การลงทุนในคริปโตมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง เนื้อหาในเว็บไซต์จัดทำเพื่อให้ข้อมูล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน โปรดอ่านนโยบายบรรณาธิการสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม
บทความนี้อาจมีลิงก์พันธมิตร ซึ่งทางเว็บไซต์อาจได้รับค่าตอบแทนหากผู้อ่านคลิกหรือลงทะเบียนผ่านลิงก์ดังกล่าว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับผู้อ่าน หากคุณยังคงใช้ไซต์นี้ต่อไป แสดงว่าคุณยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขของเรา
XRP ยังคงเป็นหนึ่งในเหรียญ Altcoin ชั้นนำ ที่โดดเด่นด้านการโอนเงินระหว่างประเทศ และยังคงเป็นกระแสในโลกคริปโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากคดีความกับ SEC (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ) ที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางราคาของเหรียญในช่วงที่ผ่านมา
แม้จะเผชิญกับความผันผวนอย่างหนักในตลาด แต่ XRP ก็ยังสามารถรักษาตำแหน่งสำคัญในวงการสินทรัพย์ดิจิทัลไว้ได้อย่างมั่นคง บทความนี้จะพาผู้อ่านไปสำรวจแนวโน้มของ XRP และศักยภาพในอนาคตของบริษัท Ripple ทั้งในแง่มุมของข่าวสารล่าสุด พฤติกรรมตลาดในอดีต การคาดการณ์ราคาจากผู้เชี่ยวชาญในช่วงปี 2025 ถึง 2030 รวมถึงกลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นที่สนใจเข้าสู่ตลาดคริปโต
หากคุณกำลังมองหาแนวทางเพื่อทำความเข้าใจ XRP และต้องการวางแผนลงทุนในเหรียญ Ripple บทความนี้คือจุดเริ่มต้นที่ไม่ควรพลาด
เริ่มต้นกันด้วยภาพรวมสถานการณ์ล่าสุดของ Ripple ซึ่งเป็นหนึ่งในเหรียญ Altcoin ชั้นนำที่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ตลาดคริปโตทั่วโลกจับตาประเด็นสำคัญหลายด้านที่ส่งผลโดยตรงต่อราคาและทิศทางของ XRP ทั้งจากแหล่งข่าวภายในวงการ ไปจนถึงการพูดถึงอย่างแพร่หลายในแพลตฟอร์มอย่าง Twitter (X)
หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาดคือคดีความระหว่าง Ripple กับ SEC (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ) ซึ่งเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 โดยมีประเด็นถกเถียงหลักว่า “XRP เป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนหรือไม่” คดีนี้ใช้เวลายาวนานเกือบ 4 ปี และถูกจับตามองว่าอาจกลายเป็นบรรทัดฐานสำคัญของอุตสาหกรรมคริปโตในอนาคต
จนกระทั่งในเดือนกรกฎาคม 2023 ศาลได้มีคำตัดสินว่าการซื้อขาย XRP ในบางลักษณะไม่เข้าข่ายการเป็นหลักทรัพย์ สร้างความโล่งใจให้กับนักลงทุนและตลาดในวงกว้าง และในเดือนมีนาคม 2025 SEC ได้ประกาศถอนฟ้องอย่างเป็นทางการ ถือเป็นจุดสิ้นสุดของความเสี่ยงทางกฎหมายที่ตามหลอกหลอน Ripple มายาวนาน
การยุติคดีความครั้งนี้ได้นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการกลับมาของ XRP บนกระดานซื้อขายหลักในสหรัฐฯ เช่น Coinbase การไหลเข้าของเงินลงทุนจากนักลงทุนสถาบัน และความชัดเจนที่เพิ่มขึ้นในด้านกฎระเบียบสำหรับเหรียญ Altcoin อื่นๆ
โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐอเมริกา การที่ Ripple ได้รับการยอมรับในสถานะที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้บริษัทมีศักยภาพในการวางรากฐานเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของอุตสาหกรรมคริปโตในอนาคต
เมื่อเดือนมีนาคม 2025 ประธานาธิบดี Donald Trump ได้ประกาศเปิดตัวโครงการ “สำรองสกุลเงินดิจิทัลแห่งชาติ” ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของสหรัฐอเมริกาในการเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างจริงจัง โดยหนึ่งในประกาศที่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับตลาดคือ การรวม Ripple (XRP) เข้าร่วมกับ Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH) และ Solana (SOL) เป็นสกุลเงินดิจิทัลสำรองในเชิงยุทธศาสตร์
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ส่งผลให้ราคาของ XRP พุ่งขึ้นกว่า 30% ภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง โดย Ripple ได้รับการระบุอย่างชัดเจนในฐานะ “เครื่องมือเก็บมูลค่า” และ “สินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานสำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ” ซึ่งถือเป็นการยกระดับสถานะของ XRP ขึ้นสู่ระดับนโยบายแห่งชาติ
รัฐบาลสหรัฐฯ ยังได้แสดงวิสัยทัศน์ในการผลักดัน Ripple ให้เป็น “แพลตฟอร์มการเงินระหว่างประเทศยุคใหม่” โดยหากนโยบายนี้ได้รับการตอบรับจากประเทศอื่นๆ ทั่วโลก Ripple อาจมีโอกาสกลายเป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลที่ถูกใช้งานในระดับโลกมากยิ่งขึ้น
นอกจากการติดตามทิศทางราคาของ XRP แล้ว อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนไม่ควรมองข้ามคือ การเปลี่ยนแปลงของมูลค่าตลาด (Market Capitalization) และปริมาณการซื้อขาย ซึ่งสะท้อนถึงขนาดและสภาพคล่องของสินทรัพย์ดิจิทัลในภาพรวม โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาร่วมกับ ราคา XRP วันนี้ จะช่วยให้เห็นภาพรวมของความเคลื่อนไหวในตลาดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
Market Cap ของ Ripple คำนวณจากราคาต่อเหรียญคูณกับจำนวนเหรียญที่หมุนเวียนในตลาด โดยในช่วงฟองสบู่คริปโตปลายปี 2017 มูลค่าตลาดของ XRP เคยพุ่งทะลุ 70.8 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.3 ล้านล้านบาท ขึ้นแท่นเป็นคริปโตที่มีมูลค่ารวมสูงเป็นอันดับ 2 รองจาก Bitcoin
อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ช่วงปรับฐานในปี 2018 Market Cap ของ Ripple หดตัวลงอย่างหนัก เหลือต่ำกว่า 7.08 พันล้านดอลลาร์ หรือ 230,000 ล้านบาท ก่อนจะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นในช่วงตลาดขาขึ้นรอบใหม่ โดยเฉพาะในปี 2021 ที่มูลค่ากลับมาแตะระดับประมาณ 35.4 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.15 ล้านล้านบาท อีกครั้ง
การศึกษาการเคลื่อนไหวของราคา XRP ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญสำหรับนักลงทุนที่ต้องการประเมินศักยภาพในอนาคตของ Ripple
และเช่นเดียวกับสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ XRP ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้วหลายช่วง ตั้งแต่ยุคเริ่มต้นที่แทบไม่มีใครรู้จัก ไปจนถึงการกลายเป็นหนึ่งในเหรียญ Altcoin ชั้นนำของโลก
Ripple (XRP) เปิดตัวในปี 2013 โดยมีราคาต่ำกว่าหนึ่งเซ็นต์ต่อเหรียญเป็นเวลาหลายปี ก่อนจะเข้าสู่ช่วงพุ่งแรงในปลายปี 2017 ซึ่งเป็นช่วง Altcoin Boom ที่เกิดขึ้นพร้อมกับกระแสความสนใจในคริปโตเคอร์เรนซีทั่วโลก
ในเดือนมกราคม 2018 XRP พุ่งทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดในประวัติการณ์ที่ประมาณ 3.4 ดอลลาร์ต่อเหรียญ และกลายเป็นที่จับตามองในวงการการเงินและเทคโนโลยีทั่วโลก โดยเฉพาะเรื่องราวของนักลงทุนที่สามารถสร้างความมั่งคั่งจากการถือ XRP ในช่วงเวลาสั้น ๆ
อย่างไรก็ตาม หลังจากฟองสบู่คริปโตแตกในปีเดียวกัน ราคาของ XRP ก็ร่วงลงตามตลาดโดยรวม โดยตกลงมาอยู่ในช่วงราคาหลัก $0.071 และซื้อขายอยู่ในกรอบแคบราว $0.14–$0.35 ตลอดช่วงปี 2019–2020 ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับศักยภาพในระยะยาวของ Ripple
ช่วงปลายปี 2020 ถึงต้นปี 2021 ถือเป็นจุดฟื้นตัวอีกครั้งของ XRP จากแรงหนุนของตลาดขาขึ้นรอบใหม่ โดยในเดือนเมษายน 2021 XRP ปรับขึ้นแตะระดับประมาณ 1.96 ดอลลาร์ แม้จะยังไม่กลับไปถึงจุดสูงสุดเดิม แต่ก็สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เริ่มกลับมา
ในปี 2023 Ripple ได้รับแรงหนุนจากข่าวด้านกฎหมาย เมื่อศาลสหรัฐฯ ปฏิเสธคำร้องอุทธรณ์ของ SEC ในเดือนตุลาคม ช่วยตอกย้ำสถานะทางกฎหมายของ XRP และส่งผลให้ราคาขยับขึ้นราว 5% ขณะเดียวกัน ตลาดในปี 2024 ได้รับแรงหนุนจากการอนุมัติ Bitcoin ETF ซึ่งช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับสินทรัพย์ดิจิทัลโดยรวม รวมถึง XRP ที่เริ่มขยับขึ้นต่อเนื่อง
เข้าสู่ปี 2025 XRP ยังคงเคลื่อนไหวในระดับราคาที่แข็งแกร่งในช่วงต้นปี ก่อนจะเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรในช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยในเดือนพฤษภาคม XRP ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 2.3 ดอลลาร์ ด้านนักวิเคราะห์เทคนิคระบุว่าราคาเริ่มเข้าสู่เทรนด์ขาลงระยะสั้น โดยมีแนวรับสำคัญอยู่ในช่วง $1.77–$1.56
นอกจากการติดตามทิศทางราคาของ XRP แล้ว อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนไม่ควรมองข้ามคือ การเปลี่ยนแปลงของมูลค่าตลาด (Market Capitalization) และปริมาณการซื้อขาย ซึ่งสะท้อนถึงขนาดและสภาพคล่องของสินทรัพย์ดิจิทัลในภาพรวม โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการวิเคราะห์ แนวโน้มเหรียญ XRP วันนี้ ข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นองค์ประกอบที่ช่วยให้เห็นภาพตลาดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
Market Cap ของ Ripple คำนวณจากราคาต่อเหรียญคูณกับจำนวนเหรียญที่หมุนเวียนในตลาด โดยในช่วงฟองสบู่คริปโตปลายปี 2017 มูลค่าตลาดของ XRP เคยพุ่งทะลุ 70.8 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.3 ล้านล้านบาท ขึ้นแท่นเป็นคริปโตที่มีมูลค่ารวมสูงเป็นอันดับ 2 รองจาก Bitcoin
อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ช่วงปรับฐานในปี 2018 Market Cap ของ Ripple หดตัวลงอย่างหนัก เหลือต่ำกว่า 7.08 พันล้านดอลลาร์ ก่อนจะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นในช่วงตลาดขาขึ้นรอบใหม่ โดยเฉพาะในปี 2021 ที่มูลค่ากลับมาแตะระดับประมาณ 35.4 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.15 ล้านล้านบาท อีกครั้ง
ต่อไปเราจะมาดูการคาดการณ์ราคาในอนาคตของ Ripple ตามการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญและสัญญาณจากตลาด โดยจะพิจารณาว่า XRP มีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับราคาใดในปี 2025, 2026 และ 2030 จากข้อมูลล่าสุดที่มีอยู่ในปัจจุบัน
สำหรับนักลงทุนที่กำลังประเมิน แนวโน้มเหรียญ XRP วันนี้ การมองไปยังการคาดการณ์ระยะกลางถึงระยะยาวถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมความเข้าใจต่อศักยภาพของ Ripple ในฐานะสินทรัพย์ดิจิทัลที่อาจมีบทบาทเพิ่มขึ้นในระบบการเงินยุคใหม่
ปี | ราคาต่ำสุด | ราคาเฉลี่ย | ราคาสูงสุด |
2025 | $1.47 (≈ 53.7 บาท) | $3.38 (≈ 123.4 บาท) | $9.55 (≈ 348.6 บาท) |
2026 | $1.91 (≈ 69.8 บาท) | $4.78 (≈ 174.5 บาท) | $11.46 (≈ 418.3 บาท) |
2030 | $2.87 (≈ 104.8 บาท) | $19.11 (≈ 698.5 บาท) | $47.77 (≈ 1,744.6 บาท) |
ปี 2025 ถูกจับตามองว่าอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของแนวโน้ม XRP ในอนาคต ท่ามกลางความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการอนุมัติ ETF แบบ Spot ของ Ripple ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ขณะเดียวกัน คดีความกับ SEC ที่ยืดเยื้อมานานก็ได้ข้อยุติเป็นที่เรียบร้อย ส่งผลให้ความไม่แน่นอนด้านกฎหมายที่กดดันตลาดมานานเริ่มคลี่คลาย และ Ripple มีแนวโน้มจะเข้าสู่ช่วงพัฒนาเชิงพาณิชย์อย่างจริงจัง
ในมุมมองของนักวิเคราะห์สายบวก มีการประเมินว่าหากกระแสยังคงแข็งแกร่ง Ripple อาจสร้างสถิติราคาสูงสุดใหม่ และมีโอกาสแตะระดับ $7.08 ภายในสิ้นปี 2025
สำหรับกรอบเป้าหมายในระยะกลาง มีการคาดการณ์ว่าราคาจะขยับขึ้นไปถึง 5.85 ดอลลาร์ และในระยะยาวอาจทะยานสู่ 18.22 ดอลลาร์ โดยในช่วงก่อนถึงปี 2025 เป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ประมาณ 6 ดอลลาร์ (เพิ่มขึ้นราว 2.5 เท่าจาก ราคา XRP วันนี้) และหากเข้าสู่รอบขาขึ้นถัดไป อาจทะลุ 18 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเติบโตถึง 7–8 เท่าจากระดับปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ยังมีมุมมองที่รอบคอบและเป็นกลางมากกว่า เช่น เว็บไซต์วิเคราะห์ข้อมูลคริปโตบางแห่งที่ประเมินราคาเฉลี่ยของ XRP ในปี 2025 ไว้ที่ 22.80 ดอลลาร์ ขณะที่บางแหล่งวิเคราะห์ในต่างประเทศมองว่าราคาอาจซื้อขายอยู่ในช่วง 1.5–3 ดอลลาร์ ตลอดทั้งปี
เมื่อรวมข้อมูลจากหลายแหล่งเข้าด้วยกัน สามารถสรุปกรอบการคาดการณ์ราคาของ Ripple ในปี 2025 ได้ว่า: ต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 1.5 ดอลลาร์, ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3.5 ดอลลาร์ และมีโอกาสพุ่งสูงสุดถึง 10 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกและทิศทางของตลาดโดยรวม
เมื่อเข้าสู่ปี 2026 สภาพแวดล้อมของตลาดและ อนาคต XRP อาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ หากปัจจัยหนุนในปี 2025 อย่างการอนุมัติ ETF และแรงกระตุ้นเชิงบวกจากตลาดเป็นไปตามคาด และ Ripple สามารถรักษาทิศทางการเติบโตไว้ได้อย่างมั่นคง ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าราคาจะทรงตัวในระดับแข็งแกร่งต่อเนื่องเข้าสู่ปีถัดไป
นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งมองว่า หลังจากที่ XRP พุ่งแรงในปี 2025 ปี 2026 อาจเป็นช่วงของการพักฐานและย่อตัวในลักษณะการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยโมเดลคาดการณ์บางชุดประเมินว่า Ripple จะยังรักษาโมเมนตัมในเทรนด์ขาขึ้นไว้ได้ โดยมีราคาเฉลี่ยทั้งปีอยู่ในช่วง 5–8 ดอลลาร์ หากราคาปลายปี 2025 ปิดที่ราว 5 ดอลลาร์ ปี 2026 อาจเป็นการสะสมฐานในระดับสูง พร้อมโอกาสอัปเดตราคาสูงสุดใหม่อีกครั้ง หากมีแรงสนับสนุนจากดีมานด์ที่แท้จริง การเติบโตของ XRP ก็จะไม่ใช่เพียงกระแสชั่วคราว แต่เป็นการปรับฐานและยกระดับเส้นแนวรับให้สูงขึ้นในเชิงโครงสร้าง
อย่างไรก็ตาม ยังมีมุมมองที่รอบคอบ โดยชี้ว่าในปี 2026 อาจต้องจับตานโยบายการเงิน การเปลี่ยนแปลงอำนาจทางการเมือง และท่าทีด้านกฎระเบียบของสหรัฐฯ หากรัฐบาลใช้มาตรการควบคุมคริปโตเข้มงวดมากขึ้น ราคาของ XRP อาจเผชิญแรงกดดัน จนอาจซื้อขายอยู่ในช่วง 3–5 ดอลลาร์ หรืออาจลดลงชั่วคราวจากระดับสูงในปี 2025 ถึงครึ่งหนึ่ง แม้จะมีความผันผวนตามปัจจัยภายนอก แต่เมื่อพิจารณาในระยะกลางถึงยาวแล้ว โอกาสที่ XRP จะกลับไปอยู่ในระดับราคาหลัก $0.071 – $0.71 เหมือนในอดีตก่อนปี 2023 ดูจะเป็นไปได้น้อยลงเรื่อย ๆ
เมื่อประเมินจากปัจจัยต่าง ๆ ทั้งในเชิงบวกและความเสี่ยง ราคาคาดการณ์ของ Ripple (XRP) ในปี 2026 มีกรอบที่คาดการณ์ไว้ดังนี้: ต่ำสุดประมาณ 2 ดอลลาร์, ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5 ดอลลาร์ และมีโอกาสสูงสุดแตะที่ระดับ 12 ดอลลาร์
ในปี 2030 ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีคาดว่าจะเข้าสู่ช่วงที่เติบโตเต็มที่มากขึ้น หลายประเทศอาจมีการใช้งาน CBDC (Central Bank Digital Currency) อย่างแพร่หลาย และเทคโนโลยี Blockchain จะฝังอยู่ในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วโลก ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว Ripple มีโอกาสก้าวขึ้นสู่บทบาทสำคัญในฐานะหนึ่งในกลไกโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ ซึ่งถือเป็นภาพสะท้อนของศักยภาพในระยะยาวและ อนาคต XRP อย่างชัดเจน
การคาดการณ์จากหลายสำนักวิเคราะห์ระบุว่า จนถึงปี 2030 ราคาของ Ripple มีโอกาสขยับเข้าสู่ช่วงหลักสิบดอลลาร์ โดยอยู่ระหว่าง 10–50 ดอลลาร์ ขณะที่บางรายมีมุมมองในเชิงบวกอย่างมาก โดยประเมินว่า XRP อาจแตะระดับใกล้ 100 ดอลลาร์ หากสามารถขยายบทบาทไปเป็นแกนกลางของระบบการโอนเงินระดับโลก
อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์เชิงบวกเหล่านี้มักตั้งอยู่บนสมมติฐานว่า Ripple จะสามารถสถาปนาตัวเองเป็นศูนย์กลางของเครือข่ายการเงินโลกได้จริง เช่น การเข้ามาแทนที่ระบบ SWIFT ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งในความเป็นจริงยังคงเป็นภาพอนาคตที่อาจมองในแง่ดีเกินไปเมื่อพิจารณาจากสภาพแวดล้อมปัจจุบัน
ในหมู่ผู้สนับสนุน Ripple บางกลุ่ม ยังมีทฤษฎีเชิงจินตนาการที่ว่า XRP อาจมีมูลค่าทะลุ 10,000 ดอลลาร์ หากสามารถขึ้นมาเป็นโครงสร้างหลักของการเงินโลกได้จริง แต่เงื่อนไขดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอนสูง และยังขาดความชัดเจนในเชิงโครงสร้างพื้นฐานระหว่างประเทศ
หากพิจารณาทั้งปัจจัยสนับสนุนและข้อจำกัด ราคาของ Ripple (XRP) ในปี 2030 อาจอยู่ในกรอบที่สมเหตุสมผลมากขึ้น โดยมีการประเมินระดับต่ำสุดที่ประมาณ 3 ดอลลาร์ ราคาเฉลี่ยที่ 20 ดอลลาร์ และระดับสูงสุดที่มีโอกาสแตะ 50 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับบทบาทที่ Ripple สามารถสร้างในโครงสร้างการเงินระหว่างประเทศ
ก่อนจะก้าวไปสู่การวิเคราะห์แนวโน้มและทิศทางในอนาคต เรามาทบทวนพื้นฐานของ Ripple (XRP) อีกครั้ง การเข้าใจลักษณะเฉพาะ ประวัติความเป็นมา รวมถึงประเด็นร้อนที่เกี่ยวข้อง เช่น กรณีการฟ้องร้องกับ SEC จะช่วยให้ประเมินศักยภาพของ XRP ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ประเด็นที่ควรเข้าใจเกี่ยวกับ Cryptocurrency Ripple มีดังนี้
Ripple หรือที่บางครั้งเรียกว่า Ripple Coin มีคุณสมบัติเฉพาะตัวหลายประการที่แตกต่างจากสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำอื่น ๆ เช่น Bitcoin หรือ Ethereum โดยเฉพาะในด้านแนวคิด ระบบการจัดการ และวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งหากมองย้อนจาก ราคา XRP ย้อนหลัง 10 ปี จะเห็นได้ชัดว่า Ripple มุ่งเน้นการเป็นโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการใช้งานจริง มากกว่าการเก็งกำไรในระยะสั้น
ด้วยเหตุนี้ Ripple จึงไม่ใช่เพียงสินทรัพย์เพื่อการลงทุน แต่เป็นระบบที่ถูกออกแบบให้ใช้งานได้จริงภายใต้การบริหารจัดการแบบมีศูนย์กลาง จุดเด่นอื่น ๆ ได้แก่ จำนวนเหรียญที่ออกไว้ล่วงหน้า (Fixed Supply) ซึ่งช่วยลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และระบบการติดตามธุรกรรม (Traceability) ที่โปร่งใสกว่าระบบแบบไม่ระบุตัวตน เช่นในบางสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ
อีกประเด็นที่มักสร้างความเข้าใจผิดคือคำว่า “Mining ด้วย Ripple” แม้จะยังพบคำนี้อยู่บ้างในบางบทความ แต่ Ripple ไม่ใช่เหรียญที่สร้างใหม่ผ่านการขุด (Mining) เหมือนกับ Bitcoin เหรียญ XRP ทั้งหมดถูกสร้างไว้ล่วงหน้าแล้ว และการยืนยันธุรกรรมจะดำเนินการโดย Validator ที่ได้รับการคัดเลือกโดยเฉพาะ ไม่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปร่วมขุดหรือรับผลตอบแทนจากการทำ Mining ได้
ต่อไป เรามาทบทวนเส้นทางของ Ripple ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน การเข้าใจเหตุการณ์สำคัญตามลำดับเวลาจะช่วยให้เห็นถึงรากฐาน ความเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมากว่า 10 ปี และเบาะแสสำคัญสำหรับการประเมินศักยภาพในอนาคต รวมถึงบริบทของ ราคา XRP ย้อนหลัง 10 ปี ที่สะท้อนให้เห็นถึงทั้งจุดสูงสุด จุดตกต่ำ และจุดเปลี่ยนของโครงการนี้
เรียกได้ว่า Ripple ได้ผ่านเส้นทางที่ซับซ้อนมามากมายในตลอดหลายปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่การก่อตั้ง การขยายในระดับโลก การพัฒนาเทคโนโลยี ไปจนถึงการเผชิญคดีความที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาดโดยตรง หากย้อนดูจาก ราคา XRP ย้อนหลัง 10 ปี จะเห็นว่าแต่ละเหตุการณ์หลักสะท้อนให้เห็นถึงจังหวะขึ้น–ลงของราคาที่สัมพันธ์กับพัฒนาการขององค์กรอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผลของคดี SEC ที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2025 นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่อาจกำหนดทิศทางของแนวโน้ม XRP ในอนาคต
ในช่วงที่คดีความระหว่าง Ripple และสำนักงาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC) กลายเป็นประเด็นสำคัญในวงการคริปโต หลายคนตั้งคำถามว่า “ถ้า Ripple ชนะคดี ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร?” และในเดือนมีนาคม 2025 คำตอบก็ปรากฏชัด เมื่อ SEC ประกาศถอนอุทธรณ์อย่างเป็นทางการ ทำให้ชัยชนะของ Ripple ได้รับการยืนยันโดยสมบูรณ์
จุดเปลี่ยนที่สำคัญคือคำตัดสินของศาลที่ระบุว่า XRP “ไม่ใช่หลักทรัพย์” ส่งผลให้ความไม่แน่นอนทางกฎหมายที่กดดัน Ripple มานานหลายปีหมดไปโดยสิ้นเชิง ตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถกลับมารองรับ XRP ได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลต่อข้อกำหนดทางกฎหมาย
ขณะเดียวกัน นักลงทุนทั้งรายย่อยและรายใหญ่เริ่มหันมาให้ความสนใจ XRP อย่างจริงจังมากขึ้น เนื่องจากความเสี่ยงจากข้อพิพาททางกฎหมายสิ้นสุดลง ขณะที่บริษัท Ripple ก็สามารถโฟกัสกับธุรกิจและการขยายพันธมิตรได้อย่างเต็มที่ หลังพ้นภาระด้านค่าใช้จ่ายและแรงกดดันจากการดำเนินคดีที่ยาวนาน
ทันทีหลังการประกาศของ SEC เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2025 ราคาของ XRP ปรับตัวขึ้นทันที 11% แตะระดับ 2.55 ดอลลาร์ และช่วงเวลาต่อมา ราคายังปรับขึ้นชั่วคราวจนใกล้ระดับ 3 ดอลลาร์ แม้จะยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์ เช่น มุมมองว่า “Ripple ยังเสี่ยง” แต่โดยรวมถือว่าเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยเสริมศักยภาพในระยะยาวของเหรียญอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม การชนะคดีไม่ได้หมายความว่า Ripple จะปราศจากอุปสรรคโดยสิ้นเชิง ตลาดคริปโตยังคงมีการแข่งขันรุนแรง โดยเฉพาะในภาคการโอนเงินระหว่างประเทศ ซึ่งคู่แข่งอย่าง SWIFT ก็เริ่มนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้เช่นกัน และยังมีโครงการใหม่ ๆ ที่เร่งพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ชัยชนะในคดี SEC จะเป็นจุดเริ่มต้นใหม่สำหรับ Ripple ไม่ใช่เส้นชัยสุดท้าย สำหรับผู้ถือ XRP และนักลงทุน ถือเป็นการปลดล็อกข้อจำกัดสำคัญ และวางรากฐานใหม่ให้ แนวโน้ม XRP มีความชัดเจนและมั่นคงยิ่งขึ้นสำหรับการเติบโตในระยะยาว
เมื่อพิจารณาจากข่าวสารล่าสุด การคาดการณ์ราคา รวมถึงข้อมูลพื้นฐานของ Ripple เราสามารถสรุปภาพรวมของ แนวโน้ม XRP และศักยภาพในอนาคตได้จากหลากหลายมุมมอง โดยมีปัจจัยสำคัญที่น่าจับตาดังนี้
การสิ้นสุดของคดีความระหว่าง Ripple และ SEC ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดต่อ แนวโน้ม XRP ในอนาคต ชัยชนะของ Ripple ในชั้นศาลช่วยขจัดความไม่แน่นอนทางกฎหมายที่กดดันตลาดมายาวนาน ทำให้นักลงทุนและสถาบันต่าง ๆ กล้าตัดสินใจถือครองและใช้งาน XRP ได้มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ Ripple ยังเป็นหนึ่งในไม่กี่โครงการที่ผ่านการพิจารณาทางกฎหมายอย่างเป็นทางการในประเด็นว่า “เป็นหลักทรัพย์หรือไม่” ซึ่งกลายเป็นจุดแข็งที่เหรียญอื่นยังไม่มี ในขณะที่ SEC อาจมีการดำเนินคดีต่อ Altcoin อื่นในอนาคต แต่ Ripple ได้ผ่านกระบวนการนี้แล้ว จึงมีลักษณะ “ภูมิคุ้มกัน” ในระดับหนึ่ง
หากในอนาคต SEC มีท่าทีเปิดกว้างมากขึ้น เช่น ยอมรับ XRP ว่าเป็น Commodity หรือสกุลเงินมากกว่าหลักทรัพย์ ก็อาจกลายเป็นการวางรากฐานให้ Ripple เป็นต้นแบบของความร่วมมือระหว่างกฎระเบียบกับนวัตกรรม และจะยิ่งหนุนให้ แนวโน้ม XRP ในระยะยาวดูมีศักยภาพที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
การผลักดันการใช้งานในภาคการโอนเงินระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นเป้าหมายดั้งเดิมของ Ripple ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณค่าระยะกลางถึงยาว และมีบทบาทอย่างยิ่งต่อ อนาคต XRP ในเชิงการใช้งานจริง
แม้ปัจจุบัน RippleNet และ ODL (On-Demand Liquidity) จะถูกนำมาใช้อย่างต่อเนื่องในการโอนเงินระหว่างประเทศ แต่เมื่อเทียบกับขนาดตลาดทั้งหมดแล้ว ยังคงเป็นเพียงส่วนน้อย หาก Ripple สามารถพัฒนาเครือข่ายให้มีปริมาณธุรกรรมใกล้เคียงกับเครือข่ายอย่าง SWIFT ความต้องการใช้ XRP ก็มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ขณะนี้บริษัท Ripple กำลังขยายพันธมิตรในหลายภูมิภาค ทั้งเอเชีย ตะวันออกกลาง และยุโรป โดยเฉพาะในตลาดประเทศเกิดใหม่ เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอฟริกา และตะวันออกกลาง ที่แสดงให้เห็นถึงความได้เปรียบของ Ripple ในเชิงต้นทุนและความเร็ว การทดลองใช้งานจริงในหลายประเทศประสบความสำเร็จแล้ว แม้ยังเป็นการใช้งานบางส่วน แต่ธนาคารที่เห็นผลลัพธ์เชิงบวกมักจะเพิ่มการใช้งานมากขึ้นเรื่อย ๆ
สำหรับ อนาคต XRP ในระดับโลก ปัจจัยชี้ขาดคือการที่ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯ และประเทศมหาอำนาจอื่น ๆ จะเริ่มใช้ Ripple ในระดับระบบได้มากเพียงใด โดยเฉพาะหลังจากที่คดีความกับ SEC ยุติลง สหรัฐอเมริกาเริ่มเปิดรับการใช้งาน Ripple มากขึ้น และท่าทีสนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัลจากรัฐบาล Trump ก็ช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ในการที่ Ripple จะเข้าไปมีบทบาทในโครงการภาครัฐในอนาคต
จากมุมมองการลงทุน ผลกระทบของการอนุมัติ Ripple Spot ETF ต่อ อนาคต XRP ถือเป็นประเด็นสำคัญอย่างยิ่ง ETF (Exchange Traded Fund) คือกองทุนรวมที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งสามารถซื้อขายได้เหมือนหุ้นทั่วไป การมี ETF จะเปิดประตูให้นักลงทุนรายย่อยและสถาบันที่ไม่คุ้นเคยกับตลาดคริปโต สามารถเข้าถึง Ripple ได้อย่างสะดวกและมั่นใจยิ่งขึ้น
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือกรณีของ Bitcoin ซึ่งหลังจากได้รับการอนุมัติ XRP Spot ETF เป็นครั้งแรกในสหรัฐฯ เมื่อปี 2024 ได้มีกระแสเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดหลายหมื่นล้านดอลลาร์ในเวลาอันสั้น ส่งผลให้ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว หาก Ripple ได้รับการอนุมัติในลักษณะเดียวกัน ย่อมมีแนวโน้มจะได้รับผลตอบรับในทิศทางเดียวกัน และด้วยมูลค่าตลาดของ XRP ที่ยังเล็กกว่า BTC และ ETH อัตราการปรับขึ้นของราคาจึงอาจสูงกว่าในเชิงเปรียบเทียบ
หากการอนุมัติเกิดขึ้นจริงในปี 2025 ไม่เพียงแต่จะช่วยยกระดับความเชื่อมั่นใน XRP เท่านั้น แต่ยังอาจเปลี่ยน Ripple ให้กลายเป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่ได้รับการยอมรับในวงกว้างยิ่งขึ้นอีกด้วย ส่งผลโดยตรงต่อการขยายฐานผู้ถือครอง และยกระดับ อนาคต XRP ในฐานะสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก
ในช่วงเวลานี้ การติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับ Ripple แนวโน้มเหรียญ XRP วันนี้ ความเคลื่อนไหวของ SEC และบริษัทที่ยื่นขออนุมัติ ETF จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ประเมินทิศทางของตลาดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
แม้บทวิเคราะห์จำนวนมากจะชี้ให้เห็นถึงศักยภาพและโอกาสของ Ripple (XRP) ในอนาคต แต่สำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างแท้จริง สิ่งสำคัญไม่ใช่เพียงการคาดหวังว่า “Ripple จะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง” เท่านั้น การวางกลยุทธ์อย่างเป็นระบบ การบริหารความเสี่ยง และการมีวินัยในการลงทุนถือเป็นกุญแจสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนรายใหม่ที่อาจยังไม่คุ้นเคยกับความผันผวนในตลาดคริปโต
เพื่อให้การลงทุนใน XRP มีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้น ต่อไปนี้คือกลยุทธ์พื้นฐานที่ควรพิจารณา:
ด้วยความผันผวนของสินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนด้วยเงินก้อนเดียวมีความเสี่ยงสูง กลยุทธ์ที่ปลอดภัยกว่า คือ Dollar Cost Averaging (DCA) หรือการทยอยซื้อ XRP ด้วยจำนวนเงินคงที่ในช่วงเวลาที่สม่ำเสมอ เช่น ทุกต้นเดือน ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ ราคา XRP วันนี้ สูงหรือต่ำ วิธีนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากจังหวะซื้อผิดเวลา
เช่น หากซื้อ XRP เดือนละ 10,000 บาท เวลาราคาสูงจะซื้อได้น้อย เวลาราคาต่ำจะซื้อได้มาก ทำให้ต้นทุนเฉลี่ยสมดุล และลดแรงกดดันจากความผันผวนในระยะสั้น
กลยุทธ์ DCA เหมาะกับผู้เริ่มต้นที่ไม่ถนัดการเทรด และเชื่อมั่นในศักยภาพระยะยาวของ XRP โดยเฉพาะหากมองว่า ราคา XRP วันนี้ ยังต่ำกว่าศักยภาพในอนาคต การทยอยซื้อและถือครองแบบ HODL เป็นเวลา 5–10 ปี จะเป็นแนวทางที่มั่นคงและมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าในระยะยาว
แม้จะมีความเชื่อมั่นในอนาคตของ Ripple แต่การลงทุนใน XRP เพียงตัวเดียวถือเป็นความเสี่ยงสูง เพราะหากเกิดเหตุไม่คาดคิดที่ส่งผลเฉพาะต่อ Ripple อาจทำให้พอร์ตเสียหายได้ ดังนั้น การกระจายพอร์ตจึงเป็นสิ่งจำเป็น
ควรพิจารณาลงทุนร่วมกับเหรียญหลักอื่น ๆ เช่น Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) รวมถึงเหรียญ Presale หรือ Meme Coin หากรับความเสี่ยงได้ แต่อย่าลืมว่าเหรียญเหล่านี้มีความผันผวนสูงจึงต้องระมัดระวัง
การจัดพอร์ตอาจใช้สัดส่วนเช่น BTC:ETH:XRP = 5:3:2 โดยจำกัดสัดส่วนสินทรัพย์ดิจิทัลไว้ที่ 5–20% ของสินทรัพย์รวม เพื่อไม่ให้การปรับฐานของเหรียญใดเหรียญหนึ่งกระทบทั้งพอร์ตมากเกินไป ขณะเดียวกัน Stablecoin เช่น USDT ก็อาจใช้เป็นที่พักเงินชั่วคราวในช่วงตลาดผันผวน ซึ่งสอดคล้องกับภาพของ แนวโน้มเหรียญ XRP วันนี้ ที่ยังมีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
นอกจากนี้ ยังควรกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์อื่นนอกเหนือจากคริปโต เช่น เงินสด หุ้น พันธบัตร หรืออสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้เมื่อสินทรัพย์ดิจิทัลมีความผันผวน ก็ยังมีสินทรัพย์ประเภทอื่นคอยชดเชย
ในภาวะที่ตลาดหุ้นร่วงแรง Bitcoin อาจกลับมาเป็นสินทรัพย์หลบภัย เช่นเดียวกับที่ XRP อาจฟื้นตัวในช่วงที่มีความชัดเจนด้านกฎหมาย ดังนั้น การมีพอร์ตที่หลากหลายจะช่วยสร้างความมั่นคงในระยะยาวได้ดีกว่า
ในการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล สิ่งสำคัญคือการประเมินระดับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้ ทั้งในแง่จิตวิทยาและความพร้อมด้านการเงิน เพราะแต่ละคนมีเป้าหมายและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การจัดพอร์ตที่เหมาะสมจึงต้องอิงจากสถานการณ์เฉพาะบุคคล
หากเป็นนักลงทุนวัยเริ่มต้น เช่น อายุ 20 ปี มีเงินลงทุนจำกัดและตั้งใจสะสมระยะยาว อาจรับความเสี่ยงได้สูงกว่ากลุ่มอื่น การให้สัดส่วน XRP สูงขึ้นในพอร์ต เช่น 50% ของสินทรัพย์ดิจิทัล ก็อาจเหมาะสม โดยอิงจากแนวโน้มในระยะยาวและโอกาสที่อาจเกิดขึ้นจากทิศทาง ราคา XRP วันนี้ ที่ยังมีความเคลื่อนไหวเชิงบวก
ในทางตรงกันข้าม สำหรับผู้ที่ใกล้เกษียณ เช่น อายุ 60 ปี ควรจัดพอร์ตอย่างระมัดระวัง สัดส่วนการถือ XRP ควรอยู่ในระดับต่ำเพื่อควบคุมความเสี่ยง และเน้นลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น เงินฝาก พันธบัตร หรือ Stablecoin การพิจารณารับโบนัสฝากคริปโตจากแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ก็อาจเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับการเพิ่มผลตอบแทนโดยไม่ต้องเสี่ยงมาก
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงใดของชีวิต การติดตาม ราคา XRP วันนี้ ควบคู่กับการประเมินความสามารถในการรับความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้สามารถบริหารพอร์ตได้อย่างยั่งยืนและมั่นคงในระยะยาว
สำหรับผู้ที่มองเห็นศักยภาพของ Ripple (XRP) และสนใจเริ่มลงทุน การรู้ขั้นตอนพื้นฐานในการซื้อถือเป็นสิ่งสำคัญ แม้จะคล้ายกับการซื้อ Bitcoin แต่ก็มีรายละเอียดเฉพาะที่ควรทำความเข้าใจ โดยทั่วไปกระบวนการจะประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ การเตรียมตลาดซื้อขายและกระเป๋าเงิน, การซื้อ Ripple และการเก็บรักษาให้ปลอดภัย
ก่อนอื่น ผู้ลงทุนต้องมี “กระเป๋าเงินดิจิทัล” (Digital Wallet) และบัญชีในตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล แอปพลิเคชันแบบครบวงจรอย่าง Best Wallet กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มผู้เริ่มต้น เพราะสามารถซื้อ ขาย และเก็บ Ripple ได้ในแอปเดียว รองรับทั้ง iOS และ Android
เมื่อดาวน์โหลดแอปแล้ว ผู้ใช้จะต้องลงทะเบียนด้วยอีเมล ตั้งค่าความปลอดภัย และบันทึก Recovery Phrase อย่างระมัดระวัง การตั้งค่าเบื้องต้นนี้ใช้เวลาไม่นานและสามารถเริ่มใช้งานได้ทันที สำหรับรายละเอียดการใช้งาน ศึกษาได้จากรีวิว Best Wallet
หลังจากตั้งค่าบัญชีเสร็จสิ้น ผู้ใช้สามารถเลือก “Buy” ภายในแอป ค้นหา XRP แล้วกำหนดจำนวนเงินที่ต้องการลงทุน สามารถเลือกวิธีชำระเงินได้หลายรูปแบบ เช่น บัตรเครดิต, เดบิต หรือ Apple Pay
เมื่อทำรายการเสร็จ XRP ที่ซื้อจะถูกแสดงไว้ในกระเป๋า Best Wallet ทันที โดยสามารถตรวจสอบยอดและประวัติการทำธุรกรรมได้ตลอดเวลา
XRP ที่ซื้อควรถูกจัดเก็บไว้ในกระเป๋าเงินที่มีความปลอดภัยสูง เช่น Best Wallet ซึ่งรองรับการใช้งานแบบ Web3 และมีระบบป้องกันที่ได้มาตรฐาน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยตนเองได้อย่างมั่นใจ
กระเป๋าประเภทนี้ยังรองรับฟังก์ชันอื่น ๆ เช่น การรับ Airdrop และการเชื่อมต่อกับบริการ DeFi ต่าง ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างพอร์ตลงทุนในคริปโตอย่างจริงจังในระยะยาว
บทความนี้สรุปภาพรวมของ แนวโน้มเหรียญ XRP วันนี้ พร้อมการคาดการณ์อนาคตของ Ripple (XRP) ซึ่งมีจุดเด่นด้านการโอนเงินระหว่างประเทศ ด้วยค่าธรรมเนียมต่ำและความเร็วสูง ทำให้เป็นที่จับตามองในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
หาก Ripple ชนะคดี SEC อย่างเด็ดขาด ราคามีแนวโน้มพุ่งในปี 2025 ขณะเดียวกัน หากได้รับการยอมรับและใช้งานในระดับสากล ก็อาจสร้างฐานะระยะยาวได้ แต่ทั้งนี้อย่างไรก็ตาม คริปโตยังคงเป็นตลาดที่มีความผันผวนสูง ดังนั้นนักลงทุนควรใช้กลยุทธ์ Dollar Cost Averaging (DCA) และกระจายการลงทุนอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะผู้เริ่มต้น ควรติดตามข่าวสารและ แนวโน้มเหรียญ XRP วันนี้ อย่างใกล้ชิด เพื่อวางแผนการลงทุนอย่างมีสติ