Home » Bitcoin ETF ของ BlackRock มาเหนือ! แซงหน้ากองทุน S&P 500!

Bitcoin ETF ของ BlackRock มาเหนือ! แซงหน้ากองทุน S&P 500!

04.07.2025 17:40 2 นาทีที่อ่าน Tanawat Thanichapol
Disclosure

บทความนี้อาจมีลิงก์พันธมิตร ซึ่งทางเว็บไซต์อาจได้รับค่าตอบแทนหากผู้อ่านคลิกหรือลงทะเบียนผ่านลิงก์ดังกล่าว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับผู้อ่าน หากคุณยังคงใช้ไซต์นี้ต่อไป แสดงว่าคุณยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขของเรา


แบ่งปัน: หุ้น

การลงทุนในคริปโตมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง เนื้อหาในเว็บไซต์จัดทำเพื่อให้ข้อมูล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน เนื้อหาบางส่วนอาจมี Affiliate Links ซึ่งเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่น โปรดอ่าน Affiliate Disclaimer และนโยบายบรรณาธิการสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม

Bitcoin ETF ของ BlackRock มาเหนือ! แซงหน้ากองทุน S&P 500!

กองทุน iShares Bitcoin Trust (IBIT) ของ BlackRock ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในโลกการเงิน ด้วยการทำรายได้จากค่าธรรมเนียมแซงหน้ากองทุนชั้นนำอย่าง S&P 500 ETF (IVV) อย่างเงียบๆ การเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าเม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบันกำลังเดิมพันกับสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่าดัชนีหุ้นแบบดั้งเดิม นี่คือเครื่องยืนยันว่าการลงทุนใน BTC ผ่าน ETF ที่ได้รับการควบคุมกำลังเปลี่ยนจากตลาดเฉพาะกลุ่มไปสู่ความนิยมในวงกว้างมากขึ้น

เจาะลึก! ทำไม Bitcoin ETF ของ BlackRock ถึงทำรายได้แซงหน้า?

BTC ETF ของ BlackRock กำลังสร้างรายได้มากกว่ากองทุน S&P 500 ที่เป็นไฮไลต์หลักของบริษัท ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจนว่ากลุ่มนักลงทุนสถาบันกำลังแห่เข้ามาลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลในช่วงที่ความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างมาก

เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ทั้งที่ BTC ETF มีสินทรัพย์รวมที่น้อยกว่ากองทุน S&P 500?

คำตอบอยู่ที่ “ค่าธรรมเนียม” นั่นเอง กองทุน iShares Bitcoin Trust (IBIT) เก็บค่าธรรมเนียมที่ 0.25% ซึ่งสูงกว่าค่าธรรมเนียม 0.03% ของ iShares Core S&P 500 ETF (IVV) อยู่มาก

จากรายงานของ Bloomberg ระบุว่า IBIT สามารถสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมราว 187.2 ล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งมากกว่า IVV ที่ทำได้ 187.1 ล้านดอลลาร์เล็กน้อย แม้จะต่างกันเพียงเล็กน้อย แต่ก็ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ โดยตั้งแต่เปิดตัวในเดือนมกราคม 2024 IBIT ได้ดึงดูดเงินลงทุนมาเกือบ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาด Bitcoin ETF ด้วยส่วนแบ่งตลาดกว่า 50%

Bitcoin ETF ของ BlackRock มาเหนือ!

ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นหลังจากที่หน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐฯ อนุมัติ BTC ETF แบบ Spot ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เปิดทางให้กองทุนเฮดจ์ฟันด์ กองทุนบำเหน็จบำนาญ และธนาคารต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในตลาดนี้ได้ ความเร่งรีบของนักลงทุนสถาบันนี้เองที่ทำให้ IBIT กลายเป็นหนึ่งใน 20 ETF ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุดในตลาด

Nate Geraci จาก Novadius Wealth Management กล่าวว่า การที่ IBIT ทำรายได้ค่าธรรมเนียมแซงหน้า IVV ชี้ให้เห็นถึงความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นสำหรับ BTC และแสดงให้เห็นว่าการแข่งขันด้านค่าธรรมเนียมในกองทุนหุ้นแบบดั้งเดิมนั้นดุเดือดเพียงใด

Paul Hickey ผู้ร่วมก่อตั้ง Bespoke Investment Group กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่ BTC ได้รับการยอมรับว่าเป็นเครื่องมือเก็บรักษามูลค่าที่เชื่อถือได้ ช่วยเสริมความเป็นผู้นำในตลาดคริปโต และตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนที่อยากเข้าถึงสินทรัพย์นี้โดยไม่ต้องเปิดบัญชีแยกต่างหาก

Larry Fink และบทบาทใหม่ในฐานะผู้สนับสนุน BTC

Larry Fink ซึ่งเป็น CEO ของ BlackRock ได้เปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับ BTC อย่างน่าทึ่ง จากเดิมที่เคยมีท่าทีสงสัย ตอนนี้เขากลับกลายมาเป็นผู้สนับสนุน BTC อย่างแข็งขัน โดยเขาเรียกมันว่า “ทองคำดิจิทัล” ซึ่งเป็นตัวช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและการลดค่าของสกุลเงิน โดยเฉพาะในยุคที่หนี้สาธารณะทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นและความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลกยังคงอยู่

Fink ยังได้เสนอความเห็นว่า หากกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (Sovereign Wealth Funds) รายใหญ่ทั่วโลกจัดสรรเงินเพียง 2%-5% ของพอร์ตการลงทุนไปยัง BTC ราคาของมันอาจพุ่งขึ้นไปถึง 500,000 ถึง 700,000 ดอลลาร์ นอกจากนี้ เขายังเชื่อว่าความโปร่งใสและสภาพคล่องที่ ETF มอบให้ จะช่วยเร่งให้ Bitcoin กลายเป็นสินทรัพย์หลักในตลาดการเงินได้อย่างรวดเร็ว

กระแส Bitcoin ETF หนุนเหรียญทางเลือก: SUBBD & T6900

ปรากฏการณ์ของ BlackRock Bitcoin ETF ไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อ BTC เท่านั้น แต่ยังสร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วทั้งตลาดคริปโต ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลได้รับการยอมรับในวงกว้าง และจุดประกายความสนใจในโทเคนทางเลือกอื่นๆ ที่ได้รับประโยชน์จากกระแสนี้ เช่น SUBBD และ TOKEN6900 ซึ่งเป็นตัวอย่างของโปรเจกต์ที่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความคึกคักที่เกิดจาก Crypto ETF

SUBBD ($SUBBD) เป็นโทเคนสำหรับแพลตฟอร์มเศรษฐกิจครีเอเตอร์ (Creator Economy) รูปแบบใหม่ ที่มุ่งปฏิวัติวิธีการสร้างรายได้ของเหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์และแฟนคลับ โดยใช้ประโยชน์จากความโปร่งใสและประสิทธิภาพของบล็อกเชน แพลตฟอร์มนี้ท้าทายโมเดลเดิมๆ ด้วยการให้ครีเอเตอร์สามารถออกโทเคนสมาชิกของตัวเองเพื่อปลดล็อกคอนเทนต์พิเศษได้โดยตรง กระแสการยอมรับคริปโตที่เพิ่มขึ้นจาก BTC ETF ช่วยให้โปรเจกต์เช่นนี้เข้าถึงผู้ใช้งานได้ง่ายขึ้น

TOKEN6900 (T6900)

ในอีกด้านหนึ่ง TOKEN6900 ($T6900) เป็นเหรียญมีม (Meme Coin) ที่มาพร้อมปรัชญา “ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง” (Zero-utility) ซึ่งเป็นการเสียดสีและสะท้อนอีกแง่มุมหนึ่งของตลาดที่เติบโตไปพร้อมกับนวัตกรรมทางการเงินอย่าง BTC ETF โปรเจกต์นี้ปฏิเสธคำสัญญาที่เกินจริง โดยประกาศอย่างชัดเจนว่าไม่มีแผนการพัฒนาใดๆ มีเพียงแค่ความสนุกและพลังของชุมชน

ด้วยการเปิดขายโทเคน 80% สู่สาธารณะโดยไม่มีรอบสำหรับนักลงทุนวงใน ทำให้มันกลายเป็นโปรเจกต์ที่โปร่งใสและได้รับความสนใจอย่างมาก แม้แต่ยูทูบเบอร์ชื่อดังอย่าง 99Bitcoins ยังคาดการณ์ว่ามันมีโอกาสให้ผลตอบแทนถึง 100 เท่า ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากระแสจาก BTC ETF ได้เปิดโอกาสให้กับสินทรัพย์ทุกรูปแบบ

สรุป: ETF ของ BlackRock พลิกเกมการลงทุนครั้งใหญ่

การที่กองทุน Bitcoin ETF ของ BlackRock สามารถสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมแซงหน้ากองทุน S&P 500 มูลค่ากว่า 6.24 แสนล้านดอลลาร์ ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งประวัติศาสตร์ในโลกการลงทุน มันพิสูจน์ให้เห็นว่าความต้องการจากนักลงทุนสถาบันมีอยู่จริงและทรงพลังพอที่จะผลักดันให้ผลิตภัณฑ์สินทรัพย์ดิจิทัลสามารถแข่งขันกับกองทุนดั้งเดิมได้

สิ่งนี้ตอกย้ำมุมมองของ Larry Fink ที่ว่า BTC คือ “ทองคำดิจิทัล” และการมีอยู่ของ BTC ETF จะช่วยเร่งการยอมรับในวงกว้าง เมื่อความชัดเจนด้านกฎระเบียบและการจัดสรรเงินทุนขององค์กรต่างๆ มีมากขึ้น นักลงทุนที่มองหาโอกาสจึงต้องจับตาทั้งเหรียญที่ได้รับการพิสูจน์แล้วและโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากแรงส่งของ BTC ETF นี้

บล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล, Web3, วิเคราะห์แนวโน้มราคาสินทรัพย์, โทเค็นโนมิกส์ Tanawat Thanichapol เป็นนักวิเคราะห์คริปโตและที่ปรึกษาบล็อกเชนอิสระจากประเทศไทยที่มีประสบการณ์กว่า 7 ปี จบหลักสูตรด้านเศรษฐกิจดิจิทัลจาก MIT Initiative on the Digital Economy (IDE) เขาเคยร่วมงานกับสตาร์ทอัพคริปโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และปัจจุบันเขียนบทความวิเคราะห์ตลาด รวมถึงพัฒนาบอทช่วยเทรดให้กับสื่อสายคริปโตหลายแห่ง เขาเชี่ยวชาญด้านโทเค็นโนมิกส์ การวิเคราะห์ on-chain และการจับสัญญาณแนวโน้มในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล สนใจเป็นพิเศษในด้านการเงินแบบกระจายศูนย์และอนาคตของ We

Telegram

แบ่งปัน: หุ้น
มากกว่า Bitcoin - ข่าวล่าสุดวันนี้
ยังไม่มีความคิดเห็น!

ที่อยู่อีเมลของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่