่าว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับผู้อ่าน หากคุณยังคงใช้ไซต์นี้ต่อไป แสดงว่าคุณยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขของเรา
การลงทุนในคริปโตมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง เนื้อหาในเว็บไซต์จัดทำเพื่อให้ข้อมูล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน โปรดอ่านนโยบายบรรณาธิการสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2025 โครงการ Bitcoin Hyper (HYPER) ซึ่งเป็น Layer-2 สำหรับเครือข่าย Bitcoin ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “Layer-2 ตัวจริงตัวแรกของ Bitcoin” สามารถระดมทุนในรอบแรกได้แล้วถึง 1.3 ล้านดอลลาร์ภายในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ นับเป็นกระแสการลงทุนที่ร้อนแรงอย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะในช่วงพรีเซลล์ที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม
อีกด้านหนึ่ง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนรายใหญ่ หรือที่ในวงการเรียกว่า “วาฬ” ได้เข้าซื้อโทเคน HYPER มูลค่าถึง 55,000 ดอลลาร์ คาดว่าเป็นผลมาจากการที่โครงการดังกล่าวนำจุดแข็งด้านความเร็วและประสิทธิภาพของ Solana มาผสานกับระบบความปลอดภัยของ Bitcoin ซึ่งถือเป็นจุดขายสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากตลาด
Bitcoin ในฐานะเครือข่ายบล็อกเชนที่ได้รับการยอมรับด้านความปลอดภัย แม้จะถูกมองว่ามีข้อจำกัดเรื่องความเร็วในการทำธุรกรรม อย่างไรก็ตาม การมาถึงของ Bitcoin Hyper อาจเปลี่ยนภาพลักษณ์เดิมนี้ เพราะโครงการนี้ตั้งเป้าจะยกระดับให้ Bitcoin ไม่ใช่เพียงแค่ “ทองคำดิจิทัล” หรือเครื่องมือเก็บมูลค่า แต่พร้อมจะก้าวสู่การเป็น “World Computer” เจเนอเรชันใหม่ที่ทั้งเร็วและมีประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกัน นักลงทุนที่มองว่า Bitcoin ควรมีศักยภาพมากกว่าแค่การเก็บมูลค่า ก็เริ่มหันมาให้ความสนใจในทิศทางใหม่ที่ Bitcoin Hyper กำลังปูทางไว้ โดยโทเคน HYPER เปิดให้จองซื้อในรอบพรีเซลล์ที่ราคา 0.011925 ดอลลาร์ต่อโทเคน ซึ่งราคานี้จะมีผลเพียงอีก 29 ชั่วโมงก่อนจะเข้าสู่รอบถัดไปที่ราคาจะปรับขึ้น
Bitcoin ยังคงถูกยกให้เป็นบล็อกเชนที่กระจายศูนย์มากที่สุดในโลก ด้วยจำนวนโหนดแบบเต็ม (full node) ที่สามารถเข้าถึงได้สาธารณะกว่า 22,000 โหนดทั่วโลก และยังไม่รวมโหนดอีกหลายพันที่ทำงานแบบส่วนตัวหลังไฟร์วอลล์หรือผ่านเครือข่าย Tor
ความกระจายศูนย์ในระดับนี้ ถือเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Bitcoin เป็นเครือข่ายที่มีความปลอดภัยสูงที่สุดในโลกคริปโต ประกอบกับระบบสคริปต์ที่ถูกออกแบบมาให้เรียบง่ายและมีข้อจำกัดอย่างจงใจ เพื่อลดความเสี่ยงจากสมาร์ทคอนแทรกต์ที่อาจสร้างช่องโหว่หรือทำให้เครือข่ายล่ม ส่งผลให้บล็อกเชนของ Bitcoin มีความเสถียร ทนทาน และยากต่อการถูกโจมตี
อย่างไรก็ตาม ข้อดีในด้านความเรียบง่ายนี้ก็มาพร้อมข้อจำกัด เพราะการไม่มีสมาร์ทคอนแทรกต์ ทำให้ Bitcoin ไม่สามารถทำงานเหมือนคอมพิวเตอร์เสมือนจริง ไม่สามารถรองรับแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApp), DeFi หรือ NFT ได้เหมือน Ethereum หรือ Solana ความพยายามในการพัฒนา Layer-2 รุ่นแรก เช่น Stacks (STX) และ Rootstock (RSK) แม้จะช่วยให้มี NFT และ DeFi บนเครือข่าย Bitcoin ได้บ้าง แต่ก็ยังติดข้อจำกัดเรื่องความเร็วในการยืนยันธุรกรรม ประสิทธิภาพที่ไม่สูง และประสบการณ์สำหรับนักพัฒนาที่ไม่ลื่นไหล
และคำตอบของปัญหาเหล่านี้ คือ Bitcoin Hyper
เพราะต่างจาก Layer-2 ที่ผ่านมา Bitcoin Hyper เลือกใช้ Solana Virtual Machine (SVM) ซึ่งเป็นเอ็นจินบล็อกเชนที่มีความเร็วสูงและได้รับการพิสูจน์ในตลาดแล้ว ด้วยศักยภาพที่รองรับธุรกรรมได้มากกว่า 65,000 รายการต่อวินาที (tps) ซึ่งเหนือกว่า Visa ที่รองรับได้ 24,000 tps และ Mastercard ที่ 5,000 tps และปัจจุบัน SVM ก็เป็นหัวใจสำคัญของหนึ่งในอีโคซิสเต็มคริปโตที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุด
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ด้วยบริดจ์แบบกระจายศูนย์ที่ไม่ต้องมีตัวกลาง ซึ่งเชื่อมต่อ Bitcoin กับ Bitcoin Hyper Layer-2 โดยผู้ใช้สามารถฝาก BTC เข้าสู่บริดจ์ ซึ่งจะตรวจสอบข้อมูลธุรกรรมโดยตรงจากบล็อกของ Bitcoin จากนั้นจะมีการออกโทเคน BTC เวอร์ชันห่อ (wrapped BTC) บน Bitcoin Hyper เพื่อนำไปใช้ในอีโคซิสเต็มความเร็วสูง เช่น การเทรด สเตกกิ้ง ฟาร์มมิ่ง และอื่นๆ หากผู้ใช้ต้องการรับ BTC กลับคืน ก็เพียงแค่เบิร์นโทเคนที่ห่อไว้ ระบบบริดจ์ก็จะปล่อยเหรียญ BTC กลับไปยังเครือข่ายหลักอย่างปลอดภัย
ด้วยแนวคิดนี้ นักพัฒนาและผู้ใช้จะได้รับประโยชน์ทั้งสองด้าน นั่นคือ ความเร็วและขยายตัวได้ของ Solana ที่ผสานกับความปลอดภัยและการกระจายศูนย์ของ Bitcoin
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ด้วยบริดจ์แบบกระจายศูนย์ที่ไม่ต้องมีตัวกลาง ซึ่งเชื่อมต่อ Bitcoin กับ Bitcoin Hyper Layer-2 โดยผู้ใช้สามารถฝาก BTC เข้าสู่บริดจ์ ซึ่งจะตรวจสอบข้อมูลธุรกรรมโดยตรงจากบล็อกของ Bitcoin จากนั้นจะมีการออกโทเคน BTC เวอร์ชันห่อ (wrapped BTC) บน Bitcoin Hyper เพื่อนำไปใช้ในอีโคซิสเต็มความเร็วสูง เช่น การเทรด สเตกกิ้ง ฟาร์มมิ่ง และอื่นๆ หากผู้ใช้ต้องการรับ BTC กลับคืน ก็เพียงแค่เบิร์นโทเคนที่ห่อไว้ ระบบบริดจ์ก็จะปล่อยเหรียญ BTC กลับไปยังเครือข่ายหลักอย่างปลอดภัย
ด้วยแนวคิดนี้ นักพัฒนาและผู้ใช้จะได้รับประโยชน์ทั้งสองด้าน นั่นคือ ความเร็วและขยายตัวได้ของ Solana ที่ผสานกับความปลอดภัยและการกระจายศูนย์ของ Bitcoin
เมื่อวันที่ Bitcoin Hyper เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โครงการนี้จะกลายเป็น Layer-2 ตัวแรกบนเครือข่าย Bitcoin ที่ถูกออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาจริงจังภายในอีโคซิสเต็มของ Bitcoin เอง การเปลี่ยนแปลงนี้อาจปลดล็อกศักยภาพการใช้งานใหม่ๆ อย่างกว้างขวาง ทำให้ Bitcoin ไม่ได้เป็นเพียงสินทรัพย์ที่เน้นการเก็บมูลค่าอีกต่อไป แต่พร้อมจะก้าวสู่บทบาทของโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ที่ต้องการความเร็วและปริมาณธุรกรรมสูง
ด้วยศักยภาพของเอนจิน Solana ที่อยู่เบื้องหลัง Bitcoin Hyper นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่ต้องการทั้งความเร็วระดับเรียลไทม์ ระบบตรรกะที่ซับซ้อน และการขยายตัวที่ไร้ขีดจำกัด โดยที่ทุกอย่างยังยึดโยงกับความปลอดภัยระดับสูงสุดของเครือข่าย Bitcoin ตัวอย่างเช่น โปรโตคอลการซื้อขายที่ใช้เวลาประมวลผลไม่ถึงวินาที เกมกระจายศูนย์ ทรัพย์สินจริงที่ถูกโทเคนไนซ์ หรือแม้แต่ตลาดทายผลที่ผสานเทคโนโลยี AI ทั้งหมดนี้สามารถเกิดขึ้นได้บนเชนที่มีรากฐานความปลอดภัยแบบเดียวกับ Bitcoin
ฟังก์ชันเหล่านี้อาจเปลี่ยนภาพลักษณ์เดิมของ Bitcoin ไปโดยสิ้นเชิง พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับสิ่งที่ผู้คนคาดหวังจาก Bitcoin และอาจผลักดันการยอมรับ BTC ไปสู่เฟสใหม่อย่างแท้จริง
ที่ผ่านมา นักลงทุนสถาบันรายใหญ่ต่างเข้ามาถือครอง Bitcoin ในฐานะ “ทองคำดิจิทัล” เพื่อเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง เช่นเดียวกับที่ Michael Saylor ประธานบริษัท MicroStrategy ได้โพสต์ใน X ว่า “ถ้ามันไม่ไปศูนย์ ก็ต้องไปถึงล้าน” สะท้อนถึงแนวคิดที่ Bitcoin คือเครื่องมือเก็บมูลค่าระยะยาวที่มีโอกาสเติบโตอย่างมาก
If it’s not going to zero, it’s going to a million.
— Michael Saylor (@saylor) June 13, 2025
อย่างไรก็ตาม หาก Bitcoin Hyper สามารถเดินตามวิสัยทัศน์ได้สำเร็จ สถาบันเหล่านี้จะมีเหตุผลมากขึ้นในการเข้ามาพัฒนาและสร้างนวัตกรรมบนบล็อกเชนของ Bitcoin Layer-2 ที่โปรแกรมได้และมีการชำระธุรกรรมบนเครือข่าย Bitcoin อาจดึงดูดทั้งฟินเทค แพลตฟอร์มสินทรัพย์ ไปจนถึงแอปพลิเคชันกระแสหลักที่ต้องการทั้งความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพ โดยที่ไม่ต้องละทิ้งระบบนิเวศของ Bitcoin
HYPER ไม่ใช่โทเคน Layer-2 ทั่วไปที่เน้นแค่การแจกจ่ายเพื่อสร้างกระแสหรือทำหน้าที่ในระบบโหวตเท่านั้น แต่เป็นสินทรัพย์หลักที่ขับเคลื่อนธุรกรรมต่างๆ ภายในอีโคซิสเต็มของ Bitcoin Hyper ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายค่าแก๊ส การสเตกกิ้ง หรือการเข้าถึงฟีเจอร์สำคัญต่างๆ หาก Bitcoin สามารถเพิ่มศักยภาพการใช้งานใหม่ๆ ผ่านโครงสร้างพื้นฐานชุดนี้ HYPER ก็จะกลายเป็นตัวแทนของการเติบโตดังกล่าวโดยตรง
สิ่งนี้เคยเกิดขึ้นแล้วกับโทเคนในระบบนิเวศอื่น เมื่ออุตสาหกรรม DeFi และ NFT ของ Ethereum ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ไม่ได้มีแค่ราคา ETH ที่พุ่งขึ้น แต่ยังรวมถึงโทเคนอย่าง MATIC, ARB และ OP ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะพวกเขาเป็นประตูสำคัญที่ทำให้เชนหลักใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน Bitcoin Hyper ก็เตรียมพร้อมจะเดินตามเส้นทางเดียวกัน แต่ด้วยศักยภาพของแบรนด์ Bitcoin ที่แข็งแกร่งและเม็ดเงินในตลาดที่มากกว่าหลายเท่า
ปัจจุบัน HYPER ยังอยู่ในช่วงพรีเซลล์ ในขณะที่ทีมพัฒนาเดินหน้าสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างเข้มข้น ซึ่งถือเป็นโอกาสสำหรับผู้ที่เชื่อมั่นในโปรเจกต์นี้ที่จะเข้ามาจัดพอร์ตก่อนที่โปรโตคอลจะเปิดให้ใช้งานเต็มรูปแบบ
แต่เมื่อถึงจุดที่เริ่มมีการเทรดจริง และตลาดกว้างรับรู้ถึงศักยภาพที่ Bitcoin Hyper นำเสนอ การค้นหามูลค่าที่แท้จริงของ HYPER อาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยจำนวนโทเคนที่ถูกกำหนดไว้สูงสุดที่ 21,000 ล้านโทเคน ระบบสเตกกิ้งในตัว รวมถึงแผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และแรงจูงใจสำหรับนักพัฒนา HYPER จะฝังตัวอยู่ในกลไกเศรษฐกิจของโปรโตคอลอย่างแท้จริง
หาก Bitcoin ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม กลายเป็นระบบที่โปรแกรมได้ ขยายตัวได้ และมีสภาพคล่องมากขึ้นด้วยพลังของ Bitcoin Hyper ผลตอบแทนที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้ตกอยู่กับผู้ถือ BTC เพียงอย่างเดียว แต่จะไหลเวียนไปสู่ชั้นโครงสร้างพื้นฐานอย่าง HYPER ที่เป็นหัวใจของการเปลี่ยนแปลงนี้
หากต้องการเข้าร่วมพรีเซลล์ของ Bitcoin Hyper สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของโครงการ โดยผู้สนใจสามารถซื้อโทเคน HYPER ได้ผ่านหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น ETH, USDT, BNB หรือแม้แต่บัตรเครดิต
เพื่อความสะดวกทั้งในขั้นตอนการซื้อและการจัดการหลังการขาย แนะนำให้ใช้งาน Best Wallet ซึ่งขณะนี้มีการแสดงข้อมูลของ HYPER อยู่ในหมวด Upcoming Tokens ภายในแอป ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถติดตาม จัดการ และเข้าถึงโทเคนได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ Best Wallet ยังเปิดโอกาสให้เข้าถึงโทเคนศักยภาพสูงอื่นๆ ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนจะเข้าสู่กระดานเทรดใหญ่
ขณะเดียวกัน ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารและพูดคุยกับชุมชนของ Bitcoin Hyper ได้ผ่าน Telegram และ X (Twitter) ของโครงการ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการของ -> https://bitcoinhyper.com/th
ข่าวดีสำหรับนักลงทุน! Solaxy (SOLX) โปรเจกต์ Layer 2 ที […]
Solaxy (SOLX) โปรเจกต์ Layer-2 น้องใหม่บน Solana กำลังส […]
Bitcoin กำลังจะเข้าสู่ยุคใหม่ด้วยการเปิดตัว Layer 2 ที่ […]
แม้ Dogecoin จะยังคงเป็นเหรียญมีมยอดนิยมระดับโลก แต่ภาพ […]