ข้อมูล Santiment ชี้ Bitcoin เริ่มแผ่วหลังกระแส FOMO แห่เข้า Ethereum

Ethereum (ETH) ได้ก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางความสนใจในวงการคริปโตอีกครั้ง โดยข้อมูลล่าสุดจาก Santiment แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชนชี้ว่า ETH สามารถแซงหน้า Bitcoin (BTC) ในแง่ของกระแส FOMO (Fear Of Missing Out) หรือความกลัวตกรถของนักลงทุนรายย่อยได้อย่างชัดเจน ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ราคา Bitcoin พุ่งทำสถิติใหม่ ซึ่งบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงของกระแสเงินทุนและความสนใจในตลาดอย่างรวดเร็ว แม้ว่า Bitcoin จะเป็นผู้นำตลาดมาตลอด แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าสปอตไลท์กำลังส่องไปที่ Ethereum และตลาด Altcoin มากขึ้น

วิเคราะห์ข้อมูล: กระแส FOMO ย้ายจาก Bitcoin สู่ Ethereum

จากข้อมูลใหม่ของ Santiment ที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พบว่าปริมาณการพูดคุยเกี่ยวกับ Ethereum บนโซเชียลมีเดียพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มอย่าง X (Twitter), Reddit และ Telegram ซึ่งเต็มไปด้วยการคาดการณ์ราคา ETH ที่อาจทะลุ $4,000 สิ่งนี้สวนทางกับกระแสของ Bitcoin ที่เคยร้อนแรงสุดขีดเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงนี้แสดงให้เห็นว่าความสนใจของนักลงทุนรายย่อยได้ย้ายจาก Bitcoin ไปยังสินทรัพย์อื่นที่คาดว่าจะเป็นคลื่นลูกต่อไปในการทำกำไร

ข้อมูลที่แสดงเป็นภาพจาก Santiment ยืนยันถึงการเปลี่ยนแปลงในความเชื่อมั่นของตลาดอย่างชัดเจน จากที่ก่อนหน้านี้ Bitcoin เคยครองอันดับหนึ่งในชาร์ต FOMO มาตลอด แต่ปัจจุบัน Ethereum และ XRP กลับไต่ขึ้นมาอยู่บนสุดของอันดับปริมาณการพูดถึงบนโซเชียลแทน การพุ่งขึ้นของการกล่าวถึง ETH ในวันที่ 16 กรกฎาคม ถือเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในรอบหลายเดือน ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับการที่ราคา ETH สามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ $3,285 ได้สำเร็จ ในขณะที่การพูดถึง Bitcoin เริ่มมีแนวโน้มคงที่หรือลดลงเล็กน้อย

การที่นักลงทุนเริ่มมองหาโอกาสนอกเหนือจาก Bitcoin สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในระบบนิเวศของ Ethereum และ Altcoin อื่นๆ นักเทรดจำนวนมากเชื่อว่าหลังจากที่ Bitcoin ได้ปรับตัวขึ้นมาอย่างร้อนแรงแล้ว เงินทุนจะเริ่มหมุนเวียนไปยังเหรียญที่มีมูลค่าตลาดรองลงมาเพื่อมองหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นวัฏจักรที่มักเกิดขึ้นในตลาดกระทิงของคริปโต การจับตาดูการเคลื่อนไหวของ Bitcoin ยังคงเป็นสิ่งจำเป็น แต่นักลงทุนก็ไม่ควรมองข้ามสัญญาณที่เกิดขึ้นกับ Altcoin เช่นกัน

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคา Bitcoin นั้นมีหลากหลาย รวมถึงการเคลื่อนไหวของนักลงทุนรายใหญ่ ดังเช่นเหตุการณ์ล่าสุดที่ วาฬ Bitcoin ยุคแรกเทขายเหรียญจำนวนมหาศาล ซึ่งสร้างความผันผวนให้กับตลาดได้เสมอ

สัญญาณ Altcoin Season? และสิ่งที่นักลงทุน Bitcoin ควรจับตา

ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ Ethereum เท่านั้น แต่ยังรวมถึง Altcoin อื่นๆ ด้วย โดย XRP ก็มียอด FOMO พุ่งสูงขึ้นอย่างน่าสนใจถึงสองครั้งในวันที่ 15 พฤษภาคม และ 14 กรกฎาคม ซึ่งเป็นหลักฐานที่ชี้ให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนรายย่อยต่อสินทรัพย์ทางเลือกนอกเหนือจาก Bitcoin นักวิเคราะห์หลายคนมองว่านี่อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของ “Altcoin Season” ที่กว้างขึ้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ Altcoin โดยรวมมีแนวโน้มที่จะให้ผลตอบแทนสูงกว่า Bitcoin

สำหรับนักลงทุนและนักเทรด ขอแนะนำให้ติดตามแนวโน้มปริมาณการพูดคุยบนโซเชียลมีเดียอย่างใกล้ชิด เนื่องจากกระแส FOMO ที่เพิ่มขึ้นมักจะนำไปสู่ความผันผวนของราคาที่สูงขึ้นตามมา แม้ว่าความร้อนแรงในระยะสั้นอาจจางหายไปอย่างรวดเร็ว แต่โมเมนตัมที่ยั่งยืนและฐานผู้ใช้ที่เติบโตของ Ethereum บ่งชี้ว่ามันอาจจะยังคงเป็นผู้นำในระยะต่อไปของวัฏจักรตลาดคริปโตนี้ การเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin จะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อตลาดโดยรวม แต่ความแข็งแกร่งของ Altcoin ที่เพิ่มขึ้นก็เป็นตัวแปรที่ไม่สามารถมองข้ามได้

นอกจากการเติบโตจากฝั่งผู้ใช้งานรายย่อยแล้ว การยอมรับจากสถาบันการเงินก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ โดยล่าสุด Standard Chartered ได้เปิดให้เทรด BTC และ ETH ซึ่งเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้

ในขณะที่ Bitcoin ยังคงสถานะเป็นราชาแห่งคริปโต ล่าสุด มูลค่าตลาด Bitcoin แซงหน้าบริษัทยักษ์ใหญ่ อย่าง Amazon และ Google ไปแล้ว แต่การที่เงินทุนและความสนใจเริ่มไหลไปยังสินทรัพย์อื่นถือเป็นโอกาสในการกระจายความเสี่ยงสำหรับผู้ที่ถือ Bitcoin อยู่ การทำความเข้าใจพลวัตของตลาดในปัจจุบันจะช่วยให้นักลงทุนสามารถปรับกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับโอกาสใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ หาก Altcoin Season เริ่มต้นขึ้นจริง การมีส่วนร่วมในตลาดนอกเหนือจาก Bitcoin อาจสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจอย่างยิ่ง

Tanawat Kittikajorn

บล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล, Web3, วิเคราะห์แนวโน้มราคาสินทรัพย์, โทเค็นโนมิกส์ Tanawat Thanichapol เป็นนักวิเคราะห์คริปโตและที่ปรึกษาบล็อกเชนอิสระจากประเทศไทยที่มีประสบการณ์กว่า 7 ปี จบหลักสูตรด้านเศรษฐกิจดิจิทัลจาก MIT Initiative on the Digital Economy (IDE) เขาเคยร่วมงานกับสตาร์ทอัพคริปโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และปัจจุบันเขียนบทความวิเคราะห์ตลาด รวมถึงพัฒนาบอทช่วยเทรดให้กับสื่อสายคริปโตหลายแห่ง เขาเชี่ยวชาญด้านโทเค็นโนมิกส์ การวิเคราะห์ on-chain และการจับสัญญาณแนวโน้มในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล สนใจเป็นพิเศษในด้านการเงินแบบกระจายศูนย์และอนาคตของ We