Home » Bitcoin ส่งสัญญาณอันตราย? ผู้ถือเหรียญมานานเริ่มเทขาย

Bitcoin ส่งสัญญาณอันตราย? ผู้ถือเหรียญมานานเริ่มเทขาย

19.07.2025 3:32 2 นาทีที่อ่าน Pimjai Visawakul
Disclosure

บทความนี้อาจมีลิงก์พันธมิตร ซึ่งทางเว็บไซต์อาจได้รับค่าตอบแทนหากผู้อ่านคลิกหรือลงทะเบียนผ่านลิงก์ดังกล่าว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับผู้อ่าน หากคุณยังคงใช้ไซต์นี้ต่อไป แสดงว่าคุณยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขของเรา


แบ่งปัน: หุ้น

การลงทุนในคริปโตมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง เนื้อหาในเว็บไซต์จัดทำเพื่อให้ข้อมูล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน เนื้อหาบางส่วนอาจมี Affiliate Links ซึ่งเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่น โปรดอ่าน Affiliate Disclaimer และนโยบายบรรณาธิการสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม

Bitcoin ส่งสัญญาณอันตราย? ผู้ถือเหรียญมานานเริ่มเทขาย

ในขณะที่ราคา Bitcoin (BTC) ยังคงสร้างสถิติสูงสุดใหม่ (ATH) อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดพุ่งแตะระดับ $123,218 บน Binance ข้อมูลบนบล็อกเชน (On-chain data) กลับเผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ถือเหรียญที่น่าสนใจ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงภาวะอ่อนแรงของตลาดกระทิงในปัจจุบัน

ความเคลื่อนไหวที่สวนทางกันระหว่างนักลงทุนระยะยาวและนักลงทุนระยะสั้นกำลังกลายเป็นจุดที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ว่าทิศทางของ Bitcoin ในอนาคตจะเป็นอย่างไร บทความนี้จะเจาะลึกข้อมูลดังกล่าวเพื่อวิเคราะห์โมเมนตัมของตลาด BTC อย่างละเอียด

เจาะลึกข้อมูล: ผู้ถือ Bitcoin ระยะยาวเริ่มทยอยขายทำกำไร

ข้อมูลจาก CryptoQuant โดยนักวิเคราะห์นามแฝง IT Tech ชี้ให้เห็นว่ากลุ่มผู้ถือ Bitcoin ระยะยาว (Long-Term Holders – LTH) หรือผู้ที่ถือ BTC นานกว่า 155 วัน ได้เปลี่ยนสถานะเข้าสู่ช่วง “การกระจายสินทรัพย์สุทธิ” (Net Distribution) แล้ว นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่านักลงทุนกลุ่มที่มีประสบการณ์กำลังเริ่มเทขาย Bitcoin เพื่อทำกำไรหลังจากราคาพุ่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

การกระจายสินทรัพย์สุทธิของ Bitcoin
ที่มา CryptoQuant

พฤติกรรมดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่ในตลาด Bitcoin จากข้อมูลในอดีตพบว่าเคยเกิดเหตุการณ์คล้ายกันนี้มาแล้วในเดือนเมษายน 2021 และพฤศจิกายน 2023 ซึ่งทั้งสองครั้งตลาด Bitcoin ได้เข้าสู่ช่วงชะลอตัวหรือสร้างจุดสูงสุดเฉพาะที่ (Local Top) หลังจากนั้นไม่นาน เมื่ออุปสงค์ในตลาด Spot เริ่มแผ่วลง

เพื่อยืนยันสมมติฐานนี้ IT Tech แนะนำให้จับตาดูปริมาณ Bitcoin ที่ไหลเข้าสู่กระดานเทรด (Exchange Inflows) และอัตรา Funding Rate อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ข้อมูลจากตัวชี้วัด Spent Output Value Ranges (SOVR) ยังสนับสนุนมุมมองนี้ โดยแสดงให้เห็นการโอน Bitcoin จำนวนมากจากกระเป๋าเงินที่ถือครอง 1,000 ถึง 10,000 BTC ซึ่งมักเป็นของนักลงทุนรายใหญ่หรือ ‘วาฬ’ ไปยังกระดานเทรด

Bitcoin Exchange Inflows
ที่มา CryptoQuant

หากแรงขายจากผู้ถือ Bitcoin กลุ่มนี้เพิ่มขึ้นจริง อาจทำให้ราคา BTC ปรับฐานลงไปทดสอบแนวรับที่ประมาณ $111,800 ได้

นักลงทุนรายใหม่แห่ซื้อ Bitcoin สวนกระแสความกังวล

ในทางกลับกัน กลุ่มผู้ถือ Bitcoin ระยะสั้น (Short-Term Holders – STH) หรือผู้ที่ถือ BTC น้อยกว่า 155 วัน กลับมีพฤติกรรมที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง โดยข้อมูลล่าสุดชี้ว่ากลุ่มนี้ได้กลายเป็น “ผู้ซื้อสุทธิ” (Net Positive) ซึ่งหมายความว่าพวกเขากำลังเข้าซื้อ Bitcoin ท่ามกลางการพุ่งขึ้นของราคา โดยคาดหวังว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้นไปอีก

สำหรับนักลงทุนรายใหม่ที่กำลังสนใจเข้าสู่ตลาด การทำความเข้าใจขั้นตอนการลงทุนที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง สามารถศึกษา คู่มือวิธีซื้อบิทคอยน์สำหรับผู้เริ่มต้น เพื่อเป็นแนวทางในการลงทุนได้อย่างปลอดภัย

ปรากฏการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาของนักลงทุนรายใหม่หรือรายย่อยที่อาจเข้าสู่ตลาดด้วยความกลัวที่จะพลาดโอกาส (FOMO) และมีความเชื่อมั่นสูงว่าราคา Bitcoin จะยังคงเป็นขาขึ้นต่อไป การที่นักลงทุนกลุ่มนี้เข้ามาซื้อสวนแรงขายของกลุ่มผู้ถือระยะยาว ทำให้เกิดการเปลี่ยนมือของ Bitcoin ครั้งสำคัญ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ตลาดกำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม การที่นักลงทุนระยะสั้นเข้ามาซื้อจำนวนมากอาจเป็นดาบสองคม แม้จะช่วยพยุงราคา Bitcoin ไว้ในระยะสั้น แต่หากตลาดเกิดการกลับตัวอย่างรุนแรง นักลงทุนกลุ่มนี้มักจะเป็นกลุ่มแรกที่เทขายด้วยความตื่นตระหนก (Panic Sell) ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อราคา Bitcoin ได้ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลที่น่าสนใจว่ากระแส FOMO อาจไม่ได้จำกัดอยู่แค่ใน Bitcoin เท่านั้น แต่กำลังเริ่มเปลี่ยนทิศทางไปยังสินทรัพย์อื่นด้วยเช่นกัน โดยมี ข้อมูลชี้ว่ากระแส FOMO เริ่มย้ายไปสู่ Ethereum ซึ่งอาจส่งผลต่อภาพรวมของตลาดคริปโตในอนาคต

Bitcoin Hyper ($HYPER) โอกาสใหม่บน Layer-2 ของ Bitcoin

ท่ามกลางความผันผวนของราคา Bitcoin นักลงทุนบางส่วนเริ่มมองหาโอกาสการเติบโตในโปรเจกต์ที่เกี่ยวข้องกับระบบนิเวศของ Bitcoin โดยตรง และหนึ่งในนั้นที่น่าจับตาคือ Bitcoin Hyper ($HYPER) ซึ่งเป็นโปรเจกต์ Layer-2 รุ่นบุกเบิกที่สร้างบนเทคโนโลยี Solana Virtual Machine (SVM) โดยมีเป้าหมายเพื่อปลดล็อกศักยภาพใหม่ของ Bitcoin ให้เป็นมากกว่าสินทรัพย์เก็บมูลค่า แต่กลายเป็นเครือข่ายความเร็วสูงที่ใช้งานได้จริงในโลก DeFi และ dApps

Bitcoin Hyper ($HYPER) โอกาสใหม่บน Layer-2 ของ Bitcoin

Bitcoin Hyper เข้ามาแก้ปัญหาดั้งเดิมของ Bitcoin ที่มีความช้าและค่าธรรมเนียมสูง ด้วยการสร้าง “ชั้นที่ 2” ที่สามารถประมวลผลธุรกรรมได้หลายหมื่นรายการต่อวินาทีด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำมาก โดยยังคงความปลอดภัยผ่านการใช้ Zero-Knowledge Proof (ZKP) เพื่อส่งข้อมูลกลับไปยืนยันบน Layer-1 ของ Bitcoin โครงการนี้มาพร้อมระบบนิเวศที่ใช้งานได้ทันที เช่น Meme Coin Factory, DeFi สำหรับ BTC, และสะพานเชื่อมหลายเชน (Cross-Chain Bridge) ทำให้สินทรัพย์จาก Ethereum และ Solana สามารถเข้ามาใช้งานบน Layer-2 ของ Bitcoin ได้

สำหรับผู้ที่สนใจในศักยภาพของโปรเจกต์นี้และต้องการเข้าร่วมในช่วง Presale สามารถศึกษา ขั้นตอนและวิธีซื้อ Bitcoin Hyper โดยละเอียด เพื่อเตรียมความพร้อมในการลงทุน

นอกจากการเรียนรู้วิธีซื้อแล้ว การพิจารณาแนวโน้มในอนาคตก็เป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจ ซึ่งมี บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา Bitcoin Hyper ปี 2025-2030 ที่จะช่วยให้นักลงทุนมองเห็นภาพระยะยาวของโปรเจกต์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

สรุป: สถานการณ์ของ Bitcoin ยังไม่ชัดเจน ต้องจับตามองต่อไป

โดยสรุป สถานการณ์ของ Bitcoin ในปัจจุบันเปรียบเสมือนอยู่บนทางสองแพร่ง การเทขายทำกำไรของผู้ถือระยะยาวและวาฬถือเป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนถึงแรงกดดันที่อาจเกิดขึ้น ในขณะที่การเข้าซื้อของนักลงทุนระยะสั้นก็ช่วยพยุงตลาดไว้ ปัจจัยชี้วัดต่าง ๆ ให้ภาพที่ผสมผสานกัน ทั้งสัญญาณที่บ่งชี้ว่าตลาดอาจร้อนแรงเกินไป และสัญญาณที่ชี้ว่าราคา Bitcoin ยังมีโอกาสเติบโตต่อได้อีก

อนาคตของราคา Bitcoin ในระยะสั้นจึงขึ้นอยู่กับว่าอุปสงค์จากผู้ซื้อรายใหม่จะสามารถดูดซับแรงขายจากผู้เล่นรายเก่าได้หรือไม่ นักลงทุนควรติดตามข้อมูล on-chain อย่างใกล้ชิดเพื่อประกอบการตัดสินใจในสภาวะตลาด Bitcoin ที่มีความไม่แน่นอนสูงเช่นนี้

ท้ายที่สุดแล้ว สถานการณ์ที่ผันผวนนี้ทำให้นักลงทุนหลายคนเกิดคำถามสำคัญว่า การลงทุน Bitcoin ตอนนี้ยังทันอยู่หรือไม่ ซึ่งการวิเคราะห์ปัจจัยรอบด้านจะช่วยให้หาคำตอบสำหรับตัวเองได้ดีที่สุด

พิมพ์ใจ เป็น นักวิเคราะห์ตลาดการเงินที่มีประสบการณ์มากกว่า 8 ปี โดยเริ่มต้นจากการเป็น Day Trader ในตลาดหุ้นไทยก่อนจะเปลี่ยนมาโฟกัสที่ตลาดคริปโตเต็มตัวในปี 2018 ปัจจุบัน นอกจากงานเขียนแล้ว เธอยังเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุนดิจิทัลแอสเซ็ทให้กับกองทุนรวมหลายแห่ง และเป็นวิทยากรในงานประชุมระดับชาติอย่าง Asia Blockchain Summit พิมพ์ใจผสานความเข้าใจด้านจิตวิทยาการลงทุน การวิเคราะห์เทคนิค และพฤติกรรมตลาดเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างเนื้อหาที่ช่วยให้ผู้อ่านเรียนรู้กลยุทธ์การเทรดที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ อ่านสัญญาณตลาดและจัดการความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม ไม่ใช่เพียงคาดเดาหรือใช้อารมณ์เท่านั้น

Telegram

แบ่งปัน: หุ้น
มากกว่า Bitcoin - ข่าวล่าสุดวันนี้
ยังไม่มีความคิดเห็น!

ที่อยู่อีเมลของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่