ในขณะที่ราคา Bitcoin (BTC) ยังคงเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับจุดสูงสุดตลอดกาล (ATH) ความกังวลเกี่ยวกับการฝากเหรียญเข้าสู่ Exchange ที่เพิ่มขึ้นก็เริ่มก่อตัว อย่างไรก็ตาม ข้อมูล On-chain ล่าสุดได้เปิดเผยความแตกต่างที่สำคัญระหว่างการพุ่งขึ้นของราคาในรอบปัจจุบันกับรอบที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลดลงของปริมาณ Bitcoin ที่ถูกฝากเข้าสู่ Exchange ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับทิศทางของตลาด Bitcoin ในอนาคต
สำหรับผู้ที่สนใจและมองเห็นศักยภาพในการเติบโต แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไร สามารถศึกษา คู่มือวิธีซื้อบิทคอยน์สำหรับมือใหม่ เพื่อทำความเข้าใจขั้นตอนการลงทุนอย่างละเอียดได้
Bitcoin Flow Pulse (IFP) คืออะไรและบอกอะไรเรา?
ข้อมูลจาก CryptoQuant โดยนักวิเคราะห์นามแฝง Arab Chain ชี้ให้เห็นว่าตัวชี้วัด Bitcoin Inter-Exchange Flow Pulse (IFP) กำลังแสดง “พฤติกรรมที่น่าสนใจ” โดยชี้ว่านักลงทุนรายใหญ่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเทขาย Bitcoin ของตนเอง แม้ว่าราคาจะซื้อขายอยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ก็ตาม
ที่มา CryptoQuant
ตัวชี้วัด IFP นี้จะติดตามปริมาณ Bitcoin ที่ถูกโอนย้ายระหว่าง Exchange แบบรวมศูนย์ (Centralized Exchanges) ซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนและสภาวะตลาด ซึ่งโดยปกติแล้ว ค่า IFP ที่สูงขึ้นมักจะบ่งชี้ถึงความตั้งใจในการขายหรือการทำ Arbitrage ที่เพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน ค่า IFP ที่ลดลงแสดงถึงกิจกรรมบน Exchange ที่น้อยลงและความเชื่อมั่นในการถือครองที่แข็งแกร่งขึ้น
พฤติกรรมในปัจจุบันของนักลงทุน Bitcoin จึงเป็นการตอกย้ำมุมมองเชิงบวกว่าตลาดยังมีโอกาสไปต่อได้อีกไกล ซึ่งแตกต่างจากวัฏจักรก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ใช่แค่การถือครองเหรียญไว้เฉยๆ แต่ข้อมูลล่าสุดยังแสดงให้เห็นว่า วาฬรายใหญ่กลับมาแห่ซื้อ Bitcoin เพิ่มเติม ซึ่งเป็นสัญญาณกระทิงที่ชัดเจนและสนับสนุนทฤษฎีที่ว่ารอบนี้ยังไม่ถึงจุดสูงสุด รวมทั้งล่าสุดมีรายงานว่า สัญญาณ SOPR ของ Bitcoin ทำสถิติใหม่ ซึ่งบ่งบอกว่าตลาดยังคงมีพื้นที่ให้เติบโตต่อไปและยังไม่เข้าสู่ภาวะร้อนแรงเกินไป
เปรียบเทียบพฤติกรรม Bitcoin ในอดีตและปัจจุบัน สัญญาณที่แตกต่าง
การที่นักลงทุนเลือกจะถือครอง Bitcoin ต่อไปนั้นสวนทางกับจุดสูงสุดของตลาดในปี 2017 และ 2021 อย่างชัดเจน ในช่วงเวลาดังกล่าว มีการไหลเข้าของ Bitcoin จำนวนมหาศาลไปยัง Exchange ต่างๆ ซึ่งตามมาด้วยการปรับฐานราคาครั้งใหญ่แทบจะในทันที การเพิ่มขึ้นของ IFP ในอดีตจึงเป็นเหมือนสัญญาณเตือนของการจบรอบขาขึ้นของ Bitcoin
กราฟที่ Arab Chain แบ่งปันได้แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างค่า IFP ที่เพิ่มขึ้นกับทิศทางราคาของ Bitcoin อย่างชัดเจน โดยแสดงให้เห็นว่าการปรับฐานของราคาเกิดขึ้นตามหลังระดับ IFP ที่สูงขึ้นในช่วงปลายปี 2017 และอีกครั้งในปี 2021 แต่ในรอบปัจจุบัน แม้ว่า IFP จะพุ่งสูงขึ้นในช่วงต้นปี แต่ตลาด Bitcoin กลับเข้าสู่ช่วงพักตัว (Consolidation) แทนที่จะเป็นการปรับฐานรุนแรง
พฤติกรรมเช่นนี้บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นที่สูงมากต่อแนวโน้มขาขึ้นในปัจจุบัน และยังเป็นส่วนหนึ่งที่อธิบายได้ว่าทำไมราคา Bitcoin ถึงสามารถปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีแรงเทขายที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม หากตัวชี้วัด Bitcoin IFP เริ่มปรับตัวสูงขึ้นอย่างกะทันหัน นั่นจะเป็นสัญญาณเตือนที่รุนแรงสำหรับนักเก็งกำไรว่าอาจมีแรงเทขายครั้งใหญ่เกิดขึ้นได้
ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นนี้อาจได้รับแรงหนุนจากปัจจัยภายนอกเช่นกัน ดังเช่นข่าวล่าสุดที่ การเข้าสู่ดัชนี S&P 500 ของ Block ได้ช่วยผลักดันให้ Bitcoin อยู่ในความสนใจของนักลงทุนสถาบันมากขึ้น
แรงกดดันจากการขายของนักขุด Bitcoin ที่ต้องจับตา
ในขณะที่นักลงทุนรายใหญ่ส่วนใหญ่ยังคงนิ่งเฉยในฝั่งขาย ดูเหมือนว่ากลุ่มนักขุด Bitcoin จะกำลังใช้โอกาสนี้ในการทำกำไรจากการพุ่งขึ้นของราคาในปัจจุบัน ข้อมูลเผยว่าปริมาณการไหลออกของ Bitcoin จากกระเป๋าเงินของนักขุดพุ่งสูงถึง 16,000 BTC ในวันที่ 15 กรกฎาคม ซึ่งเป็นระดับรายวันที่สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน
แรงกดดันด้านการขายที่เพิ่มขึ้นนี้ ทำให้นักวิเคราะห์จาก CryptoQuant อย่าง Chairman Lee ได้เน้นย้ำถึงระดับแนวรับสำคัญที่ Bitcoin จะต้องรักษาไว้ให้ได้ เพื่อที่จะยังคงอยู่ในเส้นทางสู่เป้าหมายสิ้นปีที่ 180,000 ดอลลาร์ การเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin ในระยะสั้นจึงน่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง
ณ เวลาที่รายงาน ราคา Bitcoin ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 117,529 ดอลลาร์ ลดลง 1.4% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา การต่อสู้ระหว่างความเชื่อมั่นของนักลงทุนระยะยาวกับแรงขายทำกำไรในระยะสั้นของนักขุด จะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางของ Bitcoin ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
จากข้อมูลทั้งหมดนี้ ทำให้นักลงทุนหลายคนเกิดคำถามสำคัญว่าควรตัดสินใจลงทุนตอนนี้หรือไม่ และ ราคา Bitcoin ในอนาคตจะเป็นอย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
พิมพ์ใจ เป็น นักวิเคราะห์ตลาดการเงินที่มีประสบการณ์มากกว่า 8 ปี โดยเริ่มต้นจากการเป็น Day Trader ในตลาดหุ้นไทยก่อนจะเปลี่ยนมาโฟกัสที่ตลาดคริปโตเต็มตัวในปี 2018 ปัจจุบัน นอกจากงานเขียนแล้ว เธอยังเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุนดิจิทัลแอสเซ็ทให้กับกองทุนรวมหลายแห่ง และเป็นวิทยากรในงานประชุมระดับชาติอย่าง Asia Blockchain Summit พิมพ์ใจผสานความเข้าใจด้านจิตวิทยาการลงทุน การวิเคราะห์เทคนิค และพฤติกรรมตลาดเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างเนื้อหาที่ช่วยให้ผู้อ่านเรียนรู้กลยุทธ์การเทรดที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ อ่านสัญญาณตลาดและจัดการความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม ไม่ใช่เพียงคาดเดาหรือใช้อารมณ์เท่านั้น