Home » Analysis » แรงขายหมด สัญญาณมา! Bitcoin ลุ้นแตะ $150K จากแรงซื้อสถาบัน

แรงขายหมด สัญญาณมา! Bitcoin ลุ้นแตะ $150K จากแรงซื้อสถาบัน

มิถุนายน 12, 2025 16:48 2 นาทีที่อ่าน
Disclosure

บทความนี้อาจมีลิงก์พันธมิตร ซึ่งทางเว็บไซต์อาจได้รับค่าตอบแทนหากผู้อ่านคลิกหรือลงทะเบียนผ่านลิงก์ดังกล่าว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับผู้อ่าน หากคุณยังคงใช้ไซต์นี้ต่อไป แสดงว่าคุณยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขของเรา


แบ่งปัน: หุ้น

การลงทุนในคริปโตมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง เนื้อหาในเว็บไซต์จัดทำเพื่อให้ข้อมูล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน โปรดอ่านนโยบายบรรณาธิการสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม

แรงขายหมด สัญญาณมา! Bitcoin ลุ้นแตะ $150K จากแรงซื้อสถาบัน

Bitcoin (BTC) กำลังเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ที่ราคาประมาณ 107,742 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 111,970 ดอลลาร์เพียงเล็กน้อย การชะลอตัวนี้ทำให้นักลงทุนหลายคนสงสัยว่าแรงเทขายที่เกิดขึ้นเป็นเพียงปรากฏการณ์ชั่วคราวหรือไม่ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายรายรวมถึง Michael Saylor กลับมองว่านี่คือสัญญาณก่อนการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่รอบใหม่ที่กำลังจะมาถึง

เปิดสาเหตุแรงขาย Bitcoin: ใครคือคนเทขาย?

Hunter Horsley ซีอีโอของ Bitwise บริษัทจัดการสินทรัพย์คริปโต ชี้ว่าแรงกดดันจากการขายในปัจจุบันส่วนใหญ่มาจาก “นักลงทุนที่ถือ Bitcoin มาอย่างยาวนาน” หรือ Long-Term Holders (LTHs) ซึ่งมีต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่เพียง 34,414 ดอลลาร์ ทำให้พวกเขามีกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (Unrealized Profit) สูงถึง 215% ณ ระดับราคาปัจจุบัน

การเทขายทำกำไรเริ่มเห็นได้ชัดเจนขึ้นหลังจากราคา Bitcoin ทะลุแนวต้านจิตวิทยาที่ 100,000 ดอลลาร์ไปเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม อย่างไรก็ตาม Horsley คาดการณ์ว่าแรงขายนี้จะลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อราคาสามารถทะลุผ่านระดับ 130,000 – 150,000 ดอลลาร์ไปได้ ซึ่งจะทำให้ tâm lý ตลาดเปลี่ยนเป็น “ไม่มีใครอยากขาย” อีกต่อไป

ข้อมูลเชิงลึกจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์ชื่อดังยังช่วยยืนยันแนวโน้มนี้ โดย การวิเคราะห์ on-chain ของ CryptoQuant ล่าสุด ชี้ให้เห็นสัญญาณการถือครอง (HODL) ที่แข็งแกร่ง ซึ่งอาจเป็นความเงียบสงบก่อนการพุ่งขึ้นของราคาครั้งใหญ่

Michael Saylor ชี้ Bitcoin กำลังขาดตลาดอย่างหนัก

ในด้านอุปทาน สภาพคล่องของ Bitcoin ในตลาดกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว ข้อมูลจากโต๊ะซื้อขาย OTC (Over-the-Counter) สำหรับนักลงทุนรายใหญ่บ่งชี้ว่าปริมาณ Bitcoin สำรองกำลังจะหมดลง ซึ่งเป็นสัญญาณของภาวะอุปทานตึงตัว (Supply Squeeze) ที่ชัดเจน

Michael Saylor อดีตซีอีโอของ MicroStrategy และผู้ถือ Bitcoin รายใหญ่ของโลก ได้เน้นย้ำประเด็นนี้ว่า ในขณะที่นักขุด (Miner) มี Bitcoin ออกมาขายเพียงวันละประมาณ 450 BTC แต่ความต้องการซื้อจากสถาบันกลับมีมากกว่านั้นมาก ซึ่งจะส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นโดยธรรมชาติ สะท้อนให้เห็นถึงสมดุลอุปสงค์-อุปทานที่ตึงตัวอย่างยิ่งในตลาดปัจจุบัน

สัญญาณที่ชัดเจนของความต้องการจากฝั่งสหรัฐฯ คือ Coinbase Premium ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับการที่ Bitcoin จำนวนมหาศาลถูกถอนออกจาก Exchange ซึ่งบ่งชี้ถึงการสะสมระยะยาว

สถาบันการเงินหนุน Bitcoin ลุ้นแตะ $150,000

Mike Novogratz ผู้ก่อตั้ง Galaxy Digital บริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล แสดงความเชื่อมั่นว่าการที่ราคา Bitcoin จะไปถึง 130,000 – 150,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้เป็นเรื่องที่มีความเป็นไปได้สูง ปัจจัยสำคัญคือการไหลเข้าของเงินทุนจากนักลงทุนสถาบันและความต้องการสินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

มุมมองนี้สอดคล้องกับความเห็นของผู้บริหารระดับสูงในวงการ โดย CEO Bitwise เชื่อว่า Bitcoin ใกล้แตะ $150K ซึ่งมีแรงซื้อจากสถาบันเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก

มุมมองเชิงบวกนี้สอดคล้องกับการเติบโตของผลิตภัณฑ์อย่าง Bitcoin ETF และบริการรับฝากสินทรัพย์ (Custody) ซึ่งช่วยให้นักลงทุนจากโลกการเงินดั้งเดิมสามารถเข้าถึง Bitcoin ได้ง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น ปรากฏการณ์นี้กำลังเร่งให้สถาบันการเงินขนาดใหญ่เข้ามาในตลาดคริปโตมากขึ้น

กลยุทธ์ใหม่นักลงทุน Bitcoin: ไม่ขาย แต่ใช้ค้ำประกัน

Hunter Horsley คาดการณ์ว่าเมื่อราคา Bitcoin เข้าสู่ช่วงขาขึ้นรอบใหม่ นักลงทุนระยะยาวจะเปลี่ยนกลยุทธ์จากการ “ขายทำกำไร” ไปสู่การ “กู้ยืม” โดยใช้ Bitcoin ที่มีอยู่เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อสร้างสภาพคล่องแทน

ปัจจุบัน บริการให้กู้ยืมโดยใช้คริปโตเป็นหลักประกัน (Crypto-backed loans) กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนสามารถนำเงินไปใช้โดยไม่ต้องขายสินทรัพย์ของตนเอง การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนี้จะช่วยลดแรงขายในตลาดและยิ่งทำให้ภาวะอุปทานตึงตัวรุนแรงขึ้นไปอีก Horsley สรุปว่า “อุปทานของ Bitcoin จะไม่เพียงพอต่อความต้องการ” ซึ่งอาจนำไปสู่การพุ่งขึ้นของราคาอย่างรวดเร็ว

วิเคราะห์กราฟ Bitcoin รายสัปดาห์: แนวโน้มขาขึ้นยังแกร่ง

ในภาพรวมระยะยาว กราฟรายสัปดาห์ของ Bitcoin แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งอย่างชัดเจน สัญญาณ Golden Cross ซึ่งเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 สัปดาห์ (20W MA) ตัดขึ้นเหนือเส้น 100 สัปดาห์ (100W MA) เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 และเป็นจุดเริ่มต้นของตลาดกระทิงรอบนี้

กราฟ Bitcoin รายสัปดาห์: แนวโน้มขาขึ้นยังแกร่ง

ปัจจุบัน แนวรับสำคัญในภาพใหญ่จะอยู่ที่บริเวณ 100,000 ดอลลาร์ ในขณะที่แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตาคือโซน 115,000 – 120,000 ดอลลาร์ หากสามารถทะลุผ่านไปได้อย่างมั่นคง ก็มีโอกาสสูงที่จะได้เห็นราคาพุ่งไปทดสอบระดับ 130,000 ดอลลาร์ต่อไป

จับตากราฟ Bitcoin รายวัน: ลุ้นเบรคแนวต้านสำคัญ

สำหรับภาพระยะสั้น กราฟรายวันแสดงให้เห็นถึงความผันผวนแต่ยังคงมีสัญญาณบวกซ่อนอยู่ โดยล่าสุดเกิดสัญญาณ Golden Cross (20D MA ตัดเหนือ 100D MA) ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงซื้อในระยะสั้น

แนวต้านสำคัญที่ต้องฝ่าไปให้ได้คือ 110,750 ดอลลาร์ หากราคาสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ จะเป็นการเปิดทางให้กลับไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมอีกครั้ง ในทางกลับกัน แนวรับระยะสั้นจะอยู่ที่โซน 106,000 – 107,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด หากหลุดแนวรับนี้อาจมีความเสี่ยงที่จะปรับฐานลงไปที่ 101,000 ดอลลาร์

นอกเหนือจากสัญญาณทางเทคนิคบนกราฟแล้ว ตัวชี้วัดในตลาดอนุพันธ์ก็เริ่มส่งสัญญาณเชิงบวกเช่นกัน โดย แพทเทิร์นการกลับตัวของ Bitcoin Funding Rate บ่งชี้ว่าแรงกดดันจากการขายกำลังลดลงและอาจมีแรงซื้อจากสถาบันเข้ามาเสริม

สรุป: Bitcoin ยังมีแรงส่งอีกเยอะ

โดยรวมแล้ว แม้จะมีความผันผวนและแรงขายทำกำไรในระยะสั้น แต่ปัจจัยพื้นฐานของ Bitcoin ยังคงแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ทั้งภาวะอุปทานที่กำลังตึงตัว, ความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากสถาบันการเงิน, และพฤติกรรมของนักลงทุนระยะยาวที่เปลี่ยนไป ล้วนเป็นปัจจัยบวกที่สนับสนุนการเติบโตของราคาในระยะยาว ตามมุมมองของ Michael Saylor และนักวิเคราะห์ชั้นนำหลายราย สัญญาณเหล่านี้ชี้ชัดว่า Bitcoin ยังมีแรงส่งให้พุ่งทะยานไปสู่จุดสูงสุดใหม่ได้อีกไกล

สำหรับเป้าหมายในระยะยาวนั้นยิ่งน่าจับตามอง เพราะล่าสุด Michael Saylor ได้ฟันธงว่า Bitcoin อาจพุ่งทะลุ 1 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นสูงสุดต่อศักยภาพของสินทรัพย์ดิจิทัลนี้

พิชญา รัตนวงศ์ เป็นนักข่าวและนักวิเคราะห์ด้านคริปโตเคอเรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชน ผู้มีความเชี่ยวชาญในการถ่ายทอดข้อมูลที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายสำหรับผู้อ่านทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือผู้เชี่ยวชาญในวงการ ด้วยประสบการณ์กว่า 8 ปีในสายงานข่าวการเงินดิจิทัลและการกำกับดูแล Web3 พิชญาเคยร่วมงานกับทั้งสื่อในประเทศและต่างประเทศ เช่น Bangkok Biz, Asia Blockchain Review และ BeInCrypto เธอมุ่งมั่นในการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้กำหนดนโยบาย ผู้พัฒนาเทคโนโลยี และนักลงทุน พร้อมส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่องกฎระเบียบคริปโตในบริบทไทย-อาเซียน ผลงานของเธอมีจุดเด่นด้านการวิเคราะห์ข่าว DeFi การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ Web3 ที่กำลังเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค
แบ่งปัน: หุ้น
เพิ่มเติมจาก
ข่าวเด่น