Home » Bitcoin (BTC) ปาดหน้า Amazon! ขึ้นแท่นสินทรัพย์อันดับ 5 ของโลก

Bitcoin (BTC) ปาดหน้า Amazon! ขึ้นแท่นสินทรัพย์อันดับ 5 ของโลก

14.07.2025 9:27 2 นาทีที่อ่าน Tanawat Thanichapol
Disclosure

บทความนี้อาจมีลิงก์พันธมิตร ซึ่งทางเว็บไซต์อาจได้รับค่าตอบแทนหากผู้อ่านคลิกหรือลงทะเบียนผ่านลิงก์ดังกล่าว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับผู้อ่าน หากคุณยังคงใช้ไซต์นี้ต่อไป แสดงว่าคุณยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขของเรา


แบ่งปัน: หุ้น

การลงทุนในคริปโตมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง เนื้อหาในเว็บไซต์จัดทำเพื่อให้ข้อมูล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน เนื้อหาบางส่วนอาจมี Affiliate Links ซึ่งเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่น โปรดอ่าน Affiliate Disclaimer และนโยบายบรรณาธิการสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม

Bitcoin (BTC) ปาดหน้า Amazon! ขึ้นแท่นสินทรัพย์อันดับ 5 ของโลก

BTC หรือ Bitcoin ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการการเงินโลกอีกครั้ง โดยล่าสุดมูลค่าตลาดรวม (Market Capitalization) ของ Bitcoin ได้พุ่งทะยานแซงหน้าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon ไปเป็นที่เรียบร้อย ส่งผลให้ Bitcoin กลายเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก

การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ Bitcoin ในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจากทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบันการเงินทั่วโลก ซึ่งเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งชี้ว่าอนาคตของราชาคริปโตนี้กำลังสดใสอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เจาะลึกมูลค่าตลาด Bitcoin แซงยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี

ความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ของ Bitcoin เกิดขึ้นหลังจากราคาได้พุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ (All-Time High) ที่ระดับ 122,900 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเกือบ 13% ภายในสัปดาห์เดียว

การเพิ่มขึ้นของราคา Bitcoin อย่างรวดเร็วนี้ ได้ผลักดันให้มูลค่าตลาดรวมทะลุ 2.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แซงหน้ามูลค่าตลาดของ Amazon ที่ 2.3 ล้านล้านดอลลาร์อย่างเป็นทางการ

การขึ้นแท่นครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ BTC มีมูลค่าสูงกว่า Amazon เท่านั้น แต่ยังแซงหน้าสินทรัพย์สำคัญอื่นๆ เช่น โลหะเงิน (Silver) ที่มีมูลค่าตลาด 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ และ Alphabet (บริษัทแม่ของ Google) ที่มีมูลค่า 2.19 ล้านล้านดอลลาร์อีกด้วย

Bitcoin (BTC) ขึ้นแท่นสินทรัพย์อันดับ 5 ของโลก
Bitcoin (BTC) ขึ้นแท่นสินทรัพย์อันดับ 5 ของโลก ที่มา: TradingView

ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่ามูลค่าตลาดของ Bitcoin ในปัจจุบันอยู่ห่างจาก Apple ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกเพียง 730 ล้านดอลลาร์เท่านั้น การเติบโตของ Bitcoin อย่างต่อเนื่องจึงเป็นที่น่าจับตาอย่างยิ่ง

สถานะใหม่ของ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์อันดับ 5 ของโลกนี้ ตอกย้ำถึงการยอมรับในวงกว้างและการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ทางการเงิน ที่สินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoin กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญเทียบเท่ากับสินทรัพย์ดั้งเดิมและบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก

สถาบันการเงินแห่ถือ BTC ดันความเชื่อมั่นพุ่งสูง

ปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการทำสถิติใหม่ของ Bitcoin คือการยอมรับและการเข้าลงทุนจากสถาบันการเงินและบริษัทจดทะเบียนต่างๆ ทั่วโลก

รายงานล่าสุดเผยว่าจำนวนบริษัทที่ถือ Bitcoin ในงบดุลของตนเองได้เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากช่วงต้นเดือนมิถุนายน โดยปัจจุบันมีบริษัทมากกว่า 265 แห่งที่เข้าถือครอง Bitcoin เพิ่มขึ้นจากเพียง 124 แห่งในไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้า

ข้อมูลเชิงลึกแสดงให้เห็นว่า ปัจจุบันมี Bitcoin จำนวนกว่า 3.5 ล้านเหรียญ ถูกถือครองโดยบริษัทต่างๆ โดยแบ่งเป็น 853,000 เหรียญ (คิดเป็น 4% ของอุปทานทั้งหมด) อยู่ในคลังของบริษัทมหาชน และอีกกว่า 1.4 ล้านเหรียญ (คิดเป็น 6.6% ของอุปทาน) ถูกถือครองผ่านกองทุน Spot Bitcoin ETF

ผู้ถือ BTC
ผู้ถือ BTC ที่มา: BitcoinTreasuriesNet

การที่สถาบันชั้นนำหันมาสะสม Bitcoin อย่างจริงจังนี้ไม่เพียงแต่สร้างความต้องการในตลาด แต่ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั่วโลกอีกด้วย

การที่บริษัทชั้นนำเลือกที่จะเก็บ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองในคลังสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในระยะยาวต่อศักยภาพของเหรียญดังกล่าวในการเป็นสินทรัพย์รักษามูลค่า (Store of Value) และป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ราคา Bitcoin เติบโตอย่างยั่งยืน

แรงหนุนจาก Bitcoin ETF และกฎหมายคริปโตในสหรัฐฯ

กองทุน Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐอเมริกาถือเป็นอีกหนึ่งตัวเร่งปฏิกิริยาสำคัญที่ส่งผลให้ราคา Bitcoin พุ่งทะยาน โดยกองทุนเหล่านี้ได้สร้างสถิติการซื้อสุทธิติดต่อกันถึง 7 วันทำการ ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนมหาศาลเข้าสู่ตลาด Bitcoin ข้อมูลจาก Farside Investors ระบุว่าเพียงแค่วันศุกร์ที่ผ่านมาวันเดียว กองทุน Spot Bitcoin ETF มีกระแสเงินทุนไหลเข้าสุทธิมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เลยทีเดียว!

กระแสเงินทุนที่หลั่งไหลเข้ามาจากกองทุน ETF นี้เป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้ราคา BTC สามารถทะลุแนวต้านสำคัญและสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 กองทุน ETF มีสัดส่วนการลงทุนใน Bitcoin สูงถึง 75% ของการลงทุนใหม่ทั้งหมดในช่วงเวลาสองสัปดาห์ ซึ่งเป็นแรงส่งสำคัญที่ทำให้ราคา Bitcoin ทะลุระดับ 50,000 ดอลลาร์ในขณะนั้น

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากความเคลื่อนไหวทางการเมืองในสหรัฐฯ หรือที่เรียกว่า “Crypto Week” ซึ่งฝ่ายนิติบัญญัติกำลังพิจารณาร่างกฎหมายคริปโตที่สำคัญ 3 ฉบับ ได้แก่ GENIUS Act, CLARITY Act และ Anti-CBDC Surveillance State Act ซึ่งคาดว่าจะช่วยส่งเสริมและสร้างความชัดเจนให้กับอุตสาหกรรมคริปโตในประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อ Bitcoin ในระยะยาว

การที่ Bitcoin สามารถพลิกแซงมูลค่าตลาดของ Amazon ขึ้นมาเป็นสินทรัพย์อันดับ 5 ของโลกได้นั้น ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ชัดเจนถึงการยอมรับในระดับโลก ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญมาจากการเข้าลงทุนอย่างต่อเนื่องของสถาบันการเงินและบริษัทชั้นนำ ควบคู่ไปกับความสำเร็จของกองทุน Spot Bitcoin ETF ที่ดึงดูดเม็ดเงินมหาศาลเข้าสู่ตลาด ทั้งหมดนี้ได้สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับ Bitcoin และตอกย้ำว่าสกุลเงินดิจิทัลสกุลแรกของโลกนี้กำลังก้าวสู่การเป็นสินทรัพย์กระแสหลักอย่างเต็มตัว อนาคตของ Bitcoin จึงยังคงน่าจับตาต่อไป และมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

บล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล, Web3, วิเคราะห์แนวโน้มราคาสินทรัพย์, โทเค็นโนมิกส์ Tanawat Thanichapol เป็นนักวิเคราะห์คริปโตและที่ปรึกษาบล็อกเชนอิสระจากประเทศไทยที่มีประสบการณ์กว่า 7 ปี จบหลักสูตรด้านเศรษฐกิจดิจิทัลจาก MIT Initiative on the Digital Economy (IDE) เขาเคยร่วมงานกับสตาร์ทอัพคริปโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และปัจจุบันเขียนบทความวิเคราะห์ตลาด รวมถึงพัฒนาบอทช่วยเทรดให้กับสื่อสายคริปโตหลายแห่ง เขาเชี่ยวชาญด้านโทเค็นโนมิกส์ การวิเคราะห์ on-chain และการจับสัญญาณแนวโน้มในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล สนใจเป็นพิเศษในด้านการเงินแบบกระจายศูนย์และอนาคตของ We

Telegram

แบ่งปัน: หุ้น
มากกว่า Bitcoin - ข่าวล่าสุดวันนี้
ยังไม่มีความคิดเห็น!

ที่อยู่อีเมลของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่