บริษัท Trump Media and Technology Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Truth Social, Truth+ และ Truth.Fi ได้สร้างความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในวงการคริปโต ด้วยการประกาศผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ GlobalNewswire อย่างเป็นทางการว่าบริษัทได้ถือครอง Bitcoin และหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin เป็นมูลค่ารวมประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นก้าวที่น่าจับตามองภายใต้กลยุทธ์คลังสินทรัพย์ Bitcoin (Bitcoin Treasury Strategy) ที่บริษัทได้เคยเปิดเผยไว้ก่อนหน้านี้ การลงทุนใน Bitcoin ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นอย่างสูงต่ออนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัล
ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ ทำให้ปัจจุบัน Trump Media and Technology Group เป็นบริษัทผู้ถือครอง Bitcoin ที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก โดยมี Bitcoin ในคลัง 18,430 BTC
เจาะลึกกลยุทธ์คลัง Bitcoin สัดส่วนสองในสามของสินทรัพย์
เมื่อก่อนหน้านี้เราได้รายงานไปว่า Truth Social ได้แสดงความมุ่งมั่นในการรวบรวมสินทรัพย์ดิจิทัลหลากหลายชนิด รวมถึง Bitcoin ผ่าน การยื่นขอจัดตั้งกองทุนคริปโต ETF ต่อ ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ ซึ่งมีสัดส่วน Bitcoin อยู่ถึง 70% เมื่อเปรียบเทียบอีก 4 เหรียญ Altcoins เช่น ETH, XRP, SOL และ CRO. ซึ่งเป็นการตอกย้ำท่าทีของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีต่อวงการคริปโตโดยรวม โดยมีการวิเคราะห์ว่าอาจส่งผลดีต่อเหรียญอื่น นอกเหนือจาก Bitcoin ด้วย
จากการประกาศล่าสุดวันนี้ สินทรัพย์ Bitcoin ที่ Trump Media ถือครองอยู่มีสัดส่วนคิดเป็นเกือบสองในสามของสินทรัพย์สภาพคล่องทั้งหมดของบริษัทซึ่งมีมูลค่ารวม 3 พันล้านดอลลาร์ การลงทุนใน Bitcoin ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการจัดสรรเงินทุนครั้งสำคัญ นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดสรรเงินทุนอีก 300 ล้านดอลลาร์สำหรับกลยุทธ์ที่ใช้ออปชันซึ่งมุ่งเน้นไปที่หลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin โดยตรง
ตามแถลงการณ์ ออปชันเหล่านี้สามารถแปลงเป็น Bitcoin ในรูปแบบ Spot ได้ ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดในขณะนั้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในกลยุทธ์การลงทุนของบริษัท ยิ่งไปกว่านั้น Trump Media ยังคงมีเป้าหมายที่จะเข้าซื้อ Bitcoin และสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเพิ่มเติมในอนาคต ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าการเดิมพันใน Bitcoin ครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
Bitcoin ในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงและสร้างระบบนิเวศการเงิน
นาย Devin Nunes ซีอีโอของ Trump Media ได้กล่าวถึงการเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงทั้งในด้านการเงินและกลยุทธ์ เขาระบุว่า “เรากำลังดำเนินการตามกลยุทธ์ที่ได้ประกาศต่อสาธารณะอย่างต่อเนื่อง และบรรลุแผนการคลัง Bitcoin ของเรา สินทรัพย์เหล่านี้ช่วยรักษาอิสรภาพทางการเงินของบริษัท ปกป้องเราจากการเลือกปฏิบัติของสถาบันการเงิน” การถือครอง Bitcoin จึงเป็นมากกว่าการลงทุน แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความมั่นคง
การสะสม Bitcoin ยังสอดคล้องกับเป้าหมายที่กว้างขึ้นของ Trump Media ในด้านสตรีมมิ่ง โซเชียลมีเดีย และฟินเทค บริษัทกำลังสร้างระบบนิเวศทางการเงิน ซึ่งรวมถึง Truth.Fi และ Utility Token ที่มีแผนจะเปิดตัวเพื่อใช้งานบนแพลตฟอร์มต่างๆ ในเครือ การนำ Bitcoin มาใช้เป็นสินทรัพย์สำรองเชิงกลยุทธ์สะท้อนถึงแนวโน้มที่กำลังเติบโตในหมู่บริษัทขนาดใหญ่ทั่วโลกที่มองเห็นคุณค่าของ Bitcoin ในระยะยาว
การตัดสินใจของ Trump Media ที่จะทุ่มเงินลงทุนมหาศาลใน Bitcoin ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่ส่งผลกระทบต่อวงการคริปโตอย่างมีนัยสำคัญ การกระทำดังกล่าวไม่เพียงแต่ทำให้บริษัทกลายเป็นหนึ่งในผู้ถือครอง Bitcoin รายใหญ่ที่สุดในโลก แต่ยังเป็นการประกาศจุดยืนที่ชัดเจนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์สำรองและเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน การลงทุนใน Bitcoin ครั้งนี้อาจเป็นแรงผลักดันให้บริษัทอื่นๆ หันมาพิจารณาคริปโตเคอร์เรนซีอย่างจริงจังมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น อิทธิพลของทรัมป์ยังขยายไปถึงระดับนโยบาย ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยได้พิจารณา เหรียญคริปโตที่น่าลงทุนสำหรับแผนการเกษียณ ในอนาคต
พิชญา รัตนวงศ์ เป็นนักข่าวและนักวิเคราะห์ด้านคริปโตเคอเรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชน ผู้มีความเชี่ยวชาญในการถ่ายทอดข้อมูลที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายสำหรับผู้อ่านทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือผู้เชี่ยวชาญในวงการ ด้วยประสบการณ์กว่า 8 ปีในสายงานข่าวการเงินดิจิทัลและการกำกับดูแล Web3 พิชญาเคยร่วมงานกับทั้งสื่อในประเทศและต่างประเทศ เช่น Bangkok Biz, Asia Blockchain Review และ BeInCrypto
เธอมุ่งมั่นในการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้กำหนดนโยบาย ผู้พัฒนาเทคโนโลยี และนักลงทุน พร้อมส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่องกฎระเบียบคริปโตในบริบทไทย-อาเซียน ผลงานของเธอมีจุดเด่นด้านการวิเคราะห์ข่าว DeFi การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ Web3 ที่กำลังเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค