BTC Bull ทุนพุ่งทะลุ 8 ล้านดอลลาร์! นับถอยหลัง 72 ชม.ก่อนเปิดเทรด

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2025 ท่ามกลางบรรยากาศเฉลิมฉลองวันชาติสหรัฐฯ เหรียญ BTC Bull Token (BTCBULL) ได้สร้างกระแสคึกคักในตลาดคริปโต ด้วยยอดระดมทุนที่พุ่งทะลุ 8 ล้านดอลลาร์เป็นที่เรียบร้อย ขณะนี้เหลือเวลาเพียง 72 ชั่วโมงก่อนการเปิดเทรดอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าอาจกลายเป็น “Moon Shot Monday” หรือวันที่ราคาอาจพุ่งแรงตั้งแต่วันแรก

เพื่อเตรียมความพร้อมและรักษาเสถียรภาพของราคา ทีมพัฒนา BTCBULL ได้ประกาศเผาเหรียญที่ยังขายไม่หมดไปแล้ว 7.5 พันล้านโทเคนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา คิดเป็นประมาณ 35% ของอุปทานทั้งหมด หรือราว 19.3 ล้านดอลลาร์ หากอ้างอิงกับราคา Presale ล่าสุดที่ 0.002585 ดอลลาร์ต่อโทเคน

ในขณะเดียวกัน ราคาบิตคอยน์ยังทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาล ซึ่งเป็นสัญญาณหนุนสำคัญให้เป้าหมายการเผาโทเคนครั้งต่อไปของ BTCBULL ใกล้ความจริงมากขึ้น เนื่องจากมีเงื่อนไขเชื่อมโยงกับราคาบิตคอยน์ที่ต้องทะลุ 125,000 ดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่ต้องการซื้อ BTCBULL ในราคาต่ำสุดยังพอมีเวลา เพราะหน้าต่างโอกาสกำลังจะปิดลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ก่อนที่เหรียญจะเข้าสู่กระดานซื้อขายและเริ่มการซื้อขายเสรีอย่างเต็มรูปแบบ

อุปทานลดฮวบดัน  จ่อพุ่ง 28 เท่า รับกระแสคริปโตขาขึ้น

หลังจากเผาเหรียญไปแล้วถึง 35% ของอุปทานทั้งหมด เมื่อวันที่ผ่านมา BTC Bull Token (BTCBULL) ได้ลดจำนวนโทเคนหมุนเวียนเหลือเพียง 13.65 พันล้านโทเคน ซึ่งถือเป็นการปรับโครงสร้างอุปทานครั้งใหญ่ที่เพิ่มโอกาสให้มูลค่าเหรียญมีสิทธิ์พุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

หากเปรียบเทียบกับเหรียญมีมที่แทบไม่มีฟังก์ชันการใช้งานแต่ยังสามารถสร้างมูลค่าตลาดได้ระหว่าง 300 ล้านดอลลาร์ถึง 1 พันล้านดอลลาร์ BTCBULL ในราคาปัจจุบันจึงดูเหมือนเป็นโอกาสที่น่าจับตาอย่างยิ่ง ตัวอย่างเช่น หาก BTCBULL มีมูลค่าตลาดแตะ 300 ล้านดอลลาร์ ก็จะอยู่ในอันดับประมาณ 18 ของเหรียญมีมทั้งหมด ซึ่งยังต่ำกว่าโปรเจกต์อื่น ๆ ที่ไม่ได้มีระบบรางวัลผูกกับบิตคอยน์เหมือน BTCBULL โดยระดับมูลค่านี้อาจดันราคาเหรียญขึ้นไปแตะ 0.02 ดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นถึง 8.5 เท่าเมื่อเทียบกับราคาพรีเซลล์

นอกจากนี้ เงินทุนใหม่ยังคงไหลเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า หาก BTCBULL ทำได้ตามเป้าและมีมูลค่าตลาดพุ่งถึง 1 พันล้านดอลลาร์ ราคาจะขยับขึ้นไปแตะราว 0.07 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นการเติบโตถึง 28 เท่า ซึ่งเป็นตัวเลขที่นักลงทุนในตลาดคริปโตยากจะมองข้าม

ขณะเดียวกัน ผู้ให้ข้อมูลด้านคริปโตอย่าง 99Bitcoins ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 723,000 บัญชี ก็ออกมาหนุนว่า BTCBULL มีศักยภาพเติบโตถึง 10 เท่าตั้งแต่ช่วงแรกที่เข้าสู่ตลาด

แม้มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์อาจดูสูง แต่เมื่อบิตคอยน์ยังคงเดินหน้าทำสถิติใหม่ BTCBULL เองก็ยังมีกลไกการเผาโทเคนและรางวัลตามเป้าหมายราคาบิตคอยน์ ซึ่งอาจเป็นแรงผลักสำคัญให้ราคาพุ่งต่อได้ หากราคาบิตคอยน์ยังคงไต่ระดับขึ้นไปอย่างแข็งแกร่ง

Bitcoin จ่อทะลุแนวต้านสำคัญ หนุนฟีเจอร์ BTCBULL ทำงานเต็มรูปแบบ

ปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันราคา BTC Bull Token (BTCBULL) ให้พุ่งสูงขึ้น คือการที่ราคาบิตคอยน์จะต้องขยับแตะ 125,000 ดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นให้โปรเจกต์ดำเนินการเผาโทเคนบนบล็อกเชนตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้

เมื่อราคาบิตคอยน์แตะระดับนี้ BTCBULL จะเดินหน้าเผาโทเคนเพิ่มอีก ซึ่งหากการลดอุปทานลง 35% ครั้งแรกสามารถเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจของเหรียญได้แล้ว การเผาซ้ำในระดับราคา 175,000 ดอลลาร์ 225,000 ดอลลาร์ และทุกครั้งที่บิตคอยน์ขยับขึ้นทีละ 50,000 ดอลลาร์ก็ยิ่งสร้างแรงหนุนให้มูลค่าเหรียญมีแนวโน้มสูงขึ้นตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม การเผาเหรียญเพียงอย่างเดียวไม่ได้การันตีมูลค่าโดยอัตโนมัติ เช่นเดียวกับบิตคอยน์ที่ความขาดแคลนส่วนหนึ่งมาจากเหรียญที่สูญหายไปตลอดกาล ทั้งจากเหรียญของ Satoshi Nakamoto ที่ไม่มีการเคลื่อนไหว ไปจนถึงเรื่องราวโด่งดังของ James Howells ที่ฝังฮาร์ดดิสก์ซึ่งมีบิตคอยน์กว่า 8,000 เหรียญไว้ในหลุมขยะ สิ่งเหล่านี้เมื่อรวมกับกลไกความปลอดภัยแบบกระจายศูนย์ และการ Halving ทุก 4 ปี ก็กลายเป็นพลังทางการเงินที่หยุดไม่อยู่

BTC Bull Token เองก็ไม่พยายามเลียนแบบบทบาท “ทองคำดิจิทัล” เพียงด้วยการเผาโทเคน แต่จุดแข็งคือการผูกกลไกโดยตรงกับราคาบิตคอยน์ เมื่อราคาบิตคอยน์แตะระดับเป้าหมายใหม่ ผู้ถือ BTCBULL จะได้รับการแจกจ่ายรางวัลเป็นบิตคอยน์จริงตามสัดส่วนการถือครอง

ยกตัวอย่าง หากราคาบิตคอยน์ขยับไปถึง 150,000 ดอลลาร์ BTCBULL จะเริ่ม Airdrop ครั้งแรก จ่ายผลตอบแทนเป็นบิตคอยน์ให้กับผู้ถือโทเคน จากนั้นจะเกิดซ้ำเมื่อบิตคอยน์แตะ 200,000 ดอลลาร์ 250,000 ดอลลาร์ 300,000 ดอลลาร์ และสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ สร้างรายได้บิตคอยน์แบบ Passive Income โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม

ที่สำคัญ ผู้ถือ BTCBULL เพียงแค่เก็บโทเคนไว้ใน Best Wallet ซึ่งเป็นกระเป๋าเงิน Web3 คู่สัญญา ก็สามารถรับรางวัลได้โดยอัตโนมัติ ถือเป็นหนึ่งในวิธีสร้างรายได้บิตคอยน์แบบง่ายที่สุดแห่งปี 2025 จากโมเดลที่ BTC Bull Token วางไว้

เหลือเวลา 72 ชั่วโมงสุดท้าย ก่อน BTCBULL เปิดเทรดและเริ่มแจกจ่ายโทเคน

สำหรับใครที่เคยมองว่าบิตคอยน์แพงเกินไป ไม่ว่าจะตอนราคา 1 ดอลลาร์ 1,000 ดอลลาร์ หรือ 10,000 ดอลลาร์ จนถึงตอนนี้ที่ทะลุ 100,000 ดอลลาร์ไปแล้ว หลายคนคงเริ่มเห็นแล้วว่าคริปโตเบอร์หนึ่งของโลกยังไม่มีเพดานจำกัดราคา

วิธีที่ดีที่สุดในการต่อยอดโอกาสจึงไม่ใช่แค่ถือบิตคอยน์เพียงอย่างเดียว แต่คือการลงทุนในสินทรัพย์ที่ช่วยทวีคูณรางวัล ด้วยการสร้างรายได้แบบ Passive Income จากบิตคอยน์ควบคู่ไปกับโอกาสเพิ่มมูลค่าจากการถือ BTCBULL พร้อมกัน

อย่างไรก็ตาม โอกาสทองนี้ไม่ได้เปิดตลอดไป ในช่วง 72 ชั่วโมงสุดท้ายของรอบพรีเซลล์ นักลงทุนที่ลังเลอาจต้องเสียใจกับการตัดสินใจทีหลัง เพราะหลังจากนี้ราคาจะเข้าสู่ตลาดเสรีเต็มรูปแบบ

ปัจจุบันผู้ที่สนใจสามารถซื้อ BTCBULL ได้โดยตรงผ่านเว็บไซต์ทางการของโปรเจกต์ เพียงเชื่อมกระเป๋าเงินดิจิทัลและชำระด้วย ETH, BNB, USDT หรือแม้แต่บัตรเครดิต ขณะเดียวกัน BTCBULL ยังมีโปรโตคอล Staking ที่ให้ผลตอบแทนแบบ Dynamic APY สูงถึง 51% โดยจะปรับตามจำนวนผู้เข้าร่วมในพูล

อีกจุดเด่นคือ BTC Bull Token แนะนำให้ผู้ถือใช้ Best Wallet ซึ่งเป็นกระเป๋าเงิน Web3 พาร์ตเนอร์สำหรับจ่ายรางวัลบิตคอยน์ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ถือมีสิทธิ์รับ Airdrop ทุกครั้งตามเป้าหมายราคา หากยังไม่เคยใช้ Best Wallet ปัจจุบันสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งบน Google Play และ Apple App Store

สำหรับใครที่อยากติดตามข่าวสารการอัปเดต Milestone และความเคลื่อนไหวของชุมชน สามารถติดตาม BTC Bull Token ได้ผ่าน X (Twitter) และ Telegram อย่างเป็นทางการ

Pimjai Visawakul

พิมพ์ใจ เป็น นักวิเคราะห์ตลาดการเงินที่มีประสบการณ์มากกว่า 8 ปี โดยเริ่มต้นจากการเป็น Day Trader ในตลาดหุ้นไทยก่อนจะเปลี่ยนมาโฟกัสที่ตลาดคริปโตเต็มตัวในปี 2018 ปัจจุบัน นอกจากงานเขียนแล้ว เธอยังเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุนดิจิทัลแอสเซ็ทให้กับกองทุนรวมหลายแห่ง และเป็นวิทยากรในงานประชุมระดับชาติอย่าง Asia Blockchain Summit พิมพ์ใจผสานความเข้าใจด้านจิตวิทยาการลงทุน การวิเคราะห์เทคนิค และพฤติกรรมตลาดเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างเนื้อหาที่ช่วยให้ผู้อ่านเรียนรู้กลยุทธ์การเทรดที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ อ่านสัญญาณตลาดและจัดการความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม ไม่ใช่เพียงคาดเดาหรือใช้อารมณ์เท่านั้น