ราคา Bitcoin ดีดตัวขึ้นอย่างน่าจับตาแตะระดับ $105,000 และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เขียนบทความนี้ ราคาอยู่ที่ 107,000 ดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางสัญญาณตลาดที่ขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง ตามรายงานจาก CoinTelegraph, ข้อมูลจาก Coinbase ชี้ถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่งจากนักลงทุนสถาบันในสหรัฐฯ ในขณะที่ Binance กลับแสดงให้เห็นถึงแรงเทขายจากนักลงทุนรายย่อยที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปี สร้างความไม่แน่นอนให้กับทิศทางราคาในระยะสั้น
การดีดตัวขึ้นครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่กลับคืนมาในตลาด โดยมีรายงานว่า Bitcoin ทะยานเข้าใกล้จุดสูงสุดเดิมอีกครั้ง ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่าจับตามองสำหรับนักลงทุน
Coinbase Premium ชี้แรงซื้อสถาบันในสหรัฐฯ หนุน Bitcoin
ดัชนี Coinbase Premium ซึ่งวัดส่วนต่างราคา Bitcoin บนแพลตฟอร์ม Coinbase เทียบกับ Binance ได้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นอันดับสองของปีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงแรงซื้อที่ต่อเนื่องจากนักลงทุนในสหรัฐอเมริกาอย่างชัดเจน
ปัจจัยสำคัญอีกประการที่อาจส่งเสริมแรงซื้อจากฝั่งสถาบันคือการที่ Federal Reserve สหรัฐฯ เปิดทางให้ธนาคารเข้าสู่ตลาดคริปโต ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นและเปิดโอกาสให้เงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้น
ปรากฏการณ์นี้สอดคล้องกับข้อมูลกระแสเงินทุนไหลเข้าใน Spot Bitcoin ETF ที่เป็นบวกเกือบตลอดทั้งเดือนมิถุนายน ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนสถาบันกำลังใช้ ETF เป็นช่องทางในการเข้าซื้อและสะสม Bitcoin อย่างต่อเนื่อง โดยมีงานวิจัยชี้ว่ากระแสเงินทุนไหลเข้า ETF ในวันก่อนหน้ามีความสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของราคาในวันถัดไป ซึ่งเป็นสัญญาณบวกต่อตลาด

การเข้ามาของสถาบันและการยอมรับผ่าน ETF เหล่านี้กำลังผลักดันให้ BTC กลายเป็นสินทรัพย์ระดับมหภาคที่แข็งแกร่งขึ้น โดยมีเทคโนโลยีเลเยอร์ 2 เข้ามาช่วยเสริมศักยภาพในระยะยาว
สวนทาง! Binance เผยรายย่อยแห่ฝาก Bitcoin เข้า Exchange
ในทางตรงกันข้าม ข้อมูลจาก CryptoQuant กลับแสดงให้เห็นว่าเปอร์เซ็นต์เงินทุนไหลเข้าจากลูกค้ารายย่อยบน Binance พุ่งสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับการปรับตัวลงของราคา Bitcoin
ข้อมูล On-chain ยังยืนยันถึงการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของจำนวนเงินฝากเข้า Exchange โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีมูลค่า 0-1 BTC ซึ่ง Maartunn นักวิเคราะห์ On-chain อธิบายว่าพฤติกรรมดังกล่าวไม่ใช่การสะสมเพื่อถือยาว แต่เป็นการส่งสัญญาณถึงความตั้งใจที่จะเทรดหรือทำกำไร ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันต่อราคาได้

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเป็นภาพที่ขัดแย้งกันอย่างชัดเจน โดยแรงซื้อจากสถาบันผ่าน Coinbase อาจช่วยพยุงราคาไว้ ในขณะที่แรงขายจากรายย่อยบน Binance อาจกดดันให้ราคาปรับตัวลงต่อได้อีก
วิเคราะห์ Bitcoin พุ่งจาก Short Squeeze ไม่ใช่ขาขึ้นจริง
การที่ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นกว่า 6.7% จาก $98,300 ไปสู่ $105,000 นั้น มาพร้อมกับการลดลงของ Open Interest (OI) ถึง 10% ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการดีดตัวครั้งนี้เกิดจากการที่นักเทรดฝั่ง Short ถูกบังคับปิดสถานะ (Short Squeeze) ไม่ใช่การเข้ามาเปิดสถานะ Long ใหม่

ข้อมูลเผยว่ามีสถานะ Short มูลค่ากว่า 130 ล้านดอลลาร์ถูกล้างพอร์ต ทำให้นักเทรดกลุ่มนี้ต้องกลับเข้ามาซื้อ Bitcoin คืน ซึ่งสอดคล้องกับการดีดตัวของราคาอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การที่ Funding Rate เริ่มกลับมาสูงขึ้นโดยที่ OI ไม่ได้เพิ่มตาม อาจเป็นสัญญาณของภาวะตลาดที่อ่อนแรงลง
สำหรับทิศทางต่อไป หาก Bitcoin ต้องการไปต่อในแนวโน้มขาขึ้น จำเป็นต้องมีปริมาณการซื้อที่ยั่งยืนและ OI ที่ฟื้นตัวกลับมา เพื่อยืนยันว่ามีผู้เล่นใหม่เข้ามาในตลาด โดยมีแนวต้านสำคัญที่ $108,500 แต่หากราคากลับไปทดสอบแนวรับที่ $102,000 และปริมาณการซื้อขายลดลง อาจเป็นการส่งสัญญาณการปรับฐานที่ลึกกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของนักวิเคราะห์บางรายยังคงเชื่อมั่นในแนวโน้มขาขึ้น โดยมีผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า Bitcoin ยังคงเป็นขาขึ้นตราบใดที่ราคายืนเหนือระดับสำคัญได้ ซึ่งเป็นสัญญาณที่นักลงทุนควรจับตามองควบคู่ไปกับปัจจัยทางเทคนิคอื่นๆ
สรุป: Bitcoin ท่ามกลางสัญญาณตลาดขัดแย้ง นักลงทุนควรทำอย่างไร?
สถานการณ์ของ Bitcoin ในปัจจุบันเต็มไปด้วยความซับซ้อน การฟื้นตัวของราคาเกิดจาก Short Squeeze เป็นหลัก ในขณะที่สัญญาณพื้นฐานจากตลาดยังคงขัดแย้งกันระหว่างแรงซื้อของสถาบันบน Coinbase และแรงขายของรายย่อยบน Binance นักลงทุนจึงควรใช้ความระมัดระวังและติดตามปริมาณการซื้อขายและ Open Interest อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินว่าการฟื้นตัวครั้งนี้จะสามารถพัฒนาไปสู่ขาขึ้นที่ยั่งยืนได้หรือไม่
จากความผันผวนและสัญญาณที่ขัดแย้งกันนี้ ทำให้นักลงทุนจำนวนมากเกิดคำถามสำคัญว่า บิทคอยน์ลงทุนตอนนี้ยังทันไหม และควรพิจารณาจากปัจจัยใดบ้างในการตัดสินใจ
พิชญา รัตนวงศ์ เป็นนักข่าวและนักวิเคราะห์ด้านคริปโตเคอเรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชน ผู้มีความเชี่ยวชาญในการถ่ายทอดข้อมูลที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายสำหรับผู้อ่านทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือผู้เชี่ยวชาญในวงการ ด้วยประสบการณ์กว่า 8 ปีในสายงานข่าวการเงินดิจิทัลและการกำกับดูแล Web3 พิชญาเคยร่วมงานกับทั้งสื่อในประเทศและต่างประเทศ เช่น Bangkok Biz, Asia Blockchain Review และ BeInCrypto
เธอมุ่งมั่นในการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้กำหนดนโยบาย ผู้พัฒนาเทคโนโลยี และนักลงทุน พร้อมส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่องกฎระเบียบคริปโตในบริบทไทย-อาเซียน ผลงานของเธอมีจุดเด่นด้านการวิเคราะห์ข่าว DeFi การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ Web3 ที่กำลังเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค