ICO Crypto คืออะไร? ส่องลิสต์เหรียญ ICO น่าลงทุนที่อาจพุ่ง 1000 เท่าปี 2025

Last Updated: 21 กรกฎาคม 2025
Disclosure

บทความนี้อาจมีลิงก์พันธมิตร ซึ่งทางเว็บไซต์อาจได้รับค่าตอบแทนหากผู้อ่านคลิกหรือลงทะเบียนผ่านลิงก์ดังกล่าว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับผู้อ่าน หากคุณยังคงใช้ไซต์นี้ต่อไป แสดงว่าคุณยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขของเรา


เนื่องจากตลาดสกุลเงินคริปโตกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โครงการ ICO จึงมักจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ด้วยไอเดียที่แปลกใหม่และเทคโนโลยีที่ทันสมัย โครงการเหล่านี้จึงมีโอกาสเติบโตที่สูงมาก แต่เมื่อมี ICO ใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกวัน แล้วเราควรจะเลือกลงทุนตัวไหนดี?

ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำโครงการ ICO ที่คัดสรรมาอย่างดีในปี 2025 พร้อมด้วยความรู้ขั้นพื้นฐานต่างๆ เช่น ICO คืออะไร? จะซื้อเหรียญ ICO ใหม่ๆ เหล่านี้ได้อย่างไร และ รายชื่อเหรียญ ICO น่าลงทุนประจำปี 2025 ฯลฯ เราจะอธิบายทุกอย่างอย่างละเอียด พร้อมบอกข้อควรระวังในการลงทุน หากคุณไม่ต้องการเสียเงินทุนไปฟรีๆ เราขอแนะนำให้อ่านจนจบ

Table of Contents

  • ขอแนะนำโซลูชันเลเยอร์ 2 บน Bitcoin ครั้งแรกของโลก
  • ให้ผู้ใช้งานสามารถเทรด BTC ได้แทบจะทันที
  • เพิ่มความปลอดภัยของธุรกรรมด้วย ZK-proofs
Project Launched
พฤษภาคม 2025
Meta
Bitcoin L2, มีม
Purchase Methods
  • Ethereum
    Ethereum
  • Tether
    Tether
  • เหรียญมีมที่เลียนแบบ SPX6900 โดยมี hard cap เพียง 5 ล้านดอลลาร์
  • โครงการขับเคลื่อนโดยชุมชน อ้างอิงความ怀念ในยุคต้นปี 2000
  • อธิบายตัวเองว่าเป็นจุดบรรจบอันศักดิ์สิทธิ์ระหว่างมีมและตลาด
Project Launched
มิถุนายน 2025
Meta
มีม
Purchase Methods
  • Ethereum
    Ethereum
  • USDC
    USDC
  • BNB
    BNB
  • Credit Card
    Credit Card
  • +1 more
  • บอทสไนป์เหรียญมีมที่เร็วที่สุดบนเครือข่าย Solana และ EVM
  • ชุดเครื่องมือเทรดเต็มรูปแบบผ่าน Telegram
  • สไนป์โทเค็นทันทีที่เปิดตัว
Project Launched
พฤษภาคม 2025
Meta
บอทเทรด, มีม
Purchase Methods
  • BNB
    BNB
  • Ethereum
    Ethereum
  • Credit Card
    Credit Card
  • Solana
    Solana
  • Tether
    Tether
  • +2 more
  • ผู้ถือโทเค็น $BEST จะได้สิทธิพิเศษในการเข้าถึงรอบพรีเซลของโทเค็นฮอตฮิตในตลาดก่อนใคร
  • เพิ่ม APY จากการ Staking บน Best Wallet ด้วยการถือโทเค็น $BEST
  • ผู้ถือโทเค็น $BEST สามารถจ่ายค่าธรรมเนียมธุรกรรมได้ถูกลงในระบบนิเวศของ Best Wallet
Project Launched
2024
Meta
ยูทิลิตี้, DeFi
Purchase Methods
  • BNB
    BNB
  • Tether
    Tether
  • Ethereum
    Ethereum
  • แพลตฟอร์มยุคใหม่ที่รวมคอนเทนต์สด เครื่องมือ AI การสเตก การชำระเงินด้วยคริปโต และอื่น ๆ เข้าด้วยกัน
  • ผู้ถือ SUBBD จะได้รับสิทธิ์เข้าถึงคอนเทนต์และประสบการณ์ที่ปรับแต่งด้วย AI
  • ความภักดีจะได้รับรางวัลผ่านโบนัสจากการสเตก เพิ่ม XP และดรอปจากครีเอเตอร์รายวัน
Project Launched
เมษายน 2025
Meta
AI, การชำระเงิน, คอนเทนต์
Purchase Methods
  • BNB
    BNB
  • Ethereum
    Ethereum
  • Tether
    Tether
  • Credit Card
    Credit Card
  • +1 more

รายชื่อเหรียญ ICO ที่แนะนำ [อัปเดตล่าสุดปี 2025]

ในปี 2025 หลังจากประธานาธิบดี Trump เข้ารับตำแหน่ง มีการคาดการณ์ว่าตลาดสกุลเงินดิจิทัลจะเติบโตอย่างมาก การลงทุนใน ICO ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นอาจจะทำให้คุณทำกำไรได้มากกว่า 1,000 เท่า ดังนั้น เราจะมาแนะนำเหรียญคริปโตที่ผู้เชี่ยวชาญของเราคัดเลือกมาให้ได้พิจารณากันตามลำดับ

ต่อไปนี้คือรายชื่อโครงการ ICO ที่คาดว่าจะเติบโตในอนาคต

  1. Bitcoin Hyper (HYPER): โครงการ Layer 2 แรกของ Bitcoin ที่ใช้เทคโนโลยี SVM rollup ทำให้ธุรกรรมรวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมต่ำ
  2. TOKEN6900 (T6900): เหรียญ ICO ที่เป็นกระแสจากความไร้สาระและกวนประสาท!
  3. Snorter Bot (SNORT): บอทเทรดบน Telegram ที่มาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยสูง ป้องกันนักลงทุนจากการถูกโกงและโจมตี ให้ความปลอดภัยเป็นสำคัญ ช่วยให้ซื้อขายได้อย่างสบายใจ
  4. Best Wallet Token (BEST): โทเค็นหลักของกระเป๋าคริปโตยอดนิยม “Best Wallet” คาดว่าจะเติบโตได้ดี มีสิทธิพิเศษเช่น การเข้าถึงโครงการ ICO ดีๆ ได้ก่อนใคร
  5. SUBBD Token (SUBBD): แพลตฟอร์มคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ใช้ AI เป็นพื้นฐานสำหรับการลงทุน ดึงดูดใจด้วยการจัดสรรโทเค็นที่โปร่งใสและแผนการที่ชัดเจน

1. Bitcoin Hyper (HYPER)

Bitcoin Hyper (HYPER) เป็นเหรียญ ICO ที่แตกต่างจากเหรียญมีมทั่วไป เพราะผสมความสนุกของวัฒนธรรมมีมเข้ากับเทคโนโลยี Bitcoin Layer 2 ที่ใช้งานได้จริง โดยเน้นแก้ปัญหาความเร็วและค่าธรรมเนียมของเครือข่าย Bitcoin ผ่านการเชื่อมต่อกับ Solana Virtual Machine

เหตุผลที่เราแนะนำ Bitcoin Hyper มีดังนี้:

  • เทคโนโลยีใหม่จริงๆ: เป็น Bitcoin Layer 2 ตัวแรกที่ใช้ SVM rollup ทำให้ประมวลผลธุรกรรมได้เกือบทันทีด้วยค่าธรรมเนียมต่ำมาก ขณะที่ยังคงความปลอดภัยของเครือข่าย Bitcoin หลักไว้ มีสะพานเชื่อมแบบ Trustless ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานโอน BTC ไปยัง Layer 2 ได้อย่างปลอดภัย
  • ผลตอบแทนสูงจาก Staking: นักลงทุนที่เข้าร่วมในช่วงพรีเซลสามารถ Stake เหรียญ HYPER ได้ทันทีพร้อมรับผลตอบแทนสูงถึง 2,287% ต่อปี ทำให้เป็นหนึ่งในเหรียญ ICO น่าลงทุนกว่าเหรียญอื่นๆ ที่ให้แค่การเก็งกำไรจากราคา
  • มีผลงานจริงให้เห็น: ทีมพัฒนาแสดงความก้าวหน้าของโครงการผ่านการเปิดตัวสะพานเชื่อมทดสอบ ระบบดูข้อมูลบล็อก และระบบ Staking ที่คำนวณได้ 199 โทเค็นต่อบล็อก สิ่งเหล่านี้แสดงว่าโครงการมีพื้นฐานเทคนิคที่แข็งแกร่งและไม่ใช่แค่ไอเดีย

สิ่งที่ทำให้ Bitcoin Hyper โดดเด่นคือการรวมความสนุกของ Meme Coin เข้ากับประโยชน์ใช้งานจริงผ่านเทคโนโลยี Layer 2 ที่ช่วยขยายความสามารถของ Bitcoin ให้รองรับ DeFi และแอปต่างๆ ได้โดยไม่ทำลายหลักการพื้นฐานของ Bitcoin หากทีมพัฒนาทำ zero-knowledge proofs ได้สำเร็จตามแผน HYPER อาจกลายเป็นตัวเลือกหลักสำหรับระบบ Bitcoin DeFi ในอนาคต

Bitcoin Hyper เป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการทั้งความบันเทิงและประโยชน์จริง การเข้าร่วมในช่วงพรีเซลจะได้ราคาพิเศษและโอกาส Staking ด้วยอัตราผลตอบแทนสูง หากสนใจซื้อ Bitcoin Hyper สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

ชื่อโครงการ Bitcoin Hyper
ชื่อโทเค็น HYPER
วันเปิดตัว พฤษภาคม 2025
เชน Bitcoin Layer 2
วิธีการซื้อ ETH, USDT, BNB, USDC, บัตร

2. TOKEN6900 (T6900)

T6900 เหรียญ ICO ใหม่

TOKEN6900 (T6900) คือเหรียญมีม ICO ที่กำลังได้รับความสนใจในโลกคริปโต ด้วยแนวคิดที่ใกล้เคียงกับ SPX6900 โดยยังคงสะท้อนความเป็น anti S&P500 อย่างเด่นชัด อีกทั้งยังเน้นย้ำพลังแห่งตัวเลข 69 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญ เหรียญนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของเทรดเดอร์รุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างเต็มตัว และต้องการความเรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์ในเวลาเดียวกัน

เหตุผลที่เราแนะนำ TOKEN6900 มีดังนี้:

  • ความโปร่งใสและความเรียบง่าย: ท่ามกลางความผันผวนของตลาดคริปโตที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ปัญหาเงินเฟ้อ และโมเดลธุรกิจที่ไม่น่าเชื่อถือ TOKEN6900 โดดเด่นด้วยการนำเสนอตัวเลือกการลงทุนที่เน้นความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน และไม่ยึดติดกับวิธีการธุรกิจแบบเดิมๆ ทำให้เหรียญดังกล่าวกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาความแตกต่างและความสดใหม่ในตลาด
  • ระบบ Staking ที่น่าสนใจ: อีกหนึ่งจุดแข็งของ TOKEN6900 คือระบบ Staking ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบแทนผู้ใช้งานในระยะเริ่มต้นอย่างคุ้มค่า ด้วยอัตราผลตอบแทน APY ที่สูงถึง 65% อย่างไรก็ตาม เมื่อจำนวนโทเค็นที่ถูกนำไป Stake มีมากขึ้น อัตราผลตอบแทนนี้จะลดลงตามกลไกที่กำหนดไว้
  • Roadmap พร้อมแผนพัฒนาที่ชัดเจน: โปรเจกต์ TOKEN6900 ได้วางแนวทางการเติบโตในอนาคตไว้อย่างมีระบบ โดยแบ่งออกเป็น 3 เฟสหลัก เริ่มตั้งแต่การพัฒนาเว็บไซต์ การตรวจสอบและรับรองความปลอดภัย การจดทะเบียนเหรียญบนแพลตฟอร์มต่างๆ การขยายขอบเขตความขบขัน รวมถึงการสร้างชุมชนผู้ใช้งานให้แข็งแกร่งและยั่งยืนในระยะยาว

ในช่วงพรีเซลล์ TOKEN6900 สามารถระดมทุนได้ถึง $100,000 ภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมงแรก ซึ่งถือเป็นการตอบรับที่น่าประทับใจจากนักลงทุนจำนวนมาก จุดเด่นสำคัญของโปรเจกต์นี้คือความเรียบง่ายและความตรงไปตรงมา ซึ่งกลับดึงดูดความสนใจได้อย่างมหาศาล แม้จะไม่มีความซับซ้อนในเชิงเทคนิคก็ตาม

ชื่อโครงการ TOKEN6900
ชื่อโทเค็น T6900
วันเปิดตัว กรกาคม 2025
เชน Ethereum
วิธีการซื้อ ETH, BNB, USDT (สำหรับ ERC-20 & BEP-20), บัตรเครดิต

3. Snorter Bot (SNORT)

Snorter Bot(SNORT)บอทเทรดสุดล้ำสมัยบน Telegram

Snorter Bot (SNORT) เป็นโครงการ ICO ที่จะมอบเครื่องมือซื้อขายขั้นสูงให้กับนักลงทุน โดยมีฟังก์ชันที่ครบครันผสมผสานกับการใช้งานจริงและผลกำไร กลายเป็นจุดดึงดูดสำคัญที่ตอบโจทย์นักลงทุนหลากหลายสไตล์

เหตุผลที่เราแนะนำ Snorter Bot มีดังนี้:

  • สมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทน: การเข้าซื้อในช่วงพรีเซลอาจจะให้ผลตอบแทนสูง ขณะที่ฟังก์ชัน Trading Bot ที่ใช้งานได้จริงช่วยลดความเสี่ยง ระบบตรวจจับการโกงและระบบรักษาความปลอดภัยด้วย AI ยังช่วยปกป้องทรัพย์สินของผู้ใช้งานได้ด้วย
  • สร้างรายได้หลายช่องทาง: นอกจากกำไรจากราคาโทเค็นแล้ว ยังมีผลประโยชน์อื่นๆ เช่น ค่าธรรมเนียมลดลง (จาก 1.5% เหลือ 0.85%) ผลตอบแทนจาก Staking และสิทธิในการใช้ฟีเจอร์พิเศษ การมีรายได้หลายช่องทางจากการลงทุนเพียงครั้งเดียวถือเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากโครงการอื่นๆ
  • ใช้งานง่ายทั้งมือใหม่และมืออาชีพ: นักลงทุนมือใหม่สามารถใช้งานได้ง่ายผ่าน Telegram ขณะที่ตอบสนองความต้องการของมืออาชีพด้วยฟังก์ชัน Copy Trading และระบบซื้อขายความเร็วสูง ความสามารถในการรองรับนักลงทุนทุกระดับเป็นปัจจัยที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตระยะยาว

จุดเด่นที่สุดของ Snorter Bot คือการลดอุปสรรค 3 ประการของการลงทุนเหรียญดิจิทัลแบบเดิม ได้แก่ “ความรู้ทางเทคนิค” “เวลาที่ต้องใช้” และ “เงินทุนสูง” เพราะช่วยให้แม้แต่คนยุคใหม่ที่ยุ่งสามารถลงทุนได้อย่างเต็มรูปแบบด้วยสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว ทำให้คาดว่าจะส่งผลดีต่อราคาในอนาคตของ Snorter Bot อย่างแน่นอน

Snorter Bot เป็นเป้าหมายการลงทุนที่เหมาะสม สร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมเทคโนโลยี การใช้งานจริง และผลกำไรในระดับสูง การเข้าร่วมช่วง ICO ก่อนใครจะได้รับประโยชน์ทั้งหมดในเงื่อนไขที่ดีที่สุด หากคุณกำลังพิจารณาซื้อ Snorter Bot ให้ลองตรวจสอบเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

ชื่อโครงการ Snorter Bot
ชื่อโทเค็น SNORT
วันเปิดตัว พฤษภาคม 2025
เชน Ethereum & Solana
วิธีการซื้อ SOL, ETH, USDT, USDC, บัตร

4. Best Wallet Token (BEST)

Best Wallet Token (BEST) เป็นเหรียญ ICO ที่เป็นหัวใจหลักของกระเป๋าคริปโตรุ่นใหม่ “Best Wallet” ในฐานะแพลตฟอร์มที่แก้ปัญหาการจัดการคริปโตของกระเป๋าเงินแบบดั้งเดิมและให้ประสบการณ์การซื้อขายที่ราบรื่น กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างรวดเร็ว

เหตุผลที่เราแนะนำ Best Wallet Token มีดังนี้:

  • ได้เปรียบจากการลงทุนตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น: ช่วงพรีเซลจะช่วยให้คุณเข้าซื้อในราคาที่ถูกกว่าราคาที่คาดว่าจะได้หลังเข้าตลาดมาก Best Wallet มีศักยภาพดีในฐานะกระเป๋าคริปโต และความต้องการ Best Wallet Token ก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้นด้วย
  • สร้างรายได้หลายช่องทาง: นอกจากกำไรจากราคา Best Wallet Token แล้ว คุณยังสามารถสร้างรายได้หลายช่องทาง รวมถึงส่วนลดค่าธรรมเนียม โอกาสเข้าถึงเหรียญ ICO ใหม่ๆ ก่อนใคร และรางวัลจากการ Staking
  • โอกาสเติบโตระยะยาว: ด้วยความปลอดภัยที่แข็งแกร่งและการรองรับบล็อกเชนมากกว่า 60 เครือข่าย สร้างข้อได้เปรียบทางเทคโนโลยีไว้แล้ว แผนการพัฒนาที่ชัดเจนผ่าน Phase 4 ให้เส้นทางที่มั่นคงสู่การปรับปรุงอย่างยั่งยืน

Best Wallet Token เป็นโทเค็นที่จำเป็นสำหรับผู้ใช้งาน Best Wallet ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินที่ครบเครื่องสำหรับเหรียญคริปโตและ ICO น่าลงทุน คุณสามารถได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติเพียงแค่ถือไว้ ดังนั้น ซื้อไว้ก่อนในตอนนี้จะช่วยให้คุณได้ผลตอบแทนมากที่สุด

การซื้อ Best Wallet Token ทำได้ง่ายและเสร็จสิ้นได้ในไม่กี่ขั้นตอน ไม่ว่าจะผ่านแอป Best Wallet หรือจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ เราจึงขอแนะนำให้ซื้อไว้ในช่วงนี้ที่ยังได้ราคาพร้อมส่วนลด

ชื่อโครงการ Best Wallet Token
ชื่อโทเค็น BEST
วันเปิดตัว พฤศจิกายน 2024
เชน Ethereum
วิธีการซื้อ ETH, USDT, BNB, บัตร

5. SUBBD Token (SUBBD)

SUBBD Token (SUBBD) แพลตฟอร์ม ICO สำหรับ Content Creator

SUBBD Token (SUBBD) เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้คอนเทนท์ครีเอเตอร์สามารถใช้เทคโนโลยี AI ในการผลิตเนื้อหาและเชื่อมต่อกับแฟนๆ ได้โดยตรง แพลตฟอร์มเดิมๆ มักจะหักค่าธรรมเนียมสูงถึง 70% แต่ SUBBD ซึ่งเป็น ICO Crypto จะช่วยให้ครีเอเตอร์ได้รับส่วนแบ่งรายได้ที่เป็นธรรมมากยิ่งขึ้น

เหตุผลที่เราแนะนำ SUBBD Token มีดังนี้:

  • แก้ปัญหาค่าธรรมเนียมสูงในอุตสาหกรรม: แพลตฟอร์มดั้งเดิมมักหักค่าธรรมเนียมสูงถึง 70% จากรายได้ของครีเอเตอร์ แต่ SUBBD นำเสนอโมเดลที่เป็นธรรมกว่าผ่านการใช้คริปโตเคอร์เรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชน ทำให้ครีเอเตอร์ได้รับส่วนแบ่งรายได้ที่มากขึ้น
  • ระบบนิเวศ AI ที่ครบครัน: แพลตฟอร์ม ICO ใหม่นี้มาพร้อมกับเครื่องมือ AI ที่หลากหลาย ตั้งแต่ AI Profile Creators, AI Voice Notes, AI Video Editors และ Generators ที่ช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถผลิตเนื้อหาคุณภาพสูงได้ง่ายขึ้น รวมถึงฟีเจอร์ AI Influencer ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการ
  • เครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่ง: โครงการได้รับการสนับสนุนจากอินฟลูเอนเซอร์กว่า 2,000 คนที่มีผู้ติดตามรวมกันมากกว่า 250 ล้านคน แสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือและศักยภาพในการเติบโต การมีฐานผู้ใช้งานที่แข็งแกร่งตั้งแต่เริ่มต้นเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสนับสนุนความสำเร็จของโครงการ

จุดเด่นของ SUBBD Token คือการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างเทคโนโลยี Web3 กับการสร้างเนื้อหา โดยผู้ถือโทเค็นจะได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ เช่น การเข้าถึงเนื้อหาพรีเมียม ผลประโยชน์จาก Staking แบบ VIP ส่วนลดในการใช้งานแพลตฟอร์ม และการเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ก่อนใคร ตลาดมูลค่า 85,000 ล้านดอลลาร์ที่เป็นเป้าหมายนี้ทำให้โครงการ ICO นี้มีโอกาสเติบโตได้สูง

SUBBD Token เป็นเหรียญ ICO น่าลงทุนสำหรับผู้ที่เชื่อมั่นในอนาคตของการสร้างเนื้อหาแบบ Decentralized การเข้าร่วมพรีเซลในราคา 0.055625 ดอลลาร์อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีก่อนที่ราคาจะปรับเพิ่มขึ้นหลังจากนี้

ชื่อโครงการ SUBBD
ชื่อโทเค็น SUBBD
วันเปิดตัว เมษายน 2025
เชน Ethereum
วิธีการซื้อ ETH, USDT, BNB, บัตร

วิธีการประเมินและเกณฑ์การคัดเลือก ICO Crypto

เพื่อค้นหาโครงการ ICO Crypto ที่มีอนาคตแจ่มใส CryptoDnes ไม่ได้ดูแค่ตัวเลขเท่านั้น แต่ยังใช้ CHAIN Analysis Framework™ ที่เป็นระบบวิเคราะห์เฉพาะของเรา ซึ่งมุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมด้านเทคโนโลยี ประโยชน์ใช้งานจริง และความยั่งยืนในระยะยาว

  • Code (โค้ดเบส): ประเมินความสมบูรณ์ด้านเทคนิค เช่น ความซับซ้อนในการออกแบบ เอกลักษณ์ของเทคโนโลยีเข้ารหัส และระบบความปลอดภัย (รวมถึงการตรวจสอบและทดสอบ)
  • Human (ทรัพยากรมนุษย์):ดูความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์การทำงาน โครงสร้างทีมพัฒนา (แบบกระจายหรือรวมศูนย์) และว่ามีการแบ่งปันความรู้กันในทีมหรือไม่
  • Adoption (การถูกนำไปใช้งาน): ประเมินระดับการใช้งานในสังคมจริง (จำนวนที่อยู่ที่ใช้งาน ปริมาณการทำธุรกรรม อัตราการกลับมาใช้งาน การใช้งานข้ามเครือข่าย เป็นต้น)
  • Innovation (นวัตกรรม): ประเมินความลึกของนวัตกรรมเทคโนโลงี รวมถึง คุณภาพเทคโนโลยีเฉพาะ ทรัพย์สินทางปัญญา การร่วมมือวิจัย และการปรับปรุงระบบ
  • Network (เศรษฐศาสตร์เครือข่าย):วิเคราะห์ความยั่งยืนและความเป็นธรรมของโมเดลเศรษฐกิจ รวมถึงความเป็นไปได้ในการใช้งาน การออกแบบอุปทาน และโครงสร้างแรงจูงใจของโทเค็น

การประเมินนี้จะปรับตามเทคโนโลยีล่าสุดเสมอ และพิจารณาองค์ประกอบที่ทันสมัย เช่น ความต้านทานควอนตัม และการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังมีการประเมินเฉพาะแต่ละสาขาที่ปรับให้เหมาะกับลักษณะของแต่ละประเภท เช่น AI และ DeFi เพื่อให้การวิเคราะห์แม่นยำยิ่งขึ้น

ICO คืออะไร?

ภาพของ ICO เสมือนจริง

ICO คือ วิธีการที่เหรียญหรือโครงการคริปโตใหม่ๆ ใช้ในการหาเงินทุนสำหรับพัฒนาโครงการ ICO Crypto เริ่มเติบโตอย่างรวดเร็วมาตั้งแต่ปี 2017 และกลายเป็นช่องทางหลักที่โครงการสตาร์ทอัพบล็อกเชนมากมายใช้ในการระดมทุน

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ ICO คือ:

  • ICO คืออะไร?
  • ICO และ IPO ต่างกันอย่างไร?
  • ICO Crypto ทำงานอย่างไร?

ICO คืออะไร?

ICO คือวิธีการที่เสมือนจริงใหม่หรือโครงการบล็อกเชนใช้รวบรวมเงินทุน ความหมายของ ICO คือ “Initial Coin Offering” ทีมพัฒนาจะออกโทเค็นสำหรับโครงการของตนเอง นักลงทุนซื้อโทเค็นด้วยเงินกระดาษ (เยนหรือดอลลาร์ ฯลฯ) หรือเสมือนจริงที่มีอยู่แล้ว (เช่น Bitcoin หรือ Ethereum)

หนึ่งใน ICO Crypto ที่มีชื่อเสียงคือ โครงการ Ethereum ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นแพลตฟอร์ม Smart Contract ที่เริ่มต้นจากการระดมทุนผ่าน ICO และกลายมาเป็นเหรียญคริปโตที่มีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจาก Bitcoin

ความสำเร็จของ Ethereum ICO ได้กลายเป็นแบบอย่างให้กับโครงการอื่นๆ และส่งผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมคริปโต ความเชื่อมั่นของนักลงทุนใน Ethereum ยังคงแข็งแกร่ง และอนาคตของ Ethereum ก็ยังมีแนวโน้มที่ดี

ช่วงปี 2017 ถึง 2018 เกิดกระแสนิยมของ ICO และโครงการจำนวนมากสามารถระดมเงินจำนวนมหาศาลในเวลาสั้นๆ แต่ในขณะเดียวกันก็มีโครงการหลอกลวงเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากเช่นกัน เพราะในสมัยนั้นยังไม่มีการควบคุมที่เข้มงวดและขาดความชัดเจน ปัจจุบัน หลายๆ ประเทศจึงเริ่มออกกฎหมายที่เข้มงวดขึ้นเพื่อคุมครองนักลงทุน

ICO และ IPO ต่างกันอย่างไร?

ICO และ IPO ต่างก็เป็นวิธีการระดมทุน แต่มีลักษณะพื้นฐานที่แตกต่างกัน  โดยความแตกต่างหลักๆ ระหว่าง ICO และ IPO มีดังนี้:

  • IPO(Initial Public Offering / การเสนอขายหุ้นครั้งแรก):เป็นกระบวนการที่บริษัทนำหุ้นเข้าขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นครั้งแรกและขายให้นักลงทุนทั่วไป บริษัทได้เงินทุน นักลงทุนได้เป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของบริษัท (หุ้น)
  • ICO(Initial Coin Offering / การเสนอขายเหรียญครั้งแรก):เป็นวิธีที่โครงการบล็อกเชนสร้างโทเค็นหรือเหรียญใหม่และขายให้สาธารณชน นักลงทุนซื้อโทเค็นของโครงการโดยหวังว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคต หรือ ได้สิทธิพิเศษในการใช้งาน

ความแตกต่างใหญ่อยู่ที่ระดับการควบคุม IPO อยู่ภายใต้การกำกับดูแลที่เข้มงวดจากหน่วยงาน เช่น คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ บริษัทจะต้องเปิดเผยข้อมูลทางการเงินและผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียด ส่วน ICO ในหลายๆ ประเทศยังไม่มีการควบคุมที่ชัดเจนหรือเข้มงวด ทำให้เข้าร่วมได้ง่าย

กลุ่มนักลงทุนที่เข้าร่วมได้ก็ต่างกัน IPO มักจะเน้นนักลงทุนสถาบันหรือนักลงทุนที่ผ่านการรับรองแล้ แต่ ICO โดยทั่วไป ใครก็ตามที่มีอินเทอร์เน็ตก็สามารถเข้าร่วมได้จากทั่วโลก นอกจากนี้ IPO อาจจะใช้เวลาตั้งแต่การเตรียมการจนถึงการขายหลายเดือนหรือหลายปี แต่ ICO สามารถทำได้ในระยะเวลาที่สั้นกว่านั้น

ICO Crypto ทำงานอย่างไร?

IICO Crypto เป็นกระบวนการที่โครงการบล็อกเชนใช้ในการหาเงินทุน บางครั้งเรียกว่า ICO coins หรือ ICO tokens กลไกพื้นฐานของกระบวนการนี้มีดังนี้:

  • ขั้นตอนการเตรียมการ: ทีมโครงการเขียน White Paper (เอกสารรายละเอียดข้อมูลโครงการ) ที่อธิบายวิสัยทัศน์และแผนธุรกิจอย่างละเอียด และออกแบบระบบโทเค็น ในเวลาเดียวกันจะสร้างเว็บไซต์และทำการตลาดในโซเชียลมีเดียเพื่อดึงดูดความสนใจจากนักลงทุน
  • ขั้นตอนการหาเงินทุน: นักลงทุนโอนคริปโตที่มีอยู่ เช่น BTC/ETH หรือ สกุลเงินเฟียต ผ่าน Smart Contracts แล้วรับโทเค็นของโครงการใหม่ กระบวนการนี้มักจะแบ่งออกเป็นช่วง Presale สำหรับนักลงทุนรายใหญ่และ Main Sale สำหรับบุคคลทั่วไป
  • ขั้นตอนการพัฒนาและการเปิดตัว: โครงการจะพัฒนาต่อไปด้วยเงินทุนที่ได้มา และโทเค็นที่ออกมาจะลิสต์เข้าสู่ตลาดซื้อขาย ทำให้ซื้อขายได้อย่างอิสระ ราคาของโทเค็นจะขึ้นลงตามความก้าวหน้าของโครงการ และหากประสบความสำเร็จจะทำให้นักลงทุนได้กำไร

ทางฝั่งโครงการก็จะสามารถระดมเงินทุนจากทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบจากธนาคาร และในเวลาเดียวกันก็ได้ผู้ใช้งานเข้ามาในโครงการในช่วงแรก

ในขณะที่ฝั่งนักลงทุนก็จะสามารถลงทุนในโครงการที่มีแนวโน้มดีได้ตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งอาจได้รับผลตอบแทนที่ดีและสิทธิพิเศษต่างๆ เพื่อเข้าร่วม ICO เพียงแค่เตรียม Ethereum Wallet หรือ กระเป๋าคริปโตอื่นๆ และเข้าไปที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

ความแตกต่างระหว่างความนิยม ICO ในอดีตกับแนวโน้ม ICO ปี 2025

ในช่วงที่ ICO ได้รับความนิยมในอดีต มีหลายกรณีที่โครงการสามารถหาเงินได้ในเวลาสั้นๆ แม้จะยังไม่มีตัวผลิตภัณฑ์จริง เรื่องราวความสำเร็จ เช่น “หาเงินได้หลายร้อยล้านดอลลาร์ด้วยเพียงแค่ “White Paper” และ “ราคาเพิ่มขึ้นหลายสิบเท่าในวันแรกที่เข้าตลาด” เกิดขึ้นทั่วไปในตลาด

อย่างไรก็ตาม หลายๆ กรณีเงินทุนถูกระดมผ่าน White Paper เท่านั้นโดยไม่มีผลิตภัณฑ์จริง และช่องว่างระหว่างความคาดหวังของนักลงทุนกับความเป็นจริงกลายเป็นปัญหา การโฆษณาโดยอินฟลูเอนเซอร์และโครงการหลอกลวงก็เริ่มแพร่หลาย ส่งผลให้ความน่าเชื่อถือของ ICO โดยรวมลดลง ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของช่วงความนิยม ICO ในอดีต

แนวโน้ม ICO Crypto ปี 2025 “Reverse ICO” และ “มุมมองระยะยาว”

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดในตลาด ICO Crypto ปี 2025 คือปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Reverse ICO”

ในอดีต โครงการ ICO ส่วนใหญ่หาเงินได้จำนวนมากเพียงแค่ด้วยแนวคิด “เราวางแผนจะสร้างสิ่งนี้” แล้วระดมทุนด้วยการนำเสนอวิสัยทัศน์ใน White Paper ก่อน ระดมทุน จากนั้นจึงค่อยดำเนินงานตามแผนงาน แต่ในทางกลับกัน Reverse ICO จะเป็นการสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการให้เสร็จสิ้นพร้อมใช้งานก่อน แล้วจึงค่อยออกโทเค็นเพื่อดึงดูดผู้ใช้งาน

ในปี 2025 โครงการ ICO Crypto ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะใช้วิธี Reverse ICO ตัวอย่างเช่น โปรโตคอล Re-Staking ชั้นนำอย่าง EigenLayer และ Celestia ซึ่งจะเริ่มแจกจ่ายโทเค็นให้กับผู้ใช้งาน หลังจากที่พวกเขาใช้ผลิตภัณฑ์/บริการจริงๆ เพื่อให้ได้ส่วนแบ่งในโครงการ

นอกจากนี้ องค์ประกอบอื่นๆ ที่ถูกมองข้ามในช่วงความนิยม ICO ในอดีตคือ ความยั่งยืนของ Tokenomics ในช่วงแรกของโครงการ ICO ดีไซน์ของโทเค็นหลายๆ ตัวเน้นเพียงแค่การเพิ่มขึ้นของราคาในระยะสั้นเท่านั้น อีกทั้งยังขาดกลไกการสร้างมูลค่าระยะยาว

ในทางกลับกัน โครงการ ICO ที่ประสบความสำเร็จในปี 2025 มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือการให้ประโยชน์ที่ชัดเจนแก่ผู้ถือโทเค็น ตัวอย่างเช่น มีการออกแบบที่ให้ประโยชน์ที่จับต้องได้แก่ผู้ถือโทเค็น เช่น กลไกที่คืนส่วนหนึ่งของค่าธรรมเนียมเครือข่ายให้กับผู้ถือโทเค็น รางวัลสำหรับการ Staking โทเค็น และสิทธิ์ในการเข้าร่วมการดำเนินงานโครงการ

สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษในปัจจุบันก็คือ โทเค็นจะสามารถเป็นได้ทั้ง Utility และ Governance Token หรือไม่? เมื่อก่อนนี้ โทเค็นจะเป็นได้แค่อย่างใดอย่างหนึ่ง:

  • ใช้ซื้อของหรือจ่ายค่าบริการ (เหมือนสกุลเงิน)
  • ใช้โหวตตัดสินใจเรื่องของโครงการ (เหมือนหุ้น)

แต่ในปัจจุบัน โทเค็นใหม่ๆ สามารถทำได้ทั้ง 2 อย่างแล้ว ซึ่งนำไปสู่การออกแบบที่สร้างสมดุลระหว่างองค์ประกอบที่ดูเหมือนจะขัดแย้งกันของ “การนำไปใช้งานประจำวัน” และ “การถือโทเค็นในระยะยาว”

วิธีซื้อเหรียญ ICO น่าลงทุนปี 2025

ในที่นี้ เราจะมาแนะนำวิธีการซื้อเหรียญ ICO ใหม่ๆ โดยใช้ Best Wallet ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูง Best Wallet เป็น Bitcoin & Crypto Wallet ที่มีฟีเจอร์หลากหลาย ออกแบบให้ใช้งานได้ง่ายแม้จะเป็นมือใหม่ก็ตาม และช่วยให้สามารถเข้าร่วม ICO ของคริปโตได้อย่างสะดวก รวมทั้งยังซื้อเหรียญคริปโตด้วยบัตรเครดิตได้อีกด้วย

ขั้นตอนการซื้อ ICO Crypto มีดังนี้

  1. สมัครใช้งาน Best Wallet
  2. เตรียมเงินทุนสำหรับการทำธุรกรรม
  3. เข้าถึง ICO Crypto
  4. การซื้อโทเค็นและ Staking

① สมัครใช้งาน Best Wallet

ก่อนซื้อเหรียญ ICO ใหม่ๆ คุณจะต้องมีกระเป๋าคริปโตเสียก่อน เริ่มจากดาวน์โหลดแอปจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Best Wallet เท่านั้น Best Wallet เป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เราแนะนำ เพราะมีระบบความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง สมัครได้ง่าย โดยสามารถใช้อีเมล หรือ สมัครผ่านบัญชี Apple หรือ Google ได้ จากนั้นตั้งรหัส PIN ก็จะพร้อมใช้งานทันที

Create Best Wallet Account

จดวลีสำรอง (Recovery Phrase) ลงกระดาษและเก็บไว้ในที่ปลอดภัย วลีนี้เป็นกุญแจสำคัญที่จะใช้กู้คืนกระเป๋าเงิน Web3 ของคุณ ต้องเก็บเป็นความลับสุดยอด ห้ามให้ใครรู้เด็ดขาด

② เตรียมเงินทุนสำหรับการทำธุรกรรม

ฝากเงินเข้า Best Wallet หรือใช้ฟีเจอร์ซื้อในแอป เพื่อเตรียมเหรียญคริปโต (เช่น ETH และ USDT) ที่จำเป็นสำหรับเข้าร่วม ICO ให้ตรวจสอบเงื่อนไขการเข้าร่วมให้เรียบร้อย และเตรียมเหรียญคริปโตหรือ Stablecoin ไว้ให้เพียงพอ

การเตรียมเงินทุนการทำธุรกรรม

Best Wallet ยังทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโตที่น่าเชื่อถือ ด้วยฟีเจอร์ซื้อในแอป คุณสามารถซื้อเหรียญคริปโตที่มีแนวโน้มดี เช่น BTC หรือ ETH ด้วยบัตรเครดิตหรือเดบิตได้โดยตรงอีกด้วย

③ เข้าถึง ICO Crypto

ไปที่ “Upcoming Tokens” ในหน้าหลักของ Best Wallet แล้วค้นหาเหรียญ ICO น่าลงทุนที่คุณสนใจเข้าร่วม คุณสามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัดของโทเค็น (Token Metrics) และแผนการดำเนินงานของแต่ละโครงการได้ ใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นแนวทางในการตัดสินใจลงทุนของคุณ

การเข้าถึง ICO Crypto

④ การซื้อโทเค็นและ Staking

เมื่อเลือกเหรียญ ICO ที่ต้องการได้แล้ว ให้ระบุเหรียญคริปโตที่จะนำมาใช้ชำระเงินและจำนวนที่ต้องการลงทุน ตรวจสอบรายละเอียดให้ครบถ้วน แล้วทำตามขั้นตอนบนหน้าจอเพื่อซื้อให้เสร็จสิ้น เพียงเท่านี้การลงทุนในเหรียญ ICO น่าลงทุนของคุณก็จะเสร็จสมบูรณ์

การซื้อโทเค็น ICO และ Staking

Best Wallet ยังช่วยให้คุณ Stake โทเค็นที่ซื้อได้จากภายในแอปโดยตรง ซึ่งคุณจะได้รับรางวัลเพิ่มเติมจากช่วงพรีเซล ดังนั้น อย่าลืมใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์นี้หล่ะ!

ข้อดีและข้อเสียของ ICO Crypto

ภาพของ ICO เสมือนจริง

ICO เป็นวิธีระดมทุนที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับโครงการเหรียญ Altcoins แต่มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เรามาดูข้อดีและข้อเสียของ ICO จากมุมมองของทั้งทีมพัฒนาโครงการและนักลงทุนอย่างละเอียดกันดีกว่า

ข้อดีและข้อเสียของฝั่งโครงการ

สำหรับทีมพัฒนาที่เปิดตัวโครงการบล็อกเชน ICO มีคุณสมบัติที่หลากหลายเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีระดมทุนแบบดั้งเดิม

ข้อดีของฝ่ายนักพัฒนามีดังนี้

  • อุปสรรคการระดมทุนต่ำ สตาร์ทอัพสามารถหาเงินทุนได้เป็นจำนวนมาก
  • สามารถระดมทุนได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง เช่น บริษัท VC หรือ ธนาคาร เป็นต้น
  • ดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลกแบบข้ามพรมแดน
  • การหาผู้ใช้งานในช่วงเริ่มต้นและการสร้างชุมชนสามารถทำได้พร้อมกัน
  • ต่างจากการออกหุ้น สามารถระดมทุนได้โดยยังคงสิทธิ์การจัดการบริษัทไว้

ในทางกลับกัน ข้อเสียมีดังนี้

  • กฎระเบียบยังไม่แน่นอนและมีความเสี่ยงทางกฎหมาย
  • ตลาดมีความผันผวนสูง อาจจะระดมทุนไม่ได้ตามเป้าหมาย
  • ต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากในการรับรองความโปร่งใสของข้อมูลโครงการและการตอบสนองต่อนักลงทุน
  • มีนักลงทุนเก็งกำไรระยะสั้นจำนวนมาก ทำให้ยากที่จะได้รับความเข้าใจในวิสัยทัศน์ระยะยาว
  • ความผันผวนของราคาโทเค็นหลังจบ ICO เชื่อมโยงโดยตรงกับการประเมินโครงการ

การทำ ICO เสนอช่องทางระดมทุนที่ยืดหยุ่น ไม่ต้องพึ่งสถาบันการเงินแบบเดิม เปิดโอกาสเข้าถึงนักลงทุนทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ในเวลาเดียวกัน พวกเขาเผชิญความท้าทายในรูปแบบของกฎระเบียบที่ยังไม่แน่นอนและความเสี่ยงด้านการประเมินมูลค่าจากการผันผวนของราคาโทเค็น

ข้อดีและข้อเสียของฝ่ายผู้ใช้

สำหรับผู้ใช้งานที่เข้าร่วม ICO ในฐานะนักลงทุนก็มีทั้งข้อดีและความเสี่ยงเช่นกัน ข้อดีสำหรับนักลงทุนมีดังนี้

  • ได้โอกาสลงทุนในโครงการตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น แม้จะมีต้นทุนไม่สูงก็ตาม
  • มีความเป็นไปได้ที่จะซื้อโทเค็นหรือเหรียญมีมได้ในราคาถูกที่สุดก่อนลิสต์เข้าตลาด
  • หากโครงการประสบความสำเร็จ อาจจะได้ผลตอบแทนที่สูงมาก
  • ในบางกรณีอาจจะได้รับสิทธิพิเศษของโครงการหรือแอร์ดรอปเพิ่มเติม
  • สามารถลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ยากจะลงทุนได้ผ่านช่องทางปกติ

ในทางกลับกัน ข้อเสียมีดังนี้

  • ความเสี่ยงสูงจากโครงการหลอกลวงและสแกม
  • มีโอกาสที่โครงการจะล้มเหลวและเงินลงทุนจะกลายเป็นศูนย์
  • การกำกับดูแลไม่เข้มงวด ระบบคุมครองนักลงทุนยังไม่เพียงพอ
  • มีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงราคาเนื่องจากตลาดผันผวนสูง
  • อาจจะไม่สามารถเอาเงินลงทุนกลับคืนได้เนื่องจากสภาพคล่องต่ำหรือข้อจำกัดในการขาย

เมื่อพิจารณาลงทุนในเหรียญ ICO แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องเข้าใจข้อดีและข้อเสียข้างต้นให้ครบถ้วน ตัดสินใจลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เมื่อลงทุน จำเป็นจะต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนเสมอ

ข้อควรระวังของ ICO Crypto

ภาพของ ICO เสมือนจริง

การลงทุนในเหรียญ ICO ใหม่อาจจะให้ผลตอบแทนที่สูง แต่ในทางกลับกันมีความเสี่ยงที่ต้องระวังเช่นกัน ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณจะต้องระวังก่อนทำการลงทุน

  • ความเสี่ยงจากโครงการหลอกลวง
  • ความไม่แน่นอนของกฎระเบียบและความเสี่ยงทางกฎหมาย
  • ความผันผวนสูงและปัญหาสภาพคล่อง

ความเสี่ยงของโครงการหลอกลวง

ในตลาด ICO ถึงแม้ว่าจะมีโครงการถูกต้องตามกฎหมายจำนวนมากที่มีเทคโนโลยีดีๆ อยู่มากมาย แต่ก็มีโครงการหลอกลวงปะปนอยู่ด้วยเช่นกัน โครงการบางส่วนมีจุดประสงค์ที่จะระดมทุนแล้วหลบหนีตั้งแต่แรก รวมทั้งยังมี “Exit Scam” จำนวนมากที่ไม่มีสาระ ดังนั้น คุณจึงต้องระมัดระวังให้ดี

เมื่อซื้อเหรียญ ICO ใหม่ๆ อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลทีมพัฒนา ประวัติการทำงาน แผนงาน และเอกสารข้อมูลโครงการ หากเป็นไปได้ ให้ดูโซเชียลมีเดียของสมาชิกทีมและผลงานในอดีต รวมถึงความคืบหน้าของโค้ดโอเพนซอร์ส กิจกรรมชุมชน และการมีหรือไม่มีการตรวจสอบจากบุคคลที่ 3 ก็เป็นตัวชี้วัดความน่าเชื่อถือได้เช่นกัน

ความไม่แน่นอนของกฎระเบียบและความเสี่ยงทางกฎหมาย

สถานะทางกฎหมายของการทำ ICO จะต่างกันไปตามประเทศและภูมิภาค สภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบนั้นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บางประเทศก็ห้ามโดยสิ้นเชิง ในขณะที่บางประเทศก็อาจจะอยู่ภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์อื่นๆ ในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความเข้าใจเรื่อง Cryptocurrency เริ่มแพร่หลายมากขึ้น เช่น การอนุมัติ Bitcoin ETF เป็นต้น อย่างไรก็ดี ก็ยังมีแค่เพียงไม่กี่ประเทศที่ได้รับการรับรอง ETF

หากนักลงทุนลงทุนใน ICO โดยไม่เข้าใจสถานะทางกฎหมายในประเทศของตน อาจจะต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ เช่น การอายัดทรัพย์สินและข้อจำกัดการซื้อขายจากการดำเนินการของหน่วยงานกำกับดูแลในภายหลัง นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่โครงการจะถูกบังคับให้แก้ไขแผนธุรกิจเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบอย่างกะทันหันได้อีกด้วย

หลังจากประธานาธิบดี Trump เข้ารับตำแหน่ง คาดว่ากฎระเบียบของการทำ ICO อาจจะผ่อนคลายมากกว่าเดิม แต่ก็ยังไม่สามารถคาดเดาได้แน่ชัดว่าจะเป็นอย่างไร ที่สำคัญคือต้องติดตามข่าวสารอยู่เสมอ และถ้าจำเป็น ก็ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย

ความผันผวนสูงและปัญหาสภาพคล่อง

เหรียญคริปโตใหม่ๆ เช่น Pi Network มักจะมีความผันผวนสูงมาก จึงไม่น่าแปลกในที่ราคาจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในทันทีหลังจากลิสต์เข้าตลาดซื้อขาย หรือ ลดลงเกือบศูนย์ในระยะเวลาสั้น นอกจากนี้ โทเค็น ICO หลายตัวอาจเข้าตลาดซื้อขายได้ช้า หรือ ขายได้เฉพาะในตลาดเล็กๆ ทำให้เกิดปัญหาเรื่องสภาพคล่องในการซื้อขายได้

เมื่อขาดสภาพคล่อง ก็อาจจะเกิดสถานการณ์ที่นักลงทุนไม่สามารถขายในช่วงเวลาที่ต้องการ นำไปสู่ความเสี่ยงที่โทเค็นที่ถือครองไว้จะถูกแช่แข็ง ดังนั้น เราจึงควรลงทุนเฉพาะเงินทุนที่เสียไปแล้วสามารถยอมรับได้ และคำนึงถึงการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนทั้งหมด

สรุป

ในบทความนี้ เราได้อธิบายเกี่ยวกับกระบวนการทำ ICO Crypto ทั้งหมดไปเรียบร้อยแล้ว โครงการ ICO ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนเหรียญคริปโต เพราะอาจจะช่วยให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงในระยะเวลาสั้น แต่การซื้อก็มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน การอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ เช่น CrytoDnes หรือ ICOBench ที่เชี่ยวชาญในด้านเหรียญ ICO ใหม่ๆ โดยเฉพาะก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ

ในปี 2025 มีการคาดการณ์กันว่า Altcoin Season จะวนกลับมาอีกครั้ง ดังนั้น การซื้อเหรียญ ICO ในราคาถูกสะสมไว้ก็อาจจะเป็นแนวทางที่ดี ซึ่งอาจจะช่วยให้ได้รับผลตอบแทนมหาศาลเหมือนที่ Ethereum เคยทำมาก่อนแล้ว หากคุณสนใจ ลองเข้าร่วมโครงการ ICO ที่เรานำเสนอไปในบทความนี้ดูอีกครั้ง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ICO Crypto

ICO ผิดกฎหมายหรือไม่?

ICO คืออะไร?

ความเสี่ยงของ ICO คืออะไร?

เอกสารอ้างอิง

พิมพ์ใจ เป็น นักวิเคราะห์ตลาดการเงินที่มีประสบการณ์มากกว่า 8 ปี โดยเริ่มต้นจากการเป็น Day Trader ในตลาดหุ้นไทยก่อนจะเปลี่ยนมาโฟกัสที่ตลาดคริปโตเต็มตัวในปี 2018 ปัจจุบัน นอกจากงานเขียนแล้ว เธอยังเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุนดิจิทัลแอสเซ็ทให้กับกองทุนรวมหลายแห่ง และเป็นวิทยากรในงานประชุมระดับชาติอย่าง Asia Blockchain Summit พิมพ์ใจผสานความเข้าใจด้านจิตวิทยาการลงทุน การวิเคราะห์เทคนิค และพฤติกรรมตลาดเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างเนื้อหาที่ช่วยให้ผู้อ่านเรียนรู้กลยุทธ์การเทรดที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ อ่านสัญญาณตลาดและจัดการความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม ไม่ใช่เพียงคาดเดาหรือใช้อารมณ์เท่านั้น