Dogecoin จุดกระแส Meme coin! เปิด 4 เหรียญใหม่ลุ้น 1,000 เท่าตาม

ตลาดเหรียญมีมกำลังร้อนแรงอีกครั้ง โดยมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 6.84 หมื่นล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2025 ภาคส่วนนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2024 และยังคงดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่องในปี 2025 โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการเกิดใหม่ที่เปิดขายโทเค็นล่วงหน้า ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ตลาดคึกคัก บทความนี้จะเจาะลึก 5 เหรียญมีมที่น่าจับตาในเดือนมิถุนายน 2025 ซึ่งมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนมหาศาล รวมถึง Dogecoin ที่ยังคงเป็นผู้นำตลาด

Dogecoin ผู้นำตลาดมีมคอยน์ ยังคงครองตำแหน่งสำคัญ

Dogecoin (DOGE) ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกเหรียญมีม ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดนี้ไว้ได้ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2025 ราคาซื้อขายของ Dogecoin อยู่ที่ประมาณ 0.22 ดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงกับจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 0.73 ดอลลาร์ที่บันทึกไว้ในเดือนพฤษภาคม 2021

Dogecoin เริ่มต้นจากการเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นเพื่อความสนุกสนาน แต่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในชุมชนคริปโต เนื่องจากมีโลโก้ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสุนัข Shiba Inu ของญี่ปุ่น และกลายเป็นสัญลักษณ์ของเหรียญมีม การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจาก Elon Musk ยังช่วยหนุนราคาให้สูงขึ้น และความคาดหวังในการพุ่งขึ้นอีกครั้งก็เพิ่มขึ้นพร้อมกับการมาถึงของฤดูกาลเหรียญมีมครั้งใหม่ หากคุณต้องการข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มของ Dogecoin คุณสามารถศึกษาบทความ มั่นใจ Dogecoin ขาขึ้น Heikin Ashi แสดงรูปแบบ 3 เหลี่ยมลูกที่ 2! เพื่อทำความเข้าใจสัญญาณทางเทคนิคที่อาจบ่งชี้ถึงการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต

Shiba Inu กลับมาน่าจับตา หลังตลาดกลับสู่ภาวะกระทิง

Shiba Inu (SHIB) ซึ่งเป็นเหรียญมีมที่มีมูลค่าตลาดรองจาก Dogecoin กำลังกลับมาได้รับความสนใจจากตลาดอีกครั้ง SHIB เคยทำราคาสูงสุดตลอดกาลที่ 0.00008616 ดอลลาร์ในเดือนตุลาคม 2021 แต่หลังจากนั้นราคาก็ลดลงตามการปรับฐานของตลาดคริปโตโดยรวม อย่างไรก็ตาม ด้วยการกลับมาของตลาดกระทิง SHIB ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 0.00001475 ดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งยังคงมีโอกาสในการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

ในฐานะคู่แข่งสำคัญของ Dogecoin คาดว่า Shiba Inu จะมีราคาเพิ่มขึ้นอีกในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากตลาดเหรียญมีมกลับมาคึกคักอีกครั้ง

นองจากเหรียญมีมต้นฉบับอย่าง Dogecoin และ Shiba Inu แล้ว ยังมีอีก 4 เหรียญเปิดใหม่ที่กำลังได้รับกระแสอย่างท่วมท้นตามสื่อต่างๆ เนื่องจากมีศักยภาพเป็นเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนแห่งปี 2025 ดังต่อไปนี้

1. Solaxy (SOLX) โซลูชัน Layer 2 แรกบน Solana พร้อมระดมทุนกว่า 44 ล้านดอลลาร์

Solaxy (SOLX) เป็นหนึ่งในโครงการที่น่าจับตาที่สุดในขณะนี้ โครงการนี้กำลังดำเนินการขายโทเค็นล่วงหน้า และระดมทุนได้แล้วกว่า 44 ล้านดอลลาร์ Solaxy (SOLX) พัฒนาขึ้นเป็นโซลูชัน Layer 2 แรกบน Solana โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาความแออัดของเครือข่าย Solana

โครงการนี้วางแผนที่จะนำเสนอโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาของเครือข่าย Solana ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา การขายโทเค็นล่วงหน้าจะสิ้นสุดลงในอีก 17 วันข้างหน้า หลังจากนั้นมีแผนที่จะลิสต์บนกระดานแลกเปลี่ยนหลักหลายแห่ง การเติบโตของ Solaxy อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อตลาดเหรียญมีมโดยรวม ซึ่งคุณสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคาดการณ์ราคาและศักยภาพของ Solaxy ได้ในบทความ Dogecoin พุ่งไม่หยุด! ChatGPT คาดราคาแตะ $0.70 ผนวก Solaxy พร้อมเติบโต 8,500%

2. BTC Bull Token (BTCBULL) มอบรางวัล Bitcoin และกลยุทธ์ลดอุปทาน

BTC Bull Token (BTCBULL) ดึงดูดความสนใจในฐานะเหรียญมีมที่มีระบบรางวัลที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเชื่อมโยงกับราคา Bitcoin นอกจากนี้ ผู้ถือโทเค็นยังสามารถรับ Bitcoin (BTC) ได้จากการ Stake โทเค็น

โครงการนี้ใช้กลยุทธ์การแจกจ่ายโทเค็น (airdrop) และการเผาโทเค็น (token burn) อย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาระดับแรงกดดันด้านราคาให้สูงขึ้น ซึ่งจะกระตุ้นให้นักลงทุนถือโทเค็นต่อไป และในขณะเดียวกันก็ลดอุปทานลง ทำให้ราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในการขายโทเค็นล่วงหน้า โครงการระดมทุนได้แล้วกว่า 6.6 ล้านดอลลาร์ และปัจจุบันสามารถซื้อโทเค็นได้ในราคา 0.002535 ดอลลาร์ต่อโทเค็น

3. Snorter Token (SNORT) บอทเทรดมีมสุดล้ำบน Solana

Snorter Token ($SNORT) เป็นเหรียญมีมใหม่ที่ผสานการใช้งานจริง ด้วยการเป็นโทเค็นหลักของ Snorter Bot ซึ่งเป็นบอทเทรดบน Telegram ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยนักเทรดในการสไนป์เหรียญมีมใหม่ๆ, คัดลอกการเทรดของผู้เล่นชั้นนำ และตั้งคำสั่งลิมิตออร์เดอร์ได้อย่างรวดเร็ว บอทนี้มีความสามารถในการตรวจจับเหรียญหลอกลวงและป้องกันการถูกดึงราคา (rug pull) ด้วยความแม่นยำถึง 85%

ผู้ถือ $SNORT จะได้รับส่วนลดค่าธรรมเนียมการเทรด และสามารถรับผลตอบแทนจากการสเตคสูงสุดถึง 853% APY ในช่วงพรีเซล ปัจจุบัน พรีเซลของ Snorter Token ได้ระดมทุนไปแล้วกว่า $400,000 และกำลังได้รับความสนใจอย่างมากจากชุมชนคริปโต

4. Bitcoin Hyper (HYPER) ปลดล็อกศักยภาพใหม่ของ Bitcoin ด้วย Layer 2

Bitcoin Hyper ($HYPER) เป็นโครงการ Layer 2 ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขข้อจำกัดของ Bitcoin ดั้งเดิม เช่น ความเร็วในการทำธุรกรรมที่ช้า ค่าธรรมเนียมสูง และการขาดความสามารถในการรองรับสมาร์ทคอนแทรกต์ โดยใช้เทคโนโลยี Solana Virtual Machine (SVM) และสะพานเชื่อมแบบกระจายศูนย์ (canonical bridge) เพื่อเพิ่มความสามารถในการปรับขนาดและรองรับการใช้งาน dApps บนเครือข่าย Bitcoin

พรีเซลของ $HYPER กำลังดำเนินการอยู่ โดยมีการเสนอผลตอบแทนจากการสเตคสูงถึง 5,480% APY สำหรับผู้ลงทุนระยะแรก โครงการนี้ได้รับการตรวจสอบความปลอดภัยจาก Coinsult และมีแผนที่จะเปิดตัว Mainnet ภายในปี 2025

หากคุณสนใจเหรียญที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงในอนาคต คุณอาจสนใจบทความ XRP นำทัพ! 4 Altcoin ศักยภาพพุ่ง x1000 ในปี 2025 ซึ่งอาจมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหรียญที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนมหาศาล

บทสรุป

ตลาดเหรียญมีมยังคงเป็นพื้นที่ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการสร้างผลตอบแทนสูง แม้ว่า Dogecoin และ Shiba Inu จะยังคงเป็นผู้เล่นหลัก แต่โครงการใหม่ๆ อย่าง Solaxy, BTC Bull Token, Snorter Token และ BTC Hyper ก็กำลังสร้างคลื่นลูกใหม่ด้วยนวัตกรรมและกลยุทธ์ที่น่าสนใจ การระดมทุนที่ประสบความสำเร็จในการขายโทเค็นล่วงหน้า แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในศักยภาพของเหรียญเหล่านี้ ซึ่งอาจนำไปสู่การเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคตอันใกล้

Phitchaya Rattanavong

พิชญา รัตนวงศ์ เป็นนักข่าวและนักวิเคราะห์ด้านคริปโตเคอเรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชน ผู้มีความเชี่ยวชาญในการถ่ายทอดข้อมูลที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายสำหรับผู้อ่านทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือผู้เชี่ยวชาญในวงการ ด้วยประสบการณ์กว่า 8 ปีในสายงานข่าวการเงินดิจิทัลและการกำกับดูแล Web3 พิชญาเคยร่วมงานกับทั้งสื่อในประเทศและต่างประเทศ เช่น Bangkok Biz, Asia Blockchain Review และ BeInCrypto เธอมุ่งมั่นในการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้กำหนดนโยบาย ผู้พัฒนาเทคโนโลยี และนักลงทุน พร้อมส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่องกฎระเบียบคริปโตในบริบทไทย-อาเซียน ผลงานของเธอมีจุดเด่นด้านการวิเคราะห์ข่าว DeFi การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ Web3 ที่กำลังเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค