วิธีซื้อเหรียญมีม Pi Network (PI) ปี 2025 ฉบับเข้าใจง่าย

การลงทุนในคริปโตมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง เนื้อหาในเว็บไซต์จัดทำเพื่อให้ข้อมูล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน เนื้อหาบางส่วนอาจมี Affiliate Links ซึ่งเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่น โปรดอ่าน Affiliate Disclaimer และนโยบายบรรณาธิการสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม

Disclosure

บทความนี้อาจมีลิงก์พันธมิตร ซึ่งทางเว็บไซต์อาจได้รับค่าตอบแทนหากผู้อ่านคลิกหรือลงทะเบียนผ่านลิงก์ดังกล่าว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับผู้อ่าน หากคุณยังคงใช้ไซต์นี้ต่อไป แสดงว่าคุณยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขของเรา


เหรียญ Pi Network (PI) กลายเป็นโครงการที่ได้รับความสนใจอย่างมากในแวดวงคริปโตเคอร์เรนซี หลังจากที่ Pi Network เริ่มเปิดให้ซื้อขายอย่างเป็นทางการในตลาดแลกเปลี่ยนคริปโตหลักเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2025 โดยสามารถดึงดูดผู้ใช้งานทั่วโลกได้มากกว่า 35 ล้านคน และได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับที่ 21 ของตลาดตามมูลค่าหลักทรัพย์รวม (Market Cap)

อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก Pi Network ยังไม่ได้จดทะเบียนในตลาดแลกเปลี่ยนภายในประเทศไทย จึงอาจทำให้ผู้ที่สนใจลงทุนเกิดความสับสนเกี่ยวกับราคา Pi Network ที่แท้จริง รวมถึงขั้นตอนในการซื้อขาย

ด้วยเหตุนี้เอง การทำความเข้าใจวิธีวิธีซื้อเหรียญมีม Pi Network จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถคว้าโอกาสในการลงทุนในคริปโตที่น่าลงทุนสกุลนี้ได้อย่างมั่นใจ บทความนี้จะอธิบายตั้งแต่ขั้นตอนการซื้อผ่านตลาดแลกเปลี่ยนต่างประเทศ เช่น MEXC ไปจนถึงข้อควรระวังที่นักลงทุนมือใหม่ควรทราบ เพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นซื้อขายได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย หากคุณกำลังพิจารณาที่จะลงทุนใน Pi Network ข้อมูลต่อไปนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับคุณ

Pi Network (PI) คืออะไร?

วิธีซื้อ Pi Network (PI) ปี 2025 ฉบับเข้าใจง่าย

Pi Network เป็นโครงการสกุลเงินดิจิทัลที่เปิดตัวครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2019 โดยกลุ่มศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัย Stanford ซึ่งตั้งเป้าสร้างระบบการเงินแบบกระจายอำนาจที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย จุดเด่นของโครงการนี้คือการ “ขุดเหรียญ” หรือ Mining สกุลเงินดิจิทัลที่เรียกว่า “Pi Coin” ผ่านสมาร์ทโฟน โดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์สมรรถนะสูงเหมือน Bitcoin

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2025 Pi Network ได้เริ่มซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลต่างประเทศอย่างเป็นทางการ ทำให้ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากนักลงทุนและผู้ใช้ทั่วโลก

ภาพรวมของ Pi Network

หนึ่งในเหตุผลที่ Pi Network ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว คือการที่ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมระบบได้ง่ายเพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านเทคนิคระดับสูง ซึ่งแตกต่างจากการขุดเหรียญ Bitcoin ที่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์และพลังงานจำนวนมาก

จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2025 มีผู้ใช้งานมากกว่า 35 ล้านคนทั่วโลก และจำนวนดังกล่าวยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงการยอมรับในวงกว้างต่อแนวคิดและเทคโนโลยีของ Pi Network

จุดเด่นของของ Pi Network

จุดเด่นของ Pi Network อยู่ที่การออกแบบระบบให้เข้าถึงง่ายและเน้นการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน โดยมีคุณสมบัติหลัก 3 ประการที่ทำให้โครงการนี้แตกต่างจากสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ

  1. ความสะดวกในการขุดเหรียญ: ผู้ใช้งานสามารถขุดเหรียญ Pi Coin ได้ฟรีผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงหรือฮาร์ดแวร์เฉพาะทางแบบที่ใช้ในระบบของ Bitcoin
  2. ระบบความปลอดภัย: ผ่านกลไกที่เรียกว่า “Security Circle” ซึ่งอาศัยความเชื่อถือระหว่างผู้ใช้งานในการสร้างเครือข่ายที่มั่นคง ปลอดภัย และมีความน่าเชื่อถือในตัวเอง
  3. ระบบรางวัลตามระดับการมีส่วนร่วม: ยิ่งผู้ใช้งานมีบทบาทมากเท่าไหร่ รางวัล Mining ก็จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

สำหรับการแลกเปลี่ยน Pi Coin หลังจากเปิดตัวในตลาดแล้ว ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมผ่านตลาดแลกเปลี่ยนคริปโตที่รองรับ โดยในอนาคต โครงการมีเป้าหมายพัฒนา Pi Network ให้เป็นแพลตฟอร์มทางการเงินแบบกระจายอำนาจอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อตอบโต้และท้าทายระบบเศรษฐกิจแบบรวมศูนย์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

คู่มือการซื้อและแลกเปลี่ยน Pi Network (PI) สำหรับผู้เริ่มต้น

วิธีซื้อ Pi Network (PI) ปี 2025 ฉบับเข้าใจง่าย

ในช่วงเวลาที่กระแสของ Pi Network กำลังได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง มีนักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่เริ่มค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ “วิธีซื้อ” และ “วิธีแลกเปลี่ยน” เหรียญ Pi Network (PI) อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก Pi Coin ยังไม่สามารถซื้อขายได้โดยตรงในบางประเทศ ทำให้ขั้นตอนบางอย่างอาจดูซับซ้อน บทความนี้จะอธิบายวิธีการซื้อและแลก PI อย่างเป็นขั้นตอน พร้อมคำแนะนำสำหรับมือใหม่

①: เตรียมเงินทุนซื้อ เช่น USDT

ก่อนจะสามารถไปถึงวิธีซื้อเหรียญมีม Pi Coin ได้ ผู้ใช้งานจำเป็นต้องเตรียมเหรียญ Stablecoin อย่าง USDT (Tether) เนื่องจากยังไม่สามารถใช้เงินสกุลจริงซื้อ PI โดยตรงได้

ทางเลือกที่แนะนำสำหรับการถือ USDT คือ “Best Wallet” ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ใช้งานฟรี และกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในกลุ่มนักลงทุน โดยมีจุดเด่นหลายด้าน เช่น:

  • ใช้งานฟรีทุกฟังก์ชัน: สามารถใช้ฟีเจอร์ทั้งหมดได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  • รองรับ Blockchain มากกว่า 60 ชนิด: สามารถเก็บสกุลเงินดิจิทัลหลักไปจนถึงเหรียญมีม ได้มากกว่า 1,000 ชนิด
  • ระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกรง: ใช้เทคโนโลยี 2FA, การยืนยันตัวตน, MPC-CMP เพื่อปกป้องทรัพย์สินอย่างปลอดภัย
  • ฟีเจอร์ Token Launchpad ในตัว: สำหรับซื้อสกุลเงินดิจิทัลที่ผ่านการคัดเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ

②: เข้าถึงตลาดหลักทรัพย์ที่รองรับและส่งเงินทุน

เมื่อมี USDT อยู่ในกระเป๋าเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปคือส่งเหรียญไปยังตลาดแลกเปลี่ยนที่รองรับการซื้อขาย PI โดยตลาดที่ได้รับความนิยมคือ MEXC ซึ่งรองรับ Altcoin มากกว่า 2,600 ชนิด รวมถึงคู่ซื้อขาย PI/USDT

นอกจากนี้ MEXC ยังมีโปรโมชั่นฝากเหรียญเป็นระยะ และเปิดโอกาสให้ลงทุนได้แม้มีเงินทุนน้อย วิธีการส่ง USDT ไปยัง MEXC มีขั้นตอนดังนี้:

  1. ตรวจสอบที่อยู่กระเป๋าของ MEXC
  2. ทำการส่งเงินจาก Best Wallet
  3. ยืนยันการส่งเงินเสร็จสิ้น

เมื่อการโอนเสร็จสิ้น ก็สามารถเริ่มต้นซื้อ Pi Network ได้ทันที

③: วิธีซื้อเหรียญมีม Pi Network (PI)

ขั้นตอนการซื้อทำได้ผ่านหน้าจอซื้อขายของ MEXC โดยเลือกคู่เหรียญ PI/USDT จากนั้นเลือกประเภทคำสั่งซื้อให้เหมาะกับเป้าหมายของคุณ:

ประเภทออเดอร์ คุณลักษณะ เหมาะสำหรับกรณี
Limit Order กำหนดราคาที่ต้องการและสั่งซื้อ เมื่อต้องการซื้อในราคาที่กำหนด
Market Order ทำรายการทันทีในราคาตลาดปัจจุบัน เมื่อต้องการซื้อทันที

เมื่อเลือกประเภทคำสั่งซื้อสำหรับ ให้ทำการระบุจำนวน Pi Coin ที่ต้องการซื้อแล้วกดยืนยันคำสั่ง หลังการซื้อสำเร็จ เหรียญ PI จะถูกแสดงในกระเป๋าของคุณภายใน MEXC

④: แลก Pi Network (PI) เป็นสกุลเงินอื่นหรือถอนเป็นเงินสด

วิธีแลก Pi Network มีดังนี้

  1. แลก PI เป็นเหรียญอื่นที่ตลาดหลักทรัพย์ในประเทศรองรับ เช่น Bitcoin (BTC) หรือ Ethereum (ETH)
  2. โอน BTC หรือ ETH กลับมายังตลาดในประเทศ เช่น GMO Coin, bitFlyer หรือ Coincheck
  3. ขายเป็นเงินสดและถอนเข้าบัญชีธนาคาร

อัปเดตล่าสุดและทิศทางในอนาคตของ Pi Network (PI)

วิธีซื้อ Pi Network (PI) ปี 2025 ฉบับเข้าใจง่าย

Pi Network (PI) กลายเป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงต้นปี 2025 ด้วยแนวคิดที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถขุดเหรียญผ่านสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดาย โดยโครงการนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2019 และก้าวสู่จุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อมีการเปิดตัว Open Mainnet อย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

การย้ายสู่ Mainnet เสร็จสมบูรณ์

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2025 Pi Network ได้เปิดใช้งาน Open Mainnet อย่างเป็นทางการ โดยผู้ใช้ที่ผ่านการยืนยันตัวตน (KYC) สามารถโอนเหรียญ Pi Coin ที่เคยขุดไว้จาก Testnet ไปยังกระเป๋า Mainnet ได้ รวมถึงสามารถเชื่อมต่อกับ Web3 Wallet ภายนอก และเริ่มทำธุรกรรมซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนคริปโตที่รองรับ

การเปิดตัว Mainnet ครั้งนี้ถือเป็นการเปิดประตูให้เกิดการใช้งาน Pi Coin ในชีวิตจริงมากขึ้น ทั้งในแง่ของวิธีซื้อเหรียญมีม การโอนเหรียญ และการรวมเข้ากับบริการ Web3 อื่น ๆ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการกำหนดมูลค่าที่แท้จริงของ Pi Coin ในตลาด

ขยายระยะเวลาการยืนยันตัวตน KYC

เดิมทีทีมงาน Pi Network วางกำหนดเส้นตายสำหรับการยืนยัน KYC และการย้ายเหรียญไปยัง Mainnet ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2025 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีผู้ใช้งานจำนวนมากยังไม่สามารถดำเนินการได้ทันกำหนด จึงมีการขยายระยะเวลาออกไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2025 ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 6 ปีของโครงการ และถือเป็น “วัน Pi” ของชุมชนผู้ใช้งาน

การยืนยัน KYC ถือเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยรักษาความปลอดภัยของระบบและป้องกันการฉ้อโกง แต่หากผู้ใช้งานไม่สามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเวลาที่กำหนด จะมีความเสี่ยงต่อการสูญเสียเหรียญที่ขุดไว้ ยกเว้นเฉพาะเหรียญที่ได้จากการขุดในช่วง 6 เดือนล่าสุดเท่านั้น เพื่อรองรับปัญหานี้ ทีมงานจึงได้เพิ่มการสื่อสารและช่องทางสนับสนุนทางเทคนิคให้ผู้ใช้งานสามารถย้ายเหรียญได้อย่างราบรื่น

ราคาที่พุ่งสูงหลังเปิดตัว และสถานการณ์ปัจจุบันของตลาด

ภายหลังการเปิดตัว Open Mainnet Pi Network ได้เริ่มทำการซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลต่างประเทศ เช่น OKX, Bitget และ MEXC โดยในช่วงแรก ราคา Pi Network ได้พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วคล้ายกับกระแสของ เหรียญมีม แต่ภายหลังก็เริ่มปรับฐานตามกลไกของตลาด

สถานการณ์ปัจจุบันของ Pi Network

  • แนวโน้มราคา: พุ่งขึ้นเกิน 2 ดอลลาร์หลังเปิดตัว หลังจากนั้นลดลง ณ เดือนพฤษภาคม อยู่ที่ประมาณ 0.7 ดอลลาร์
  • ตลาดหลักทรัพย์ในประเทศ: ยังไม่ได้เปิดตัว
  • วิธีแลกเงิน: ยังคงต้องทำผ่านตลาดต่างประเทศเท่านั้น

แม้ว่าราคา Pi Network จะมีความผันผวน แต่แนวโน้มการเปิดตัวในตลาดต่าง ๆ บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของโครงการ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์และใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบ เนื่องจากความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาดยังคงสูง

ข้อควรระวังที่ควรรู้ก่อนซื้อ Pi Network (PI)

แม้ Pi Network จะเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงหลัง โดยเฉพาะจากจุดเด่นที่สามารถขุดเหรียญผ่านสมาร์ทโฟนได้ง่าย แต่ในขณะเดียวกัน นักลงทุนและผู้ใช้งานก็จำเป็นต้องตระหนักถึงความเสี่ยงและข้อควรระวังต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อและแลกเปลี่ยนเหรียญนี้ ทั้งในด้านราคา ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงภัยจากเว็บไซต์และแอปพลิเคชันปลอม

เข้าใจความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงราคา

เนื่องจาก Pi Network เพิ่งเริ่มต้นการซื้อขายอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ราคา Pi Network จึงยังมีความผันผวนสูง โดยเฉพาะในช่วงหลังเปิดตัวที่ราคาอาจพุ่งขึ้นหรือลดลงอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น

ปัจจัยที่ทำให้เกิดความผันผวน ได้แก่:

  • สภาพคล่องของตลาดยังต่ำ ทำให้ราคาถูกชี้นำได้ง่าย
  • ความคาดหวังที่สูงต่อโครงการผสมกับความไม่แน่นอนในอนาคต

ดังนั้น ผู้ที่สนใจลงทุนควรใช้เงินทุนที่ไม่กระทบต่อชีวิตประจำวัน และบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ พร้อมทั้งติดตามข้อมูลราคาจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถืออย่างต่อเนื่อง

การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล

การซื้อ Pi Network มักต้องผ่านตลาดแลกเปลี่ยนต่างประเทศ ซึ่งโดยทั่วไปจะมีการขอข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ ที่อยู่ และวันเกิด สำหรับการยืนยันตัวตน (KYC)

เพื่อความปลอดภัย ควรดำเนินการตามแนวทางดังนี้:

  • ตรวจสอบมาตรการด้านความปลอดภัยของตลาดก่อนใช้งาน
  • อ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวอย่างละเอียด
  • เลือกใช้แพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงและได้รับความเชื่อถือในวงกว้าง
  • ตั้งรหัสผ่านที่คาดเดายาก และเปิดใช้งานระบบยืนยันตัวตน 2 ชั้น (2FA)

โดยเฉพาะในการใช้งานแพลตฟอร์มต่างประเทศ ผู้ใช้งานควรใส่ใจเรื่องการจัดเก็บและดูแลข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากมาตรฐานด้านความปลอดภัยอาจแตกต่างจากในประเทศ

หลีกเลี่ยงเว็บไซต์หลอกลวงและแอปปลอม

เมื่อกระแสของ Pi Network เพิ่มขึ้น ก็มีผู้ไม่หวังดีสร้างเว็บไซต์หรือแอปปลอมเพื่อหลอกขโมยข้อมูลหรือหลอกให้โอนเงินมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงโดยไม่รู้ตัว

แนวทางป้องกันเบื้องต้นที่ควรยึดถือ ได้แก่:

  • เข้าถึงเฉพาะเว็บไซต์ทางการหรือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือเท่านั้น
  • หลีกเลี่ยงการเข้าถึงเว็บไซต์หรือแอปน่าสงสัย ที่ไม่สามารถตรวจสอบที่มาได้
  • ระวังข้อมูลเท็จหรือคำชวนที่เกินจริงจากโซเชียลมีเดียหรือกระทู้บนเว็บไซต์ต่าง ๆ
  • ไม่หลงเชื่อข้อเสนอที่ดูดีเกินจริง เช่น “สร้างรายได้ง่าย ๆ ในไม่กี่ขั้นตอน”

หากพบข้อมูลที่น่าสงสัยเกี่ยวกับวิธีซื้อหรือแลกเปลี่ยน Pi Network ควรตรวจสอบกับแหล่งทางการของโครงการเท่านั้น และยึดมั่นในหลัก “ความปลอดภัยมาก่อน” อยู่เสมอ แม้ว่าข้อเสนอบางอย่างจะดูน่าสนใจเพียงใดก็ตาม

แนะนำแหล่งลงทุนทางเลือกแทน Pi Network (PI)

แม้ Pi Network จะได้รับความสนใจจากการเปิดโอกาสให้ขุดเหรียญผ่านสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดาย แต่ในอีกมุมหนึ่ง นักลงทุนจำนวนไม่น้อยเริ่มหันมาพิจารณาทางเลือกอื่น เนื่องจากความเสี่ยงที่ยังคงอยู่ ทั้งในด้านความผันผวนของราคา Pi Network การใช้งานจริงของโทเคน และความชัดเจนด้านนโยบายการแลกเปลี่ยน

หนึ่งในทางเลือกที่น่าจับตามองในขณะนี้ คือโครงการสกุลเงินดิจิทัลที่อยู่ระหว่างการระดมทุน ICO ที่น่าสนใจ ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และเป้าหมายทางสังคมที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มโครงการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาดและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

①: Solaxy (SOLX)

Solaxy (SOLX) คือหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลรุ่นใหม่ที่น่าจับตา ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนโครงการพลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบพลังงานแบบกระจาย (Decentralized Energy Infrastructure) ที่ทั้งยั่งยืนและเป็นธรรมต่อสิ่งแวดล้อม

จุดเด่นที่ทำให้ Solaxy ได้รับการประเมินสูงจากนักลงทุน ได้แก่:

  • การแบ่งปันผลกำไรจากโครงการจริง: ผู้ถือครองโทเคน SOLX มีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากกำไรที่เกิดจากโครงการพลังงานหมุนเวียนที่ Solaxy สนับสนุน ซึ่งช่วยสร้างแรงจูงใจในการลงทุนพร้อมกับมีส่วนร่วมต่อเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม
  • โครงสร้างเทคโนโลยีที่ทันสมัย: ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการเพิ่มความโปร่งใส โดย Solaxy เป็น Layer-2 บนเครือข่าย Solana (SOL) ทำให้การทำธุรกรรมมีความรวดเร็วและต้นทุนต่ำ
  • สนับสนุนระบบพลังงานแบบกระจาย: ตอบโจทย์แนวโน้มโลกที่ต้องการลดการพึ่งพาระบบพลังงานแบบรวมศูนย์ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานพลังงานใหม่

หากเปรียบเทียบกับ Pi Network ซึ่งแม้จะโดดเด่นเรื่อง Mobile Mining แต่ยังคงมีข้อกังวลเรื่องความสามารถในการนำไปใช้จริงและความเชื่อมั่นของตลาด Solaxy กลับแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนกว่า ทั้งในด้านการสร้าง Utility ของโทเคนและการเชื่อมโยงกับโลกแห่งความเป็นจริง

ณ เดือนพฤษภาคม 2025 โครงการ Solaxy ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม โดยสามารถระดมทุนในช่วง Pre-sale ได้มากกว่า 828 ล้านบาท พร้อมข้อเสนอรางวัล Staking ที่สูงถึง 116% ต่อปี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอัตราผลตอบแทนที่น่าดึงดูดในตลาดคริปโตช่วงนี้

สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาการซื้อ Pi Network หรือกำลังมองหาโครงการที่ให้ความคุ้มค่าทั้งในแง่ผลตอบแทนและจุดยืนต่อสิ่งแวดล้อม Solaxy อาจเป็นทางเลือกที่สมดุลระหว่างกำไรและความยั่งยืน

②: BTC Bull Token (BTCBULL)

BTC Bull Token (BTCBULL) ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าจับตา โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงในระยะสั้น และเชื่อมั่นในแนวโน้มขาขึ้นของ Bitcoin ในช่วงเวลานี้

BTCBULL เป็นโทเคนประเภท Leverage Token ซึ่งออกแบบมาเพื่อสะท้อนการเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin ในอัตราที่ขยายขึ้น กล่าวคือ หากราคา Bitcoin ขยับขึ้น BTCBULL จะเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่มากกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่มีมุมมองบวกต่อ BTC และต้องการใช้ประโยชน์จากความผันผวนของตลาดให้เต็มที่

เหตุผลที่ BTCBULL กำลังได้รับความสนใจ

  • อิงกับราคา Bitcoin อย่างชัดเจน: BTCBULL แสดงผลตอบแทนที่เหนือกว่า BTC ในตลาดกระทิง โดยคาดหวังผลตอบแทน 2–3 เท่าจากการขยับขึ้นของราคา Bitcoin
  • โอกาส Airdrop Bitcoin จริง: ผู้ถือ BTCBULL มีโอกาสได้รับ BTC Airdrop ตามการขึ้นของราคา Bitcoin
  • การเพิ่มความหายากด้วย Token Burn: ทุกครั้งที่ราคา Bitcoin ขยับขึ้นถึง 25,000 ดอลลาร์ จะมีการเผาเหรียญ BTCBULL เพื่อจำกัดอุปทาน ส่งผลต่อแรงผลักดันของราคาในระยะยาว

นอกจากนี้ BTCBULL ยังเปิดให้ผู้ถือโทเคนสามารถนำไปล็อกไว้ในระบบ (Staking) เพื่อรับผลตอบแทนแบบ Passive โดยมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ประมาณ 70% ซึ่งนับว่าสูงเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินทั่วไป นอกจากนี้ Staking ยังมีส่วนช่วยเพิ่มความปลอดภัยและเสถียรภาพให้กับระบบ Blockchain อีกด้วย

สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาแหล่งลงทุนทางเลือกแทน และมีมุมมองว่าราคา Bitcoin อาจพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดใหม่ (ซึ่งล่าสุดเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 109,000 ดอลลาร์) BTCBULL คือหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้อย่างชัดเจน

สรุป

บทความนี้ได้สรุปแนวทาง “วิธีซื้อเหรียญมีม Pi Network (PI)” โดยอ้างอิงจากสถานการณ์ล่าสุดในปี 2025 พร้อมอธิบายขั้นตอนสำคัญตั้งแต่การเตรียมเหรียญ USDT การเลือกใช้ตลาดแลกเปลี่ยนต่างประเทศ การยืนยันตัวตน (KYC) ไปจนถึงมาตรการความปลอดภัยในการซื้อขาย โดยมุ่งหวังให้ผู้เริ่มต้นสามารถเข้าสู่โลกของสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย

นอกจากนี้ ยังได้ชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่ควรระวัง เช่น ความผันผวนของราคา การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล และการหลีกเลี่ยงเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันหลอกลวง ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้ลงทุนควรพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ตลาดคริปโตอาจกำลังเข้าสู่ภาวะฟองสบู่รอบใหม่

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงโดยธรรมชาติ ดังนั้นกลยุทธ์ที่ดีควรเน้นการ “กระจายการลงทุน” ไม่ควรมุ่งเน้นที่ Pi Network เพียงอย่างเดียว ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราได้แนะนำสกุลเงินดิจิทัล Pre-sale ที่ผ่านการคัดกรองอย่างเข้มงวด เช่น Solaxy (SOLX) และ BTC Bull Token (BTCBULL) ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตในอนาคต และสามารถช่วยลดความเสี่ยงพร้อมเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนได้ในระยะยาว

แหล่งที่มา

พิชญา รัตนวงศ์ เป็นนักข่าวและนักวิเคราะห์ด้านคริปโตเคอเรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชน ผู้มีความเชี่ยวชาญในการถ่ายทอดข้อมูลที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายสำหรับผู้อ่านทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือผู้เชี่ยวชาญในวงการ ด้วยประสบการณ์กว่า 8 ปีในสายงานข่าวการเงินดิจิทัลและการกำกับดูแล Web3 พิชญาเคยร่วมงานกับทั้งสื่อในประเทศและต่างประเทศ เช่น Bangkok Biz, Asia Blockchain Review และ BeInCrypto เธอมุ่งมั่นในการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้กำหนดนโยบาย ผู้พัฒนาเทคโนโลยี และนักลงทุน พร้อมส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่องกฎระเบียบคริปโตในบริบทไทย-อาเซียน ผลงานของเธอมีจุดเด่นด้านการวิเคราะห์ข่าว DeFi การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ Web3 ที่กำลังเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค