วงการคริปโตสั่นสะเทือนอีกครั้ง! BigONE Exchange แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชื่อดัง ได้ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการว่าถูกโจมตีทางไซเบอร์ โดยมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานของ Hot Wallet ส่งผลให้เกิดความเสียหายเป็นมูลค่ามหาศาลประมาณ 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 990 ล้านบาท เหตุการณ์นี้ตอกย้ำถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่ทุก Crypto Exchange ต้องเผชิญ
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา BigONE Exchange ได้ตรวจพบความเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ที่ผิดปกติผ่านระบบแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ ซึ่งนำไปสู่การตรวจสอบและยืนยันว่าเกิดการโจมตีจากบุคคลที่สามจริง โดยเป้าหมายหลักคือ Hot Wallet ของทาง Exchange เส้นทางการโจมตีได้ถูกระบุและควบคุมไว้แล้วเพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม และกุญแจส่วนตัว (Private Keys) ทั้งหมดของผู้ใช้งานยังคงปลอดภัยดี
เพื่อติดตามและพยายามกู้คืนสินทรัพย์ที่ถูกขโมยไป ทาง Exchange ได้ร่วมมือกับ SlowMist ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านความปลอดภัยบนบล็อกเชน สินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีครั้งนี้มีหลากหลายรายการ รวมถึง 120 Bitcoin (BTC), 350 Ether (ETH), USDT จำนวนหลายล้านดอลลาร์บนเชนต่างๆ รวมถึงเหรียญอื่น ๆ เช่น CELR, SNT, และ SHIB
🚨SlowMist TI Alert🚨
The exchange @BigONEexchange was exploited due to a supply chain attack and loss exceeds $27 million. The production network was compromised, and the operating logic of account and risk control related servers was modified, enabling the attacker to withdraw… pic.twitter.com/GkxlNIUs6A
— SlowMist (@SlowMist_Team) July 16, 2025
เหตุการณ์นี้ถือเป็นอีกหนึ่งบททดสอบสำคัญสำหรับความน่าเชื่อถือของ Crypto Exchange ทั่วโลก การตอบสนองที่รวดเร็วและการสื่อสารที่โปร่งใสของ BigONE Exchange จึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
จากการวิเคราะห์ของ Cyvers บริษัทรักษาความปลอดภัยบล็อกเชน พบว่าแฮกเกอร์อาจใช้ช่องโหว่จากระบบเครือข่ายการผลิต (Production Network) ของ Exchange โดยคาดว่าเป็นการเจาะผ่านช่องทาง CI/CD (Continuous Integration and Continuous Deployment) หรือระบบจัดการเซิร์ฟเวอร์ เพื่อแก้ไขตรรกะทางธุรกิจและปิดการทำงานของระบบตรวจสอบความเสี่ยงที่สำคัญ
การโจมตีเริ่มต้นด้วยการติดตั้งไฟล์ประสงค์ร้าย (Malicious Binaries) บนเซิร์ฟเวอร์ที่จัดการบัญชี จากนั้นจึงเริ่มดูดเงิน 350 ETH (มูลค่าประมาณ 1.1 ล้านดอลลาร์) ออกไปก่อน แล้วขยายผลไปยังการถอนสินทรัพย์บนเชนอื่น ๆ เช่น Bitcoin, Solana และ Tron ก่อนจะรวบรวมสินทรัพย์ที่ขโมยได้ไปยังที่อยู่ภายนอกเพียงแห่งเดียว
Cyvers ยังชี้ให้เห็นถึงช่องโหว่ด้านความปลอดภัยหลายประการที่เป็นต้นเหตุของเหตุการณ์นี้ ได้แก่ การจัดการ Hot Wallet ที่มีจุดเสี่ยงเพียงจุดเดียว (Single-point Failure), การควบคุมความสมบูรณ์ของโค้ดไม่เพียงพอ, และการแบ่งส่วนเครือข่ายที่จำกัดระหว่างเซิร์ฟเวอร์สำหรับพัฒนาและเซิร์ฟเวอร์จัดการ Wallet
ท่ามกลางวิกฤต BigONE Exchange ได้ประกาศคำมั่นสัญญาว่าจะรับผิดชอบต่อความสูญเสียทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากการแฮกครั้งนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าสินทรัพย์ของผู้ใช้งานจะไม่ได้รับผลกระทบ ทาง Exchange ได้เริ่มใช้เงินทุนสำรองเพื่อความปลอดภัยภายในองค์กร ซึ่งประกอบด้วย BTC, ETH, USDT, Solana (SOL) และ Mixin (XIN) เพื่อเติมเงินเข้ากระเป๋าของผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบแล้ว
สำหรับโทเค็นกระแสหลักและโทเค็นอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบ ทาง Exchange กำลังดำเนินการจัดหาสภาพคล่องจากภายนอกอย่างเร่งด่วนผ่านกลไกการกู้ยืม เพื่อฟื้นฟู Wallet ของแพลตฟอร์มให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
การรับผิดชอบความเสียหายทั้งหมด 100% ของ BigONE Exchange ถือเป็นมาตรฐานที่สำคัญในอุตสาหกรรม และเป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างระหว่าง Exchange ที่มีความน่าเชื่อถือและ Exchange ที่อาจปล่อยให้ผู้ใช้งานรับความเสี่ยงเพียงลำพัง
เหตุการณ์แฮก BigONE Exchange มูลค่า 27 ล้านดอลลาร์ เป็นเครื่องย้ำเตือนที่ชัดเจนถึงความเสี่ยงที่ยังคงมีอยู่ในการฝากสินทรัพย์ไว้ที่ Exchange การพิจารณากระจายความเสี่ยงโดยใช้กระเป๋าเงินแบบ Self-custody ควบคู่ไปด้วยก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
Best Wallet ไม่ได้เป็นเพียงแค่กระเป๋าเงินแบบ Self-custody ที่จะช่วยเก็บสินทรัพย์คริปโตของคุณอย่างปลอดภัย แต่ยังเป็นศูนย์รวมสำหรับการบริหารสินทรัพย์ดิจิทัล เชื่อมต่อกับตลาดและบริการต่าง ๆ ได้อย่างครบวงจร
เริ่มต้นใช้งาน Best Wallet เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการจัดการพอร์ตของคุณได้แล้ววันนี้
จะเป็นความสำเร็จซ้ำสองเช่นเดียวกับของ Shibainu ในปี 202 […]
ราคา Dogecoin (DOGE) เหรียญมีมชื่อดัง ดีดตัวขึ้นกว่า 6% […]
BTC โดนโกยซื้อไม่หยุด โดยเฉพาะจากสถาบัน ล่าสุดบริษัท Bl […]
Bitcoin (BTC) และ คริปโตเคอร์เรนซี ยังคงได้รับการยอมรับ […]