ราคา Bitcoin (BTC) พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในวันนี้ โดยทะยานขึ้น 2.2% ในรอบ 24 ชั่วโมง แตะระดับสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์ที่ 109,945 ดอลลาร์ การปรับตัวขึ้นของ Bitcoin ครั้งนี้ได้รับแรงหนุนสำคัญจากปัจจัยมหภาคอย่างปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ (M2) ที่ขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และอุปสงค์การซื้อ Bitcoin ในตลาดสปอตที่แข็งแกร่งจากนักลงทุนสถาบัน บทวิเคราะห์นี้จะเจาะลึกถึงปัจจัยเบื้องหลังที่ผลักดันราคา Bitcoin และแนวโน้มในอนาคตของ Bitcoin ที่นักลงทุนต้องจับตา
เปิดปัจจัยหนุนราคา Bitcoin ทะยานจากสภาวะมหภาค
ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนราคา Bitcoin ในรอบนี้คือการขยายตัวของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบทั่วโลก หรือ Global Money Supply (M2) ซึ่งล่าสุดได้พุ่งทะลุระดับ 55 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ สภาวะดังกล่าวสะท้อนถึงการเพิ่มขึ้นของสภาพคล่องในระบบการเงินโลก ซึ่งมักจะส่งผลให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ทางเลือกเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ และ Bitcoin ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุด
การที่ปริมาณเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้นทำให้มูลค่าของเงินเฟียตลดลงโดยเปรียบเทียบ ซึ่งเป็นแรงผลักดันโดยตรงให้ราคาของสินทรัพย์ที่มีจำนวนจำกัดอย่าง Bitcoin ปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนจำนวนมากจึงเลือกที่จะจัดสรรเงินทุนเข้ามาในตลาด Bitcoin เพื่อรักษามูลค่าของความมั่งคั่งในระยะยาว การเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin จึงสัมพันธ์กับสภาวะเศรษฐกิจมหภาคอย่างมีนัยสำคัญ
วิเคราะห์ Bitcoin ผ่านตลาดอนุพันธ์และปรากฏการณ์ Short Squeeze
การเพิ่มขึ้นของราคา Bitcoin ยังสะท้อนให้เห็นในตลาดอนุพันธ์อย่างชัดเจน โดยมีปริมาณสัญญาซื้อขายล่วงหน้าคงค้าง (Open Interest) สำหรับ Bitcoin เพิ่มขึ้นถึง 10% หรือคิดเป็นมูลค่าราว 3.2 พันล้านดอลลาร์ การเพิ่มขึ้นนี้ส่วนใหญ่มาจากฝั่ง Long Position ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าราคา Bitcoin จะปรับตัวสูงขึ้นต่อไป
นอกจากนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือการเกิดปรากฏการณ์ Short Squeeze หรือการบีบให้ผู้ที่เปิดสถานะขาย (Short) ต้องรีบปิดสถานะด้วยการซื้อคืน ซึ่งในช่วง 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีสถานะ Short ของ Bitcoin ถูกบังคับปิดไปแล้วกว่า 196 ล้านดอลลาร์ การ Short Squeeze ครั้งนี้ได้ช่วยกำจัดแรงขายและผลักดันให้ราคา Bitcoin สามารถทะลุผ่านแนวต้านสำคัญขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางราคา Bitcoin ในระยะสั้น
Coinbase Premium ชี้ชัด! อุปสงค์ Bitcoin ในสหรัฐฯ แข็งแกร่ง
อีกหนึ่งสัญญาณที่ยืนยันถึงความแข็งแกร่งของอุปสงค์ Bitcoin คือดัชนี Coinbase Premium ซึ่งยังคงรักษาระดับสูงไว้ได้ท่ามกลางการปรับตัวขึ้นของราคา ดัชนีนี้ใช้วัดส่วนต่างของราคา Bitcoin บนแพลตฟอร์ม Coinbase ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนสถาบันและรายย่อยในสหรัฐฯ กับแพลตฟอร์มซื้อขายอื่น ๆ ทั่วโลก
การที่ดัชนี Coinbase Premium อยู่ในระดับสูงบ่งชี้ว่ามีแรงซื้อ Bitcoin ในตลาดสปอตจากฝั่งสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการขึ้นของราคา Bitcoin ในครั้งนี้ไม่ได้มาจากแรงเก็งกำไรในตลาดฟิวเจอร์สเพียงอย่างเดียว แต่มีอุปสงค์ที่แท้จริงคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ทำให้แนวโน้มขาขึ้นของ Bitcoin มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
เจาะกราฟ Bitcoin รายสัปดาห์: แนวโน้มขาขึ้นยังคงแข็งแกร่ง
เมื่อพิจารณาจากกราฟรายสัปดาห์ จะเห็นได้ว่าแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาวของ Bitcoin ยังคงแข็งแกร่งอย่างมาก การเกิด Golden Cross ระหว่างเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 สัปดาห์ (20W MA) และ 100 สัปดาห์ (100W MA) ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2023 ได้สร้างฐานที่มั่นคงให้กับตลาดกระทิงของ Bitcoin

ที่มา: TradingView BTC/USD รายสัปดาห์
แม้ว่าราคา Bitcoin จะมีการย่อตัวลงมาบ้างหลังทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 111,900 ดอลลาร์ แต่โซนราคา 100,000 ดอลลาร์ก็ได้ทำหน้าที่เป็นแนวรับที่สำคัญและแข็งแกร่งสำหรับ Bitcoin โครงสร้างของกราฟที่เส้น 20W MA อยู่สูงกว่า 100W MA อย่างชัดเจน เป็นการยืนยันว่าแนวโน้มขาขึ้นของ Bitcoin ในระยะยาวยังคงดำเนินต่อไป โดยมีแนวต้านถัดไปอยู่ที่โซน 110,000 – 120,000 ดอลลาร์ หากราคา Bitcoin สามารถปิดเหนือโซนนี้ได้ เป้าหมายถัดไปที่ 130,000 ดอลลาร์ก็มีความเป็นไปได้สูง
วิเคราะห์กราฟ Bitcoin รายวัน: สัญญาณ Breakout มาแล้ว?
ในภาพระยะสั้นของกราฟรายวัน ราคา Bitcoin แสดงให้เห็นสัญญาณการ Breakout ที่น่าสนใจ หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ล่าสุดราคา Bitcoin สามารถทะลุผ่านกรอบบนของ Channel Line ขึ้นมาได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกที่บ่งชี้ถึงการกลับมาของโมเมนตัมฝั่งซื้อสำหรับ Bitcoin

ที่มา: กราฟรายวันของ TradingView BTC/USD
แนวต้านถัดไปที่ต้องจับตาคือจุดสูงสุดของเดือนมิถุนายนที่ระดับ 110,750 ดอลลาร์ หาก Bitcoin สามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ จะเป็นการเปิดทางให้ราคามุ่งหน้าไปทดสอบจุดสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง ขณะที่แนวรับสำคัญของ Bitcoin ยังคงอยู่ที่โซน 100,000 ดอลลาร์ ซึ่งมีแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันคอยพยุงอยู่ ที่น่าสนใจคือดัชนี Relative Strength Index (RSI) ยังคงอยู่ในโซนกลางๆ ซึ่งหมายความว่าราคา Bitcoin ยังมีพื้นที่ให้ปรับตัวขึ้นต่อได้อีกโดยที่ตลาดยังไม่เข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought)
สรุป: ตลาดสหรัฐฯ และปัจจัยมหภาคหนุน Bitcoin สู่เป้าหมายใหม่
โดยสรุป การพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin ในครั้งนี้เป็นผลมาจากปัจจัยสนับสนุนที่แข็งแกร่งหลายด้าน ทั้งปัจจัยมหภาคอย่างการขยายตัวของปริมาณเงิน M2 ที่กระตุ้นให้นักลงทุนหันมาถือ Bitcoin เพื่อป้องกันความเสี่ยง และอุปสงค์ที่แท้จริงจากตลาดสปอตในสหรัฐฯ ซึ่งสะท้อนผ่านดัชนี Coinbase Premium นอกจากนี้ ปรากฏการณ์ Short Squeeze ในตลาดอนุพันธ์ยังช่วยเร่งให้ราคา Bitcoin ทะลุแนวต้านสำคัญขึ้นมาได้ ในทางเทคนิค ทั้งกราฟรายสัปดาห์และรายวันต่างก็ชี้ไปยังแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง ทำให้นักลงทุนจำนวนมากคาดการณ์ว่า Bitcoin กำลังเตรียมตัวที่จะสร้างจุดสูงสุดใหม่ในเร็วๆ นี้
พิชญา รัตนวงศ์ เป็นนักข่าวและนักวิเคราะห์ด้านคริปโตเคอเรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชน ผู้มีความเชี่ยวชาญในการถ่ายทอดข้อมูลที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายสำหรับผู้อ่านทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือผู้เชี่ยวชาญในวงการ ด้วยประสบการณ์กว่า 8 ปีในสายงานข่าวการเงินดิจิทัลและการกำกับดูแล Web3 พิชญาเคยร่วมงานกับทั้งสื่อในประเทศและต่างประเทศ เช่น Bangkok Biz, Asia Blockchain Review และ BeInCrypto
เธอมุ่งมั่นในการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้กำหนดนโยบาย ผู้พัฒนาเทคโนโลยี และนักลงทุน พร้อมส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่องกฎระเบียบคริปโตในบริบทไทย-อาเซียน ผลงานของเธอมีจุดเด่นด้านการวิเคราะห์ข่าว DeFi การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ Web3 ที่กำลังเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค