การลงทุนในคริปโตมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง เนื้อหาในเว็บไซต์จัดทำเพื่อให้ข้อมูล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน โปรดอ่านนโยบายบรรณาธิการสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม
บทความนี้อาจมีลิงก์พันธมิตร ซึ่งทางเว็บไซต์อาจได้รับค่าตอบแทนหากผู้อ่านคลิกหรือลงทะเบียนผ่านลิงก์ดังกล่าว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับผู้อ่าน หากคุณยังคงใช้ไซต์นี้ต่อไป แสดงว่าคุณยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขของเรา
การลงทุนในคริปโตมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง เนื้อหาในเว็บไซต์จัดทำเพื่อให้ข้อมูล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน โปรดอ่านนโยบายบรรณาธิการสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม
นักวิเคราะห์จาก Cointelegraph คาดการณ์ว่าราคาอาจมีโอกาสพุ่งทะยานสูงถึง 530% ไปสู่เป้าหมายที่ $14 หากรูปแบบทางเทคนิคที่คล้ายคลึงกับปี 2017 เกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งการทะลุกรอบรูปแบบ Bull Pennant จะเป็นกุญแจสำคัญในการยืนยันแนวโน้มขาขึ้นครั้งใหญ่นี้
ราคา XRP ในปัจจุบันกำลังเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ แต่รูปแบบกราฟทางเทคนิคในภาพรวมรายสัปดาห์กำลังก่อตัวเป็น Bull Pennant ซึ่งเป็นสัญญาณต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้น นักวิเคราะห์หลายรายชี้ว่ารูปแบบนี้มีความคล้ายคลึงกับสถานการณ์ในปี 2017 ที่นำไปสู่การพุ่งขึ้นของราคาอย่างมหาศาล
Mikybull Crypto นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง ได้โพสต์บน X โดยระบุว่า “เคยเห็นภาพยนตร์เรื่องนี้มาก่อน” พร้อมชี้ให้เห็นว่ากราฟราคา XRP ในไทม์เฟรม 3 สัปดาห์ กำลังดำเนินรอยตามรูปแบบของปี 2017 ซึ่งในครั้งนั้นหลังจากการทะลุกรอบ Bull Pennant ราคาได้พุ่งขึ้นกว่า 1,300% สู่จุดสูงสุดตลอดกาลที่ประมาณ $3.40
$XRP
— Mikybull 🐂Crypto (@MikybullCrypto) June 16, 2025
I HAVE SEEN THIS MOVIE BEFORE
2017 UPCOMING RALLY VIBES 👀 pic.twitter.com/5joFCPyViK
ตามทฤษฎี Bull Pennant หากราคา XRP สามารถเบรคทะลุแนวต้านของกรอบสามเหลี่ยมออกไปได้ เป้าหมายราคาต่อไปจะคำนวณจากความสูงของเสาธง (Flag Pole) ก่อนหน้า ซึ่งจะทำให้เป้าหมายราคาของ XRP อยู่ที่ประมาณ $14 หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 530% จากราคาปัจจุบัน
นอกจากการวิเคราะห์รูปแบบกราฟแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่สนับสนุนการคาดการณ์เชิงบวกต่อราคา XRP บทวิเคราะห์ก่อนหน้านี้เคยคาดการณ์ว่า XRP อาจไปถึง $27 โดยใช้ทฤษฎี Elliott Wave และ Fibonacci Extensions ประกอบกัน
นอกเหนือจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้ว ปัจจัยพื้นฐานอย่างคดีความของ Ripple ก็เป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญ โดยมีบทวิเคราะห์ที่ชี้ว่า XRP อาจมีโอกาสพุ่งแตะ $8 หลังคดีจบ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของตลาดต่ออนาคตของเหรียญ
ยิ่งไปกว่านั้น กระแสข่าวเกี่ยวกับการอนุมัติ Spot XRP ETF ในสหรัฐอเมริกาก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ตลาดจับตามอง นักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่าหาก Spot XRP ETF ได้รับการอนุมัติจริง อาจเป็นตัวกระตุ้นให้ราคาพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงถึง 1,100% ไปสู่ระดับ $25 ได้เลยทีเดียว
ในขณะที่ตลาดกำลังรอความชัดเจนจากฝั่งสหรัฐฯ ความเคลื่อนไหวในประเทศอื่นก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยล่าสุดมี ข่าวดีเกี่ยวกับการเปิดตัว XRP ETF ในแคนาดา ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบวกที่ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การคาดการณ์ดังกล่าวเป็นจริง ราคา XRP จำเป็นต้องผ่านแนวต้านสำคัญหลายด่าน โดยด่านแรกที่ต้องจับตาคือแนวต้านที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย 50 วัน (50-day SMA) ที่ระดับ $2.27
นอกเหนือจากแนวต้านทางเทคนิคแล้ว แรงกดดันจากตลาดก็เป็นอีกปัจจัยที่ต้องพิจารณา ซึ่งล่าสุดมีรายงานเกี่ยวกับ การเทขายเหรียญ XRP ของวาฬอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาในระยะสั้นและเป็นอุปสรรคต่อการปรับตัวขึ้น
เป้าหมายที่สำคัญที่สุดสำหรับฝั่งกระทิงคือการผลักดันราคาให้ทะลุและยืนเหนือโซนแนวต้านระหว่าง $2.37 (เส้น 200-day SMA) และ $2.65 ให้ได้ การปิดเหนือระดับนี้จะถือเป็นการยืนยันการกลับตัวเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน และเป็นการเปิดทางให้ราคา XRP มุ่งหน้ากลับไปทดสอบแนวต้านจิตวิทยาที่ $3.00 และอาจไปถึงจุดสูงสุดในรอบ 7 ปีที่ $3.31 ได้ในที่สุด
โดยรวมแล้ว XRP กำลังอยู่ในจุดที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ด้วยสัญญาณทางเทคนิค Bull Pennant ที่อาจซ้ำรอยประวัติศาสตร์ปี 2017 และผลักดันราคาให้พุ่งขึ้นกว่า 530% สู่เป้าหมาย $14 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรจับตาการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่บริเวณเส้น 200-day SMA ซึ่งจะเป็นการยืนยันแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งและเปิดประตูสู่เป้าหมายราคาที่สูงขึ้นต่อไป ทั้งนี้ ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการมองภาพในระยะยาว การศึกษา การวิเคราะห์อนาคตและแนวโน้มราคา XRP จะช่วยให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตและปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบไปจนถึงปี 2030