BTC หรือ Bitcoin กำลังเป็นจุดศูนย์กลางของตลาดคริปโต หลังจากกองทุน Bitcoin Spot ETF มีเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 สะท้อนความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนสถาบันต่อบิทคอยน์ โดยบทวิเคราะห์ล่าสุดคาดการณ์ว่าราคามีแนวโน้มทะยานแตะระดับ 170,000 ดอลลาร์
ขณะเดียวกันกระแสการเติบโตนี้ยังช่วยผลักดันโปรเจกต์น้องใหม่อย่าง Bitcoin Hyper ซึ่งเป็นโซลูชัน Layer-2 ที่เริ่มถูกจับตามองว่าอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเครือข่าย Bitcoin การพุ่งขึ้นของ Bitcoin ครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องราคา แต่ยังหมายถึงการปูทางสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงเทคโนโลยีครั้งใหญ่ด้วย
แรงซื้อจากสถาบันหนุนราคา BTC ผ่าน Spot ETF
ข้อมูลล่าสุดเผยให้เห็นว่ากองทุน Bitcoin Spot ETF มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิกว่า 80.08 ล้านดอลลาร์ นับเป็นการไหลเข้าต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการ Bitcoin จากกลุ่มนักลงทุนสถาบันที่ไม่เคยแผ่วลงเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทุน IBIT ของ BlackRock ที่เป็นผู้นำตลาดด้วยเงินทุนไหลเข้าสูงถึง 66.81 ล้านดอลลาร์
ขณะที่กองทุนของ Grayscale ก็มีเงินไหลเข้าเช่นกันที่ 4.82 ล้านดอลลาร์ ปรากฏการณ์นี้ส่งผลให้มูลค่าสินทรัพย์รวมภายใต้การจัดการ (AUM) ของ ETF ทั้งหมดพุ่งสูงถึง 136,750 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 6.33% ของมูลค่าตลาดรวมของ Bitcoin ทั้งหมด ตัวเลขเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันว่า Bitcoin ได้กลายเป็นสินทรัพย์ที่น่าดึงดูดในสายตาของสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ทั่วโลก
การไหลเข้าของเงินทุนจำนวนมหาศาลสู่ตลาด Bitcoin ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ เป็นการตอกย้ำว่าการลงทุนของสถาบันได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเต็มรูปแบบแล้ว
แม้จะมีความพยายามในการขายชอร์ต (Short Selling) ในตลาดอนุพันธ์ของ Binance แต่ราคา Bitcoin ก็ยังคงยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งในช่วง 100,000 ถึง 110,000 ดอลลาร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่ออนาคตของ Bitcoin อย่างแท้จริง
บทวิเคราะห์ทางเทคนิคชี้ BTC อาจมุ่งสู่ $170,000
ในมุมมองของการวิเคราะห์ทางเทคนิค กราฟราคา Bitcoin กำลังก่อตัวเป็นรูปแบบ “Cup and Handle” ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง นักวิเคราะห์หลายรายคาดการณ์ว่ารูปแบบดังกล่าวอาจผลักดันให้ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นไปถึงระดับ 160,000 – 170,000 ดอลลาร์ได้ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งการคาดการณ์เชิงบวกนี้ยิ่งดึงดูดเงินทุนจากสถาบันให้หลั่งไหลเข้ามาในตลาด Bitcoin มากขึ้น
นอกจากนี้ แนวโน้มการยอมรับ Bitcoin ในระดับองค์กรก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทอย่าง MicroStrategy (ชื่อใหม่ Strategy) และ Metaplanet ของญี่ปุ่นต่างพากันเพิ่มปริมาณการถือครอง Bitcoin ในขณะเดียวกัน ปริมาณ Bitcoin ที่ถูกเก็บไว้บนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนกลับลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2018 ที่ 14.5% ของอุปทานทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าสภาพคล่องในตลาดกำลังลดลงและอาจส่งผลให้ราคา Bitcoin มีความผันผวนสูงขึ้นเมื่อมีแรงซื้อเข้ามา ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นแรงสนับสนุนสำคัญที่ทำให้ภาพรวมของ Bitcoin ยังคงสดใส
จับตา Bitcoin Hyper: โซลูชัน Layer-2 ที่จะมาเปลี่ยนเกม Bitcoin
แม้ว่ามูลค่าของ Bitcoin จะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง แต่ข้อจำกัดด้านความสามารถในการขยายขนาด (Scalability) และการรองรับสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ยังคงเป็นความท้าทายสำคัญที่ขัดขวางการเติบโตของระบบนิเวศ Bitcoin
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี Layer-2 ได้เข้ามาเป็นคำตอบสำหรับปัญหานี้ และโปรเจกต์ที่กำลังเป็นที่จับตามองมากที่สุดในขณะนี้ก็คือ Bitcoin Hyper (HYPER)

Bitcoin Hyper ($HYPER) คือโปรเจกต์ Layer-2 ที่สร้างขึ้นบนเครือข่าย Bitcoin โดยใช้เทคโนโลยี Solana Virtual Machine (SVM) เพื่อให้สามารถประมวลผลธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมต่ำ ในขณะที่ยังคงได้รับประโยชน์จากความปลอดภัยที่แข็งแกร่งของเครือข่าย Bitcoin โซลูชันนี้จะช่วยปลดล็อกศักยภาพของ Bitcoin ให้สามารถรองรับแอปพลิเคชันกระจายศูนย์ (dApps), DeFi และ NFT ได้อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะทำให้ระบบนิเวศเครือข่ายเติบโตไปอีกขั้น
ความคาดหวังที่มีต่อโปรเจกต์ Bitcoin Hyper นั้นสูงมาก สะท้อนจากยอดระดมทุนในช่วงพรีเซลที่สูงถึง 2 ล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน ปัจจุบันราคาพรีเซลอยู่ที่ 0.0122 ดอลลาร์ และมีแผนจะปรับราคาขึ้นเป็นขั้นบันได นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมลงทุนในช่วงแรกยังจะได้รับผลตอบแทนจากการ Staking สูงถึง 360% ต่อปี ทำให้ Bitcoin Hyper กลายเป็นอีกหนึ่งโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เชื่อมั่นในอนาคตของระบบนิเวศ Bitcoin
โดยสรุปแล้ว การไหลเข้าของเงินทุนจากสถาบันผ่าน Bitcoin ETF ได้สร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับราคา Bitcoin และตอกย้ำสถานะของมันในฐานะสินทรัพย์หลักในตลาดโลก ในขณะเดียวกัน นวัตกรรมอย่าง Bitcoin Hyper ก็กำลังจะมาปลดล็อกศักยภาพที่ซ่อนอยู่ของเครือข่าย Bitcoin เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตใหม่ๆ สำหรับนักลงทุนที่มองหาการเติบโตขั้นต่อไป การจับตาดูพัฒนาการของโซลูชัน Layer-2 อย่าง Bitcoin Hyper อาจเป็นกุญแจสำคัญในการค้นพบโอกาสการลงทุนครั้งใหญ่ ท่ามกลางตลาด Bitcoin ที่กำลังร้อนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในช่วงที่ BTC เพิ่งทำ All-time high ไปสดๆ ร้อนๆ
บล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล, Web3, วิเคราะห์แนวโน้มราคาสินทรัพย์, โทเค็นโนมิกส์ Tanawat Thanichapol เป็นนักวิเคราะห์คริปโตและที่ปรึกษาบล็อกเชนอิสระจากประเทศไทยที่มีประสบการณ์กว่า 7 ปี จบหลักสูตรด้านเศรษฐกิจดิจิทัลจาก MIT Initiative on the Digital Economy (IDE) เขาเคยร่วมงานกับสตาร์ทอัพคริปโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และปัจจุบันเขียนบทความวิเคราะห์ตลาด รวมถึงพัฒนาบอทช่วยเทรดให้กับสื่อสายคริปโตหลายแห่ง เขาเชี่ยวชาญด้านโทเค็นโนมิกส์ การวิเคราะห์ on-chain และการจับสัญญาณแนวโน้มในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล สนใจเป็นพิเศษในด้านการเงินแบบกระจายศูนย์และอนาคตของ We