Crypto Wallet ที่ดีที่สุด 2025 – เลือกยังไง? พร้อมสอนใช้งานเบื้องต้น

การลงทุนในคริปโตมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง เนื้อหาในเว็บไซต์จัดทำเพื่อให้ข้อมูล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน เนื้อหาบางส่วนอาจมี Affiliate Links ซึ่งเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่น โปรดอ่าน Affiliate Disclaimer และนโยบายบรรณาธิการสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม

Disclosure

บทความนี้อาจมีลิงก์พันธมิตร ซึ่งทางเว็บไซต์อาจได้รับค่าตอบแทนหากผู้อ่านคลิกหรือลงทะเบียนผ่านลิงก์ดังกล่าว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับผู้อ่าน หากคุณยังคงใช้ไซต์นี้ต่อไป แสดงว่าคุณยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขของเรา


Crypto Wallet แบบ Self-Custody กลายเป็นสิ่งจำเป็นไปแล้วในยุคที่แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนถูกแฮ็กกันจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีตัวเลือกกระเป๋าจำนวนมากมายในตลาด การจะหากระเป๋าเงินดิจิทัลสักใบที่ปลอดภัยและเหมาะกับตัวเองจึงไม่ใช่เรื่องง่าย

บทความนี้จะมานำเสนอลิสต์แอปกระเป๋าเงินดิจิทัลที่คัดเลือกมาแล้ว 5 แพลตฟอร์มว่าดีที่สุด และในส่วนท้ายของบทความเรายังได้อธิบายวิธีการเริ่มต้นและวิธีใช้งานกระเป๋าเงินดิจิทัลที่แนะนำมากที่สุดด้วย หากคุณต้องการเริ่มใช้งานอย่างรวดเร็ว สามารถข้ามไปอ่านส่วนนั้นได้เลย

นอกจากนี้ เราจะอธิบายข้อควรระวังที่ควรรู้เมื่อใช้งาน Crypto Wallet ด้วย ดังนั้นกรุณาทำความเข้าใจก่อนเริ่มใช้งาน

Table of Contents

รายการ Crypto Wallet ที่แนะนำล่าสุด 2025

มาดูรายการแนะนำแอปกระเป๋าเงินดิจิทัลกันเลย มีทั้ง Hot Wallet ไปจนถึง Cold Wallet:

  1. Best Wallet:กระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial ที่สามารถจัดการโทเค็นกว่า 1,000 รายการบน Blockchain หลายเครือข่าย รองรับการซื้อขาย แลกเปลี่ยน และ Staking
  2. MetaMask:กระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial ที่เชื่อมต่อกับ DApps ได้ รองรับหลายเครือข่ายเช่น Ethereum และ Polygon
  3. Ledger:Hardware Wallet ที่สามารถเก็บแบบออฟไลน์ได้ จัดการสกุลเงินดิจิทัลกว่า 5,500 ตัวอย่างปลอดภัย
  4. Trezor:Hardware Wallet ที่มีความน่าเชื่อถือสูงตั้งแต่ยุคแรก รองรับหลายสกุลเงินพร้อมการออกแบบ Open Source
  5. Electrum:กระเป๋าเงิน Bitcoin เฉพาะที่เบาและรวดเร็ว รองรับ Multi-Sig และ Cold Storage

①:Best Wallet

เว็บไซต์ของ Best Wallet บนมือถือ

Best Wallet เป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบ Self-Custody รุ่นใหม่ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2025 รองรับ Multi-Chain สามารถจัดการสกุลเงินดิจิทัลหลายตัวรวมถึง Bitcoin ได้อย่างปลอดภัย และสามารถใช้เป็น Ethereum Wallet ได้ด้วย

คุณสมบัติหลักมีดังนี้:

  • ความปลอดภัยขั้นสูง:ใช้งาน Two-Factor Authentication (2FA) และ Biometric Authentication เพื่อปกป้องสินทรัพย์ของผู้ใช้อย่างแข็งแกร่ง
  • ฟังก์ชันครบครัน:ครอบคลุมฟังก์ชันที่จำเป็นสำหรับการซื้อขายคริปโต เช่น ซื้อ เก็บ โอน Swap ขาย เป็นต้น
  • Token Launchpad:ผู้ใช้สามารถลงทุนในเหรียญคริปโต Presale ได้โดยตรง

Best Wallet มีแผนติดตั้งฟีเจอร์จัดการ Portfolio ที่สามารถจัดการสินทรัพย์ในกระเป๋าเงินหลายใบได้ในที่เดียว นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับ DEX จำนวนมากเพื่อให้สามารถ Swap โทเค็นได้ด้วยเรทที่ดีที่สุด

ในอนาคตจะมีการเปิดตัว Best Card เพื่อให้สามารถชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลโดยตรงและรับ Cashback สูงสุด 8% แถมยังมีการพัฒนา Browser Extension เพื่อให้เข้าถึงได้จากเดสก์ท็อปอีกด้วย

Best Wallet รวมความใช้งานง่ายและฟังก์ชันขั้นสูงเข้าด้วยกัน จึงเป็น crypto wallet รุ่นใหม่ที่มีความปลอดภัยเหนือกว่า MetaMask และนำเสนอความเป็นไปได้ใหม่ๆ ไปพร้อมๆ กัน ผู้ใช้ยังสามารถซื้อ Crypto ด้วยบัตรเครดิตได้ รวมถึงสามารถลงทุนในโปรเจค Airdrop ใหม่ๆ ได้ด้วย

หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม คุณสามารถดูรีวิว Best Wallet ฉบับเต็มของเรา

ประเภทกระเป๋าเงิน Hot Wallet
จำนวนสกุลเงินที่รองรับ โทเค็นหลายพันสกุล
แอปมือถือ ใช้งานได้ (รองรับทั้ง iOS และ Android)

②:MetaMask

เว็บไซต์มือถือของ MetaMask

MetaMask เป็น Crypto Wallet ยอดนิยมสำหรับเชื่อมต่อกับบล็อกเชน Ethereum ใช้งานได้ในรูปแบบ Browser Extension และ Mobile App รองรับเบราว์เซอร์หลักอย่าง Chrome, Firefox, Brave, Edge เป็นพิเศษ เป็นวอลเล็ตที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ที่เน้นหรือชื่นชมศักยภาพในอนาคตของ Ethereum

คุณสมบัติหลักมีดังนี้:

  • EVM Compatible:สามารถเก็บ Ethereum และ Token ERC-20, ERC-721 ได้อย่างปลอดภัย
  • Token Swap:มีฟีเจอร์ Token Swap ที่มีประสิทธิภาพโดยใช้ DEX Aggregator
  • การเข้าถึง DApps:สามารถเชื่อมต่อโดยตรงกับ DeFi Platform และ NFT Marketplace จากเบราว์เซอร์

จุดเด่นที่สำคัญที่สุดของ MetaMask คือการออกแบบความปลอดภัยที่เก็บ Private Key ของผู้ใช้ไว้ในอุปกรณ์ Local และไม่เก็บไว้ใน Server แบบรวมศูนย์

เมื่อคุณสร้างวอลเล็ต คุณจะได้รับ Seed Phrase (Secret Backup Phrase) ที่ประกอบด้วยชุดคำ 12 คำ ซึ่งสำคัญมากและต้องเก็บไว้ในที่ปลอดภัยและเป็นความลับ

ในปี 2025 Browser Extension ของ MetaMask มีผู้ใช้งานรายเดือนมากกว่า 25 ล้านคน ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่เชื่อถือได้มากที่สุดใน Ecosystem ของ Ethereum และนอกจาก Ethereum แล้วยังรองรับ Altcoins ที่เข้ากันได้กับ EVM (Ethereum Virtual Machine) ด้วย เช่น Binance Smart Chain, Polygon, xDai ทำให้มีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง

ประเภท Wallet Hot Wallet
จำนวนสกุลเงินที่รองรับ Token ที่เข้ากันได้กับ EVM
แอพมือถือ ใช้งานได้ (รองรับ iOS และ Android)

③:Ledger

เว็บไซต์ของ Ledger บนมือถือ

Ledger เป็น Hardware Wallet ที่ล้ำสมัยสำหรับจัดเก็บคริปโตอย่างปลอดภัย เพราะจะเก็บ Private Key ของคุณแบบ Offline เพื่อปกป้องทรัพย์สินจากภัยคุกคาม Online เช่น การแฮกและการโจมตี Phishing เป็นต้น

คุณสมบัติหลักมีดังนี้:

  • Secure Element Chip:ติดตั้งชิปความปลอดภัยระดับสูงแบบเดียวกับบัตรธนาคารและ E-Passport เพื่อป้องกันการปลอมแปลงทางกายภาพ
  • Cold Storage:เก็บทรัพย์สินในสถานะที่ตัดการเชื่อมต่อจากอินเทอร์เน็ต ลดความเสี่ยงจากการโจมตี Online อย่างมีนัยสำคัญ
  • เป็นกระเป๋าแบบ Non-Custodial:ผู้ใช้งานจะเป็นผู้จัดการ Private Key ด้วยตัวเองอย่างสมบูรณ์ เป็นการป้องกันทรัพย์สินโดยไม่ต้องพึ่งพาบุคคลที่สาม

ปัจจุบัน Ledger มี Crypto Wallet ให้เลือกหลายรุ่น ได้แก่ Ledger Flex, Ledger Nano S Plus, Ledger Nano X, Ledger Stax อุปกรณ์เหล่านี้ทำงานร่วมกับแอป Ledger Live และรองรับคริปโตและโทเคนมากกว่า 5,500 สกุล

เมื่อทำธุรกรรม จะต้องเริ่มจาก Ledger Live App ก่อน และทำการอนุมัติทางกายภาพบนอุปกรณ์ Ledger

นอกจากนี้ แม้อุปกรณ์สูญหายหรือเสียหาย คุณก็สามารถกู้คืนทรัพย์สินในอุปกรณ์ใหม่ได้ โดยใช้ Backup Phrase 24 คำ ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ว่าสินทรัพย์ของตัวเองจะปลอดภัย ตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงผู้ที่มีประสบการณ์

สรุปได้ว่า Ledger Wallet เป็นตัวเลือกที่เชื่อถือได้ที่รวมฟีเจอร์ความปลอดภัย ความใช้งานง่าย และความเข้ากันได้กับเครือข่าย Blockchain ต่างๆ

หากคุณมีแผนจะถือ Bitcoin ในระยะยาว ควรพิจารณาการใช้งาน Cold Wallet อย่าง Ledger เพื่อเก็บสินทรัพย์อย่างปลอดภัย รวมถึง BTC ที่ได้จากการขุด Bitcoin (Mining) เป็นต้น ก็สามารถเก็บไว้ในกระเป๋าชนิดนี้เช่นกัน

ประเภท Crypto Wallet Cold Wallet
จำนวนเหรียญที่รองรับ Token มากกว่า 5,500 สกุล
แอปมือถือ ใช้ได้ (รองรับทั้ง iOS และ Android)

④:Trezor

เว็บไซต์มือถือของ Trezor

Trezor เป็นหนึ่งใน Hardware Wallet แรกที่เปิดตัวในปี 2014 ซึ่งเป็น Cold Storage Device ที่เชี่ยวชาญด้านการเก็บรักษาคริปโตอย่างปลอดภัย พัฒนาโดย SatoshiLabs และขึ้นชื่อในด้านความโปร่งใสจาก Open Source ทั้งยังคุณสมบัติรักษาความปลอดภัยระดับสูง

คุณสมบัติหลักมีดังนี้:

  • รักษาความปลอดภัยขั้นสูง:เก็บ Private Keys แบบ Offline พร้อมป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย PIN และฟีเจอร์ Passphrase
  • รองรับ Multi Currency:รองรับ Bitcoin, Ethereum, Cardano รวมถึง Cryptocurrency และ Token อีกกว่า 7,000 ประเภท
  • Shamir Backup:มีตัวเลือก Recovery ขั้นสูงที่สามารถแบ่ง Recovery Phrase ออกเป็นหลายส่วน (ใช้ได้กับ Model T)

ปัจจุบัน Trezor มีหลายรุ่น เช่น Model T, Safe 3, Safe 5 โดยแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะ Model T ที่ติดตั้งหน้าจอสัมผัสสีขนาด 1.54 นิ้ว ให้ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ยอดเยี่ยมในการยืนยันธุรกรรมโดยตรงบนอุปกรณ์ ส่วนรุ่น Safe 5 ล่าสุดมาพร้อมหน้าจอสัมผัสและฟีเจอร์ Haptic Feedback ที่ช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างง่ายดายและเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

ผู้ใช้สามารถซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน Stake และอื่นๆ ได้อย่างง่ายดายผ่านแอปพลิเคชัน Trezor Suite นอกจากนี้ยังสามารถทำงานร่วมกับแอปบุคคลที่สามได้ เช่น MetaMask, Exodus, MyEtherWallet และสามารถเชื่อมต่อกับ DApps ได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม บางรุ่นอาจมีข้อจำกัดในการจัดการ NFT, ฟีเจอร์ Staking และการรองรับแอปมือถือที่จำกัด

ประเภท Crypto Wallet Cold Wallet
จำนวนเหรียญที่รองรับ Token มากกว่า 9,000 สกุล
แอปมือถือ ใช้ได้ (รองรับทั้ง iOS และ Android)

⑤:Electrum

เว็บไซต์มือถือของ Electrum

Electrum เป็นหนึ่งใน Bitcoin Wallet เก่าแก่และน่าเชื่อถือที่สุด เปิดตัวเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2011 ใช้งานภายใต้ Open Source MIT License และสามารถใช้งานได้บน Windows, Mac, Linux และ Android

คุณสมบัติหลักมีดังนี้:

  • เน้นความปลอดภัย:Private Keys ได้รับการเข้ารหัส มีฟีเจอร์กู้คืนด้วย Seed Phrase 13 คำ ทำให้สามารถเรียกคืนสินทรัพย์ได้แม้อุปกรณ์สูญหาย
  • ออกแบบให้เบา:ใช้ระบบ SPV (Simple Payment Verification) ที่ไม่ต้องดาวน์โหลด Blockchain ทั้งหมด ทำให้ยืนยันธุรกรรมและส่งเงินทำได้อย่างรวดเร็ว
  • ฟีเจอร์ขั้นสูง:มี Multi-signature, Cold Storage, การเชื่อมต่อ Hardware Wallet, รองรับ Lightning Network และฟีเจอร์อื่น ๆ สำหรับการใช้งานระดับสูง

Electrumใช้ระบบ Decentralized Server จึงไม่มี Downtime และสามารถใช้งานได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีความยืดหยุ่นในการตั้งค่าค่าธรรมเนียมธุรกรรมด้วยตนเอง และรองรับ SegWit ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมด้วย

อย่างไรก็ตาม Electrum ยังมีข้อจำกัด เพราะรองรับเฉพาะ Bitcoin เท่านั้น และอาจใช้งานยากสำหรับผู้เริ่มต้น แต่ถึงกระนั้น สำหรับนักลงทุน Bitcoin ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและฟังก์ชันการทำงาน Electrum ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือก Crypto Wallet ที่เหมาะสมที่สุด

ประเภท Wallet Hot Wallet
จำนวนเหรียญที่รองรับ Bitcoin เท่านั้น
แอปสมาร์ทโฟน ใช้งานได้บางส่วน (รองรับ Android)

Crypto Wallet คืออะไร? ทำงานอย่างไร?

Crypto Wallet คือซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์สำหรับเก็บรักษาและจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างปลอดภัย มีหน้าที่สำคัญในการทำให้ธุรกรรมบน Blockchain ดำเนินไปได้และปกป้อง Private Keys ของผู้ใช้งาน

กลไกการทำงานของวอลเล็ตจะขึ้นอยู่กับระบบ Public Key Cryptography โดยแต่ละ wallet จะได้รับ “Public Key (Wallet Address)” และ “Private Key” เป็นคู่

Wallet Address คือสิ่งที่แชร์ให้ผู้อื่นเพื่อรับเงินที่โอนมา โดย Wallet Address ของ Bitcoin มี 27-35 ตัวอักษร ส่วน Ethereum มี 40-44 ตัวอักษร

ในขณะที่ Private Key ใช้สำหรับส่งเงินและจัดการเงินทุน

ทั้งนี้วอลเล็ตจะไม่ได้ “เก็บ” สกุลเงินดิจิทัลจริงๆ แต่จะติดตามยอดคงเหลือและประวัติธุรกรรมบน Blockchain

เมื่อทำการส่งเงิน วอลเล็ตก็จะใช้ “Private Key” เซ็นธุรกรรมและส่งไปยังเครือข่าย กลไกนี้ช่วยรับรองความปลอดภัยของสินทรัพย์และความถูกต้องของธุรกรรม

ผู้ใช้งานจำเป็นต้องจัดการ Private Key อย่างรอบคอบ เพราะหากสูญหายอาจไม่สามารถเข้าถึงสินทรัพย์ได้ จึงจำเป็นต้องมีการ Backup และรู้มาตรการรักษาความปลอดภัยเสมอ

ประเภทของ Crypto Wallet มีอะไรบ้าง?

ใบหน้าผู้คนและสกุลเงินดิจิทัล

จริงๆ แล้วประเภทของ Crypto Wallet นั้นมีหลากหลาย แต่ในที่นี้เราจะมาทำความรู้จัก 2 ประเภทหลักๆ กัน ได้แก่:

  • Hot Wallet
  • Cold Wallet

Hot Wallet คืออะไร

Hot Wallet คือ Crypto Wallet ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา เป็นประเภทที่สะดวก เพราะใช้งานผ่าน Exchange หรือแอปสมาร์ทโฟน แต่ในด้านความปลอดภัยถือว่ามีจุดอ่อนมากกว่า Cold Wallet

Hot Wallet มีประเภทหลักๆ ต่อไปนี้:

  • Exchange Wallet:เป็นวอลเล็ตที่ให้บริการโดยกระดานเทรดคริปโต สามารถจัดการหลายสกุลเงินอย่าง Bitcoin และ Ethereum ทำธุรกรรมได้อย่างราบรื่น แต่ก็มีความเสี่ยงจากการที่กระดานเทรดถูกแฮ็ก
  • Desktop Wallet:ประเภทที่ติดตั้งใช้งานบนคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้สามารถจัดการ Private Keys ด้วยตนเอง จึงมีความปลอดภัยเหนือกว่า Exchange Wallet ตัวอย่างเช่น Electrum
  • Mobile Wallet:เป็นแอปที่ใช้งานบนสมาร์ทโฟน สามารถโอนเงินด้วย QR Code ใช้งานสะดวกแม้อยู่นอกสถานที่ เช่น Best Wallet, MetaMask เป็นต้น ซึ่งวอลเล็ตประเภทนี้ได้รับความนิยมมาก

Hot Wallet เหมาะสำหรับธุรกรรมจำนวนเล็กน้อยและการใช้งานประจำวัน แต่หากต้องการเก็บสินทรัพย์จำนวนมาก ควรพิจารณาใช้ร่วมกับ Cold Wallet ที่มีความปลอดภัยสูงกว่า

Cold Wallet คืออะไร

Cold Wallet คือวอลเล็ตที่เก็บสกุลเงินดิจิทัลในสภาพแวดล้อมแบบ Offline คือไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และเนื่องจาก Private Keys ไม่ได้อยู่ในโลกออนไลน์ จึงช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกแฮ็กได้อย่างมาก เหมาะสำหรับการเก็บระยะยาวและการเก็บรักษาสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมากอย่างปลอดภัย

คุณลักษณะหลักของ Cold Wallet คือประสิทธิภาพความปลอดภัยสูง เนื่องจากเก็บ Private Keys ในอุปกรณ์กายภาพ จึงปกป้องสินทรัพย์ของคุณจาก Malware และ Phishing Attack ได้ดี

อย่างไรก็ตาม เมื่อทำธุรกรรมทุกครั้งจำเป็นต้องมีการดำเนินการทางกายภาพ จึงอาจมีความยุ่งยากเล็กน้อยสำหรับผู้ที่ทำธุรกรรมบ่อยๆ

Crypto Wallet แบบ Cold ที่ควรรู้จักมี 2 ประเภทหลักดังนี้:

  • Hardware Wallet: เป็นอุปกรณ์เฉพาะทาง เช่น Ledger Nano หรือ Trezor ที่เป็นอุปกรณ์ physical ที่ใช้งานแบบมีการเชื่อมต่อเหมือนกับ USB
  • Paper Wallet: เป็นวิธีการพิมพ์ Private Key ลงบนกระดาษและเก็บรักษาแบบออฟไลน์โดยสมบูรณ์ ซึ่งเป็นรูปแบบที่เรียบง่ายที่สุด แต่ก็ต้องระวังความเสียหายของกระดาษด้วย

สรุปได้ว่า สำหรับนักลงทุนที่ใส่ใจความปลอดภัยหรือผู้ที่ถือครองคริปโตจำนวนมาก ขอแนะนำให้ใช้ Cold Wallet

วิธีเลือก Crypto Wallet ที่เหมาะสม

กลุมคนยืนกับสกุลเงินดิจิทัล

แม้ว่าจะมี Crypto Wallet มากมายหลายประเภท แต่เมื่อเลือกควรพิจารณาจากมุมมองต่อไปนี้ โดยเฉพาะในช่วงฟองสบู่คริปโตปี 2025 ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง:

  • ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก
  • ดูความสมดุลระหว่างความง่ายในการใช้งานและฟีเจอร์
  • พิจารณาสกุลเงินที่รองรับและศักยภาพในอนาคต

ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก

เมื่อเลือก Crypto Wallet สิ่งที่สำคัญที่สุดคือฟีเจอร์ความปลอดภัย การเลือกวอลเล็ตที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อปกป้องสินทรัพย์ ก่อนอื่นควรเลือกวอลเล็ตที่รองรับการยืนยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอน (2FA) ซึ่งจะช่วยป้องกันการเข้าถึงโดยบุคคลที่สามในกรณีที่รหัสผ่านรั่วไหล

นอกจากนี้ วิธีการจัดการ Private Key ก็มีความสำคัญเช่นกัน การใช้วอลเล็ตแบบ Self-Custody ที่คุณเป็นผู้จัดการ Private Key เองนั้น จะช่วยปกป้องสินทรัพย์ในกรณีที่กระดานเทรด (Exchange) ถูกแฮ็ก

สรุปวิธีการเลือก Crypto Wallet ที่ปลอดภัย:

  • เลือกกระเป๋าที่มีฟีเจอร์ Backup และ Restore (สามารถเก็บ Seed Phrase ไว้อย่างปลอดภัยได้)
  • เลือกกระเป๋าที่มีการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ (เพราะจุดอ่อนด้านความปลอดภัยควรได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว)

นอกจากนี้ ควรพิจารณาใช้ Hardware Wallet เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ physical ที่เก็บ Private Key แบบออฟไลน์ จึงมีความปลอดภัยสูงจากการโจมตีออนไลน์

ทริค: การแยกใช้ Cold Wallet และ Hot Wallet โดยเก็บสินทรัพย์จำนวนมากไว้ใน Cold Wallet และเก็บเหรียญเพียงเล็กน้อยใน Hot Wallet สำหรับการซื้อขายประจำวันก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ

การให้ความสำคัญกับฟีเจอร์ความปลอดภัยเป็นอันดับแรกจะทำให้คุณสามารถลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ

ดูความสมดุลระหว่างความง่ายในการใช้งานและฟีเจอร์

เมื่อเลือก Crypto Wallet ความสมดุลระหว่างความง่ายในการใช้งานและฟีเจอร์ล้ำๆ เป็นปัจจัยที่สำคัญมาก สำหรับผู้เริ่มต้น คุณอาจต้องการการใช้งานที่เข้าใจง่าย ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญมักต้องการฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงและตัวเลือกการซื้อขายที่หลากหลาย

ดังนั้น Crypto Wallet ที่เหมาะสมควรมีความสมดุลที่ระหว่างองค์ประกอบเหล่านี้ตามระดับประสบการณ์และวัตถุประสงค์ของผู้ใช้งาน

วอลเล็ตที่ใช้งานง่าย ควรมีคุณสมบัติดังนี้:

  • Interface ที่เรียบง่ายและใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • มีการรองรับภาษาไทยที่ครบถ้วนและออกแบบมาให้มือใหม่ไม่สับสน
  • สามารถใช้งานผ่าน Mobile App ได้

องค์ประกอบด้านฟีเจอร์ที่ควรให้ความสำคัญ:

  • ประเภทและจำนวนเหรียญคริปโตที่รองรับ
  • ความครบถ้วนของฟีเจอร์ความปลอดภัย (การยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน, การยืนยันด้วยลายนิ้วมือ เป็นต้น)
  • ความสะดวกในการ Backup และ Restore

สำหรับผู้ที่ใช้ Crypto Wallet ครั้งแรก แนะนำให้เริ่มจากกระเป๋าที่เรียบง่ายและเน้นฟีเจอร์พื้นฐานก่อน เมื่อมีประสบการณ์เพิ่มขึ้นจึงค่อยพิจารณาย้ายไปใช้กระเป๋าที่มีฟีเจอร์ขั้นสูงมากขึ้น นอกจากนี้การเริ่มซื้อขายจำนวนเล็กน้อยก่อนเพื่อให้คุ้นเคยกับการใช้งานก็เป็นสิ่งสำคัญ

การเลือกกระเป๋าที่เหมาะสมกับความต้องการและระดับเทคนิคของคุณจะช่วยให้การจัดการและซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลเป็นไปอย่างราบรื่น

พิจารณาสกุลเงินที่รองรับและศักยภาพในอนาคต

เมื่อเลือก Crypto Wallet การพิจารณาสกุลเงินที่รองรับและศักยภาพในอนาคตมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจุดนี้ที่นักลงทุนจำนวนมากมักมองข้าม จะมีบทบาทสำคัญในการจัดการสินทรัพย์ระยะยาว

ประเภทของเหรียญคริปโตที่กระเป๋ารองรับจะส่งผลโดยตรงต่อกลยุทธ์การลงทุนของคุณ ซึ่ง Crypto Wallet ที่เหมาะสมควรตอบสนองเงื่อนไขต่อไปนี้:

  • รองรับทั้ง Major Coin และ Altcoin: เลือกกระเป๋าที่รองรับไม่เพียงแค่ Bitcoin, Ethereum, Ripple และสกุลเงินหลักๆ แต่ยังรองรับเหรียญ ICO ที่มีอนาคตไกลด้วย เพราะวันหนึ่งเมื่อคุณชำนาญแล้ว คุณอาจอยากลงทุนมากกว่าแค่เหรียญหลักๆ ที่คุ้นเคย
  • ความเข้ากันได้ของ Token Standard: การรองรับมาตรฐาน Token หลักๆ เช่น ERC-20, BEP-20 จะเพิ่มความสามารถในการขยายตัวในอนาคต

นอกจากนี้ศักยภาพในอนาคตของกระเป๋าไม่เพียงแค่ปรากฏในด้านเทคนิค แต่ยังสะท้อนผ่านทัศนคติของทีมผู้พัฒนาและความกระตือรือร้นของชุมชนด้วย

จุดที่ควรให้ความสนใจ ได้แก่:

  • การอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ: มีการปรับปรุงความปลอดภัยและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่อย่างต่อเนื่องหรือไม่
  • ความโปร่งใสของทีมพัฒนา: มี Roadmap ที่ชัดเจนและการสื่อสารกับผู้ใช้งานอย่างกระตือรือร้นหรือไม่
  • การสนับสนุนจากชุมชน: มีชุมชนผู้ใช้ที่กระตือรือร้นและการสนับสนุนการแก้ปัญหาที่ครบถ้วนหรือไม่

ตัวอย่างเช่น หากดูจาก Development Roadmap ของ Best Wallet จะเห็นได้ว่าวอลเล็ตนี้มีการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงในอนาคต

วิธีเริ่มต้นและใช้งาน Crypto Wallet | เสร็จใน 5 นาที

ที่นี่เราจะอธิบายวิธีเริ่มต้นและใช้งาน Crypto Wallet กัน โดยจะใช้ตัวอย่างคือ “Best Wallet” ซึ่งเป็น Web3 Wallet ที่แนะนำมากที่สุด ซึ่งรองรับ Bitcoin และ Ethereum รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ อีกกว่า 1,000 สกุล

ปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อเตรียมพร้อม:

  1. เตรียม Best Wallet
  2. เลือกสกุลเงินที่ต้องการซื้อขาย
  3. ดำเนินการซื้อขาย

①:เตรียม Best Wallet

การกรอกอีเมลแอดเดรสใน Best Wallet

ขั้นแรกให้เตรียม Best Wallet ก่อน เนื่องจาก Best Wallet เป็น Bitcoin wallet ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดแอปเลียนแบบ แนะนำให้ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์หลักของเราเท่านั้น

หลังจากดาวน์โหลดแล้ว การตั้งค่าเริ่มต้นจะดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้:

  1. การยืนยันที่อยู่อีเมล
  2. การยืนยันเบอร์โทรศัพท์
  3. การตั้งรหัสผ่านและการยืนยันการเข้าถึงด้วยไบโอเมตริกซ์ เช่น การสแกนใบหน้า/นิ้วมือ
  4. การเก็บรักษา Seed Phrase

เนื่องจากแอป Best Wallet สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน การเตรียมการจึงเสร็จสิ้นภายใน 2 นาที

②:เลือกสกุลเงินที่ต้องการซื้อขาย

หน้าจอแสดงคริปโตเคอร์เรนซีที่สามารถซื้อได้ใน Best Wallet

หลังจากดาวน์โหลดแอปแล้ว ให้เลือกสกุลเงินที่ต้องการซื้อขาย ใน Best Wallet ซึ่งผู้ใช้สามารถซื้อคริปโตได้หลากหลายสกุลเงิน ตั้งแต่ Bitcoin, Stablecoin ไปจนถึงเหรียญมีมใหม่ๆ ก็สามารถดำเนินการได้อย่างง่ายดายจากหน้าจอหลักของแอป

นอกจากนี้ยังสามารถค้นหาสกุลเงินจากส่วน “Trade” ที่ด้านล่างของหน้าจอแอปได้อีกด้วย

③:ดำเนินการซื้อขาย

หน้าจอ Bitcoin ใน Best Wallet

เมื่อพบสกุลเงินที่ต้องการซื้อขาย เช่น ETH หรือ USDT แล้ว ให้เลือกประเภทการซื้อขายที่ต้องการจากตัวเลือกดังนี้ แล้วดำเนินการซื้อขายต่อไป:

  • Buy(ซื้อ)
  • Sell(ขาย)
  • Send(โอนเงิน)
  • Swap(แลกเปลี่ยน)
  • Receive(รับเงิน)

ในการซื้อขายจะมีค่าธรรมเนียมธุรกรรม แต่การถือ BEST Token ซึ่งเป็นสกุลเงินหลักจะช่วยลดค่าธรรมเนียมได้ จึงเป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ซื้อขายเป็นประจำ

นอกจากนี้ คุณยังสามารถซื้อขายคริปโตใหม่ๆ ได้ด้วยผ่านแท็บ “Upcoming Tokens” สำหรับผู้ที่ต้องการทราบวิธีซื้อ Meme Coin สามารถอ่านวิธีการซื้อ Meme Coin ของเราประกอบด้วยได้

ข้อควรระวังในการใช้ Crypto Wallet

แม้จะใช้ Crypto Wallet ที่ปลอดภัยมากแค่ไหน ก็ยังมีความเสี่ยงเสมอ ส่วนนี้จะอธิบายข้อควรระวังที่ควรทราบ แม้จะสามารถครอบครองเหรียญคริปโตที่ทำกำไรได้ แต่หากเสียเงินทุนไปก็ไร้ความหมาย ดังนั้นคุณจึงควรทำความเข้าใจข้อควรระวังต่างๆ ให้ชัดเจน

ความสำคัญของการจัดการและสำรอง Private Key

Private Key ของ Crypto Wallet คือวิธีเดียวในการเข้าถึงสินทรัพย์ของคุณ หาก Private Key สูญหาย คุณก็อาจจะไม่สามารถเข้าถึงสินทรัพย์ของคุณได้อีกเลย

ในปี 2013 มีเรื่องราวที่มีชื่อเสียงของชายอังกฤษคนหนึ่งที่เผลอทิ้ง Hardware Wallet โดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เขาสูญเสีย Private Key ของ Bitcoin จำนวน 7,500 BTC ซึ่งมีมูลค่ากว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

วิธีการจัดการที่ปลอดภัยคือการใช้ Hardware Wallet (เช่น Ledger, Trezor เป็นต้น) แต่ควรจัดเก็บอย่างระมัดระวัง เช่น เก็บในตู้นิรภัย

นอกจากนี้ควรเก็บ Private Key หรือ Recovery Phrase กระจายๆ ไว้หลายที่ เช่น การบันทึกลงกระดาษหรือแผ่นสแตนเลสแล้วเก็บไว้ในตู้เซฟก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ

การสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอก็สำคัญ ควรทำเสมอเมื่อมีการอัปเดต Wallet Software หรือก่อนและหลังการทำธุรกรรมขนาดใหญ่ และหากใช้ Cloud Storage คุณก็ควรต้องเข้ารหัสก่อนบันทึกเสมอ แม้การจัดการ Private Key อาจรู้สึกยุ่งยาก แต่ก็เป็นแนวป้องกันที่สำคัญที่สุดในการปกป้องสินทรัพย์

มาตรการป้องกัน Phishing และ Malware

ในการใช้ Crypto Wallet อย่างปลอดภัย การป้องกัน Phishing และ Malware ก็ถือเป็นสิ่งจำเป็น ขั้นแรกให้ดาวน์โหลดวอลเล็ตจากเว็บไซต์ทางการเท่านั้น และตรวจสอบ URL ให้แน่ใจเสมอ การตั้งค่าการยืนยันสองขั้นตอน (2FA) และการใช้รหัสผ่านที่เดายากก็สำคัญเช่นกัน

นอกจากนี้ ไม่ควรเปิดลิงก์หรืออีเมลที่น่าสงสัยเด็ดขาด และควรอัปเดต Software ให้ทันสมัยเสมอ

ตัวอย่างเหตุการณ์จริงในปี 2021 เกิดการหลอกลวงแบบ Phishing ที่มุ่งเป้าไปที่ผู้ใช้ MetaMask และมีผู้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยผู้โจมตีได้สร้างเว็บไซต์ MetaMask ปลอมและขโมย Private Key ของผู้ใช้งาน

จากเหตุการณ์นี้ เราได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของการตรวจสอบ URL และการใช้แอปทางการ

สำหรับการป้องกัน Malware การใช้ Security Software ที่น่าเชื่อถือและการสแกนตรวจจับ Malware อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยอย่างมาก และควรติดตามข้อมูลภัยคุกคามล่าสุดด้วย

การใช้งาน Crypto Wallet ประเภทต่างๆ อย่างเหมาะสม

Crypto Wallet มีหลักๆ 2 ประเภทคือ Hot Wallet และ Cold Wallet การใช้งานให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ถือเป็นสิ่งสำคัญ อย่างที่กล่าวไปว่า Hot Wallet เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา มีความสะดวกในการซื้อขายสูง แต่ก็มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยด้วย สำหรับการซื้อขายจำนวนเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน Hot Wallet อย่าง Best Wallet หรือ MetaMask ถือว่าเหมาะสมที่สุด

ในขณะเดียวกัน สำหรับการเก็บสินทรัพย์จำนวนมาก แนะนำให้ใช้ Hardware Wallet (Cold Wallet) เช่น Ledger Nano X หรือ Trezor Model T เป็นต้น

Custodial Wallet ที่บริการโดยเหล่ากระดานเทรดหรือ Exchange เช่น Bybit หรือ Rakuten Wallet นั้นสะดวกกว่าในการใช้งาน แต่ก็ด้อยกว่าในด้านความปลอดภัย เมื่อเทียบกับ Self-Custodial Wallet ที่ผู้ใช้สามารถจัดการ Private Key ด้วยตัวเอง

การคาดการณ์สำหรับปี 2025 ระบุว่า 52.5% ของมูลค่าการซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จะทำผ่าน Crypto Wallet ทำให้การเลือกวอลเล็ตที่เหมาะสมมีความสำคัญมากขึ้น ควรพิจารณาสมดุลระหว่างความปลอดภัยและความสะดวกในการใช้งาน โดยหลักการพื้นฐานคือใช้ Hot Wallet สำหรับจำนวนเงินเล็กน้อยที่ใช้บ่อย และใช้ Cold Wallet สำหรับสินทรัพย์จำนวนมากที่เก็บระยะยาว

บทสรุป

บทความนี้ได้นำเสนอรายชื่อแอป Crypto Wallet ที่แนะนำล่าสุดสำหรับการเก็บสินทรัพย์ดิจิทัล

Crypto Wallet คือซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ที่เก็บ Public Key และ Private Key ของสกุลเงินดิจิทัล ทำให้สามารถตรวจสอบยอดคงเหลือและทำการรับส่งสินทรัพย์ได้ สำหรับการเก็บรักษา Bitcoin ที่พัฒนาโดย Satoshi Nakamoto และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ อย่างปลอดภัย ควรเตรียมแอป Crypto Wallet ที่เราแนะนำไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ

แม้ว่าการใช้งานบน Exchange จะสะดวก แต่เหตุการณ์การแฮ็กก็ยังเกิดขึ้นทุกปี จึงแนะนำให้ใช้ Self-Custodial Wallet ที่ผู้ใช้สามารถจัดการ Private Key ด้วยตัวเอง แม้ทางเว็บไซต์เราจะแนะนำให้ใช้ Best Wallet ในฐานะ Online Wallet แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้แบบไหน การเก็บรักษา Recovery Phrase ก็ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด

เมื่อใช้ Crypto Wallet ควรระมัดระวังไม่ให้ Private Key สูญหาย และจัดการอย่างรอบคอบ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Crypto Wallet

Crypto Wallet ใดปลอดภัยที่สุด?

Crypto Wallet ที่ดีที่สุดคืออะไร?

แอปคริปโตที่ดีที่สุด คืออะไร?

ข้อเสียของ MetaMask คืออะไร?

เปรียบเทียบ MetaMask กับ Best Wallet อย่างไร?

ข้อมูลอ้างอิง

บล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล, Web3, วิเคราะห์แนวโน้มราคาสินทรัพย์, โทเค็นโนมิกส์ Tanawat Thanichapol เป็นนักวิเคราะห์คริปโตและที่ปรึกษาบล็อกเชนอิสระจากประเทศไทยที่มีประสบการณ์กว่า 7 ปี จบหลักสูตรด้านเศรษฐกิจดิจิทัลจาก MIT Initiative on the Digital Economy (IDE) เขาเคยร่วมงานกับสตาร์ทอัพคริปโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และปัจจุบันเขียนบทความวิเคราะห์ตลาด รวมถึงพัฒนาบอทช่วยเทรดให้กับสื่อสายคริปโตหลายแห่ง เขาเชี่ยวชาญด้านโทเค็นโนมิกส์ การวิเคราะห์ on-chain และการจับสัญญาณแนวโน้มในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล สนใจเป็นพิเศษในด้านการเงินแบบกระจายศูนย์และอนาคตของ We