BTC หรือ Bitcoin ขับเคลื่อนโดยนักลงทุนสถาบันก็จริง แต่รายงานล่าสุดจาก K33 Research ได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจว่า กระแสเงินทุนไหลเข้ากองทุน Spot Bitcoin ETF ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญที่สุด ซึ่งมีอิทธิพลต่อราคามากกว่าการเข้าซื้อของบริษัทใหญ่ๆ อย่างมีนัยสำคัญ ทำเอานักลงทุนอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
Vetle Lunde จาก K33 ชี้ว่า การไหลเข้า (inflow) ของเงินทุนสู่ Spot Bitcoin ETF มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับการเคลื่อนไหวของราคา โดยข้อมูลเชิงสถิติแสดงให้เห็นว่าปัจจัยนี้มีผลกระทบต่อความผันผวนราย 30 วันของ Bitcoin ถึง 80%
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนที่ผ่านมา การไหลเข้าของ ETF กลับชะลอตัวลง โดยมีการเพิ่มขึ้นเพียง 13,000 เหรียญ ซึ่งส่งผลให้ราคาของ Bitcoin สะท้อนความเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน
เอาจริงดิ? การซื้อ BTC ของบริษัทใหญ่ไม่ได้ช่วยดันราคาขนาดนั้น?
แม้ว่าจะมีข่าวบริษัทมหาชนจำนวนมากหันมาสะสม Bitcoin ในคลังสินทรัพย์ของตนเอง แต่กลับไม่ได้ส่งผลกระทบต่อราคาในตลาดอย่างที่หลายคนคาดหวัง
K33 Research ชี้ว่าบริษัทเหล่านี้จำนวนมากไม่ได้ซื้อ Bitcoin จากตลาดเปิดโดยตรง…
แต่ใช้วิธีการ “แลกเปลี่ยนหุ้นกับคริปโต” (share-for-crypto swaps) กับผู้ถือรายใหญ่เดิม เช่น Tether และ Bitfinex
ตัวอย่างเช่น บริษัท Twenty One ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Softbank ก็ใช้วิธีนี้ในการสร้างพอร์ต Bitcoin ของตนเอง ธุรกรรมลักษณะนี้ไม่ได้สร้างอุปสงค์ใหม่ในตลาด ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างการสะสมของบริษัทกับราคา Bitcoin อยู่ในระดับต่ำเพียง 0.18 เท่านั้น
ปัจจัยมหภาคและเหตุการณ์โลกยังคงป่วนตลาด Bitcoin
นอกเหนือจากกระแสเงินทุนแล้ว ปัจจัยมหภาคและเหตุการณ์ระดับโลกยังคงสร้างความผันผวนให้กับราคา Bitcoin อย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านที่ส่งผลให้ราคา Bitcoin ร่วงลงไปถึง 98,200 ดอลลาร์ ก่อนจะดีดตัวกลับมาที่ 105,000 ดอลลาร์อย่างรวดเร็วหลังมีข่าวความหวังในการหยุดยิง
เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เกิดการล้างพอร์ตสถานะฟิวเจอร์สครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดยมีสถานะ Long ที่ถูกบังคับขายไปกว่า 17,000 BTC
นอกจากนี้ ตลาดยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนจากการเจรจางบประมาณของรัฐบาลทรัมป์และกำหนดเส้นตายด้านภาษี ซึ่งอาจทำให้ตลาดยังไม่สงบลงในเร็วๆ นี้
บทวิเคราะห์จาก K33 Research สรุปได้ว่า ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนราคา Bitcoin ในปัจจุบันคือกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าและออกจาก Spot ETF ส่วนการเข้าซื้อของบริษัทต่างๆ แม้จะเป็นข่าวใหญ่ แต่กลับมีผลกระทบต่อตลาดน้อยกว่าที่คิด เนื่องจากไม่ได้เป็นการสร้างอุปสงค์ใหม่
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนยังต้องเฝ้าระวังความผันผวนจากปัจจัยมหภาคและสถานการณ์โลกที่พร้อมจะส่งผลกระทบต่อตลาดได้ทุกเมื่อ เราแนะนำให้คุณติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ Bitcoin ของเราอยู่เสมอ
บล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล, Web3, วิเคราะห์แนวโน้มราคาสินทรัพย์, โทเค็นโนมิกส์ Tanawat Thanichapol เป็นนักวิเคราะห์คริปโตและที่ปรึกษาบล็อกเชนอิสระจากประเทศไทยที่มีประสบการณ์กว่า 7 ปี จบหลักสูตรด้านเศรษฐกิจดิจิทัลจาก MIT Initiative on the Digital Economy (IDE) เขาเคยร่วมงานกับสตาร์ทอัพคริปโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และปัจจุบันเขียนบทความวิเคราะห์ตลาด รวมถึงพัฒนาบอทช่วยเทรดให้กับสื่อสายคริปโตหลายแห่ง เขาเชี่ยวชาญด้านโทเค็นโนมิกส์ การวิเคราะห์ on-chain และการจับสัญญาณแนวโน้มในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล สนใจเป็นพิเศษในด้านการเงินแบบกระจายศูนย์และอนาคตของ We