Meme Coin ฟีเวอร์! Snorter เทรดเร็ว ครองใจนักลงทุน ยอด ICO พุ่งเกิน 1 ล้านดอลลาร์

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2025 – กระแสการลงทุนใน Meme Coin กำลังกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง โดยในรอบใหม่นี้ การซื้อขายจะไม่ใช่เรื่องของการคลิกซื้อขายเองอีกต่อไป แต่จะขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติหรือบอทเทรดดิ้งเต็มรูปแบบ

หนึ่งในโปรเจกต์ที่ได้รับความสนใจอย่างมากคือ Snorter Token (SNORT) ซึ่งขณะนี้สามารถระดมทุนผ่านการขายเหรียญรอบแรก (ICO) ได้มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นโอกาสให้กลุ่มนักลงทุนที่เข้าร่วมในช่วงต้นได้เปรียบก่อนที่ตลาด Meme Coin จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง

Snorter คือบอทเทรดดิ้งบนแพลตฟอร์ม Telegram ที่ถูกพัฒนาขึ้นบนเครือข่าย Solana ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงจากยุคที่เน้นไวรัล ไปสู่ยุคที่ความเร็วและความแม่นยำกลายเป็นหัวใจสำคัญของการเทรด Meme Coin ในปัจจุบัน บอทตัวนี้จึงเน้นความเร็วในการดำเนินการ ช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าทำธุรกรรมได้ในระดับเสี้ยววินาที พร้อมด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำเพียง 0.85% ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม

ฟีเจอร์ของ Snorter ครอบคลุมตั้งแต่การสลับเหรียญแบบรวดเร็ว ป้องกันการถูกสไนป์ (Sniper Protection) ไปจนถึงการคัดลอกพอร์ตกระเป๋าสตางค์—all-in-one ภายใน Telegram เท่านั้น อีกจุดเด่นที่ถูกพูดถึงคือมาสคอต “aardvark จามแรง” ที่สื่อถึงเป้าหมายของแพลตฟอร์มนี้ในการเป็น Meme Coin ที่มีฟังก์ชันจริง คอยจับโอกาสใหม่ๆ ก่อนที่เทรนด์จะกระโดดขึ้นชาร์ต

สำหรับรอบ ICO ปัจจุบัน ราคา SNORT อยู่ที่ 0.0955 ดอลลาร์ต่อเหรียญเท่านั้น โดยจะเปิดให้ซื้อในราคานี้อีกเพียง 3 วัน ก่อนจะเข้าสู่รอบถัดไปที่ราคาสูงขึ้น

Snorter ดันยุคใหม่! เทรด Meme Coin อัตโนมัติ เร็ว แม่นยำ ตอบโจทย์สายดีเจน

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2025 กระแสการซื้อขาย Meme Coin ในอดีตที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ไม่ว่าจะเป็นการที่เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ประกาศชื่อเหรียญบน X (Twitter เดิม) กลุ่มเทรดใน Telegram ที่ปลุกกระแสเหรียญทุนต่ำ รวมถึงบรรดานักลงทุนสายดีเจนที่พยายามไล่ตามกราฟราคาเหรียญที่พุ่งขึ้นไปแล้วหลายเท่าตัว

ในช่วงที่กระแส Meme Coin อยู่ในจุดสูงสุด แม้แต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างโดนัลด์ ทรัมป์ ก็โดดเข้ามามีส่วนร่วมในตลาดด้วยเหรียญ Official Trump (TRUMP) ขณะที่ประธานาธิบดี Javier Milei ของอาร์เจนตินาก็เปิดตัวเหรียญที่ถูกวิจารณ์ว่าอาจเป็น “Rug Pull” หรือการหลอกลวงนักลงทุนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความวุ่นวายเหล่านี้ กลับมีเพียงนักเทรดไม่กี่กลุ่มเท่านั้นที่สามารถเกาะกระแสและทำกำไรได้ตั้งแต่เนิ่นๆ โดยสิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันคือ การใช้บอทในการซื้อขาย

ในรอบขาขึ้นครั้งต่อไป เมื่อเงินทุนเริ่มไหลจากบิทคอยน์ไปยังเหรียญหลักอื่นๆ ก่อนจะไหลลงมายังเหรียญทุนต่ำเหล่านี้ บอทจะไม่ใช่แค่เครื่องมือเสริมอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นมาตรฐานของการเทรด Meme Coin ทันที โดยเฉพาะในตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูงอย่าง Solana และ Ethereum

รูปแบบของเกมได้เปลี่ยนไป การเทรด Meme Coin ไม่ใช่แค่การนั่งกดรีเฟรชหน้าจอ Dexscreener หรือรอลุ้นว่าอินฟลูเอนเซอร์จะพูดถึงเหรียญตัวไหนอีกต่อไป แต่เป็นการแข่งขันเรื่องความเร็ว ความแม่นยำ และระบบอัตโนมัติที่สามารถดำเนินการได้เร็วกว่าการกรอกเลขกระเป๋าสตางค์เสียอีก

ข้อมูลจาก Business Research Insights ชี้ว่า ตลาดบอทเทรดคริปโตทั่วโลกมีมูลค่าราว 41,600 ล้านดอลลาร์ในปี 2024 และมีแนวโน้มจะพุ่งแตะ 154,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2033 หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 14% ในทศวรรษข้างหน้า สะท้อนให้เห็นว่าบอทกำลังกลายเป็นหัวใจหลักของตลาดนี้อย่างแท้จริง

แม้ว่าระบบอัตโนมัติจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่สุดท้าย “ปัจจัยมนุษย์” ก็ยังคงสำคัญ นักลงทุนยังต้องเลือกบอทที่ตอบโจทย์ด้วยตัวเอง และหากพิจารณาตามกระแสเงินทุนและการเติบโตของ Meme Coin บนเครือข่าย Solana การเลือกบอทอย่าง Snorter Token จึงเป็นทางเลือกที่โดดเด่นและน่าจับตา

ระบบเทรด Meme Coin สุดเร็ว Snorter ชูฟีเจอร์ใหม่บน Solana

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2025 Snorter ไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มดูกราฟ หรือบอทส่งสัญญาณที่ล่าช้าเหมือนเครื่องมือเทรดทั่วไป แต่เป็นบอทเทรดความเร็วสูงที่ฝังอยู่ใน Telegram โดยออกแบบมาเพื่อภารกิจเดียว—เทรดอัตโนมัติในระดับความเร็วของ Solana

ด้วยโครงสร้างพื้นฐาน RPC ที่ทีมพัฒนาสร้างขึ้นเอง ทำให้ Snorter สามารถดำเนินธุรกรรมสลับเหรียญได้ในระดับเสี้ยววินาที (sub-second swaps) เร็วกว่าบอททั่วไป และแน่นอนว่าเร็วกว่าเทรดเดอร์ที่กดเองทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการลิสต์เหรียญใหม่ที่มาแรง การพุ่งขึ้นของสภาพคล่อง หรือการเคลื่อนไหวเงียบๆ จากวอลเล็ตใหญ่ Snorter ถูกออกแบบให้เข้าทำธุรกรรมได้ทันก่อนที่ตลาดส่วนใหญ่จะเห็นกราฟด้วยซ้ำ

นอกจากนี้ Snorter ยังใส่ระบบป้องกัน front-running หรือ sandwich attack เพื่อปกป้องผู้ใช้จากกลยุทธ์ที่บอทหรือผู้ไม่หวังดีใช้แทรกแซงและแย่งผลประโยชน์จากเทรดรายย่อย ส่งผลให้การเข้าออเดอร์แม่นยำกว่า ได้ราคาที่ดีที่สุด แม้ในช่วงตลาดผันผวนสูง

ด้วยความที่รันอยู่บน Solana Snorter ไม่เพียงแค่ทำงานได้รวดเร็ว แต่ยังคงประสิทธิภาพแม้ช่วงที่เครือข่ายอื่นเช่น Ethereum ชะลอตัวจากปัญหา gas fee พุ่งสูง ในขณะที่บอทเทรดบนอีเธอเรียมมักช้าลง Snorter กลับเร่งสปีดส่งคำสั่งซื้อขายและยืนยันธุรกรรมในระดับมิลลิวินาที แม้ในสภาวะตลาดร้อนแรงที่มีปริมาณซื้อขายหนาแน่น

ที่สำคัญ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น แม้ Snorter จะเปิดตัวบน Solana แต่ตัวแพลตฟอร์มถูกออกแบบให้รองรับหลายเครือข่าย โดยมีแผนจะขยายไปยัง Ethereum, BNB Chain, Polygon และ Base ในลำดับถัดไป ไม่ว่ากระแส Meme Coin จะย้ายไปอยู่บล็อกเชนไหน Snorter ก็พร้อมติดตามและก้าวขึ้นเป็นผู้นำทุกครั้ง

ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า Snorter คือเครื่องมือสำคัญสำหรับนักเทรดที่ต้องการชิงความได้เปรียบตั้งแต่ก่อนกระแส Meme Coin จะกลับมาแรงอีกครั้ง

บรรยากาศ Meme Coin คึกคัก SNORT พร้อมนำเทรนด์ปี 2025

ปัจจุบันมูลค่าตลาดของ Meme Coin ในปัจจุบันอยู่ที่ราว 62,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งยังต่ำกว่าจุดสูงสุดเดิมที่ 137,000 ล้านดอลลาร์อย่างมีนัยสำคัญ ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนว่าตลาดนี้ยังไม่ถึงจุดอิ่มตัว และยังมีช่องว่างให้เงินทุนไหลเข้าต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อกระแสเงินเริ่มหมุนเวียนจากเหรียญหลักไปสู่เหรียญที่มีความเสี่ยงและโอกาสสูงอย่าง Meme Coin

สัญญาณต่างๆ เริ่มชัดเจนขึ้น เช่นเดียวกับช่วงปลายปี 2023 ถึงต้นปี 2024 ข้อมูลล่าสุดชี้ให้เห็นว่า Bitcoin ยังคงยืนเหนือจุดสูงสุดตลอดกาล ขณะที่ Solana กลายเป็นเครือข่ายหลักสำหรับการเปิดตัว Meme Coin โดยมีโปรเจกต์อย่าง Pump.fun ที่เตรียมพิจารณาการขายโทเคนเพิ่มเติม ด้านนักลงทุนรายย่อยเริ่มกลับมาเคลื่อนไหวทั้งใน Telegram และ X และความต้องการเข้าร่วมโครงการใหม่ๆ ในระยะเริ่มต้นกำลังเร่งตัวขึ้น

ข้อมูลจาก Coinbase ระบุว่าปริมาณการซื้อขาย Meme Coin เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าในไตรมาส 4 ของปี 2024 โดยมี Solana เป็นผู้นำในการเติบโต เพราะจุดเด่นเรื่องค่าธรรมเนียมต่ำและความเร็วในการประมวลผล ขณะที่ข้อมูลจาก DeFiLlama ยังพบว่า ปริมาณการซื้อขายบน DEX กลับมาพุ่งอีกครั้งหลังจากแตะจุดต่ำสุดในเดือนมีนาคม โดยในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมปริมาณรายสัปดาห์แตะ 29,000 ล้านดอลลาร์ สูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน 2024 ซึ่งเหรียญหลักที่ขับเคลื่อนปริมาณตลาดก็คือ Raydium และ Pump.fun

บรรยากาศตลาดกำลังย้อนรอยเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปในรอบนี้ คือความคาดหวังของนักลงทุนที่ไม่ได้มองหาแค่ Meme Coin ที่มีโอกาสไวรัลเท่านั้น แต่ต้องการเหรียญที่มี “ยูทิลิตี้” หรือประโยชน์ใช้งานจริงด้วย

SNORT จึงถูกยกให้เป็น Meme Coin ที่ตอบโจทย์ยุคใหม่ ด้วยโครงสร้างอินฟราสตรัคเจอร์ที่ช่วยให้นักเทรดทำงานได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น การถือ SNORT จะช่วยลดค่าธรรมเนียมการเทรดจาก 1.5% เหลือเพียง 0.85% ซึ่งต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด ขณะเดียวกัน ยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้เข้าร่วมแข่งขันในลีกเทรดดิ้ง ชำระเงินเพื่ออัปเกรดบอท หรือแม้แต่ให้ทิปนักเทรดที่ทำผลงานยอดเยี่ยมได้โดยตรงผ่านบอท

และเมื่อระบบ Governance เปิดใช้งาน ผู้ถือ SNORT จะมีสิทธิ์กำหนดทิศทางโครงการ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายใหม่ๆ โมเดลค่าธรรมเนียม หรือแนวทางการบริหารเงินทุนสำรองของโปรเจกต์ต่อไป

เทรด Meme Coin ปี 2025 อย่างมือโปร ด้วย Snorter Token สุดล้ำ

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2025 โปรเจกต์ Snorter Token เตรียมพร้อมเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบในปี 2025 แม้ปัจจุบันจะยังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่นักลงทุนที่ต้องการจับจังหวะตั้งแต่ต้นสามารถร่วมสนับสนุนและเป็นเจ้าของเหรียญ SNORT ได้แล้วตั้งแต่วันนี้

นักลงทุนสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์พรีเซลของ Snorter Token เชื่อมต่อกระเป๋าเงินดิจิทัล และซื้อ SNORT ได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการชำระด้วย SOL, ETH, BNB, USDT, USDC หรือแม้แต่บัตรเครดิต/เดบิต

สำหรับประสบการณ์ที่ดีที่สุด แนะนำให้ใช้ Best Wallet ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินเพียงหนึ่งเดียวที่แสดงยอด SNORT ที่ซื้อผ่านพรีเซลโดยตรงในแอป พร้อมสิทธิ์เข้าถึงการเปิดตัวเหรียญใหม่ๆ ก่อนใครผ่านฟีเจอร์ Upcoming Tokens ที่มีเฉพาะใน Best Wallet เท่านั้น โดยขณะนี้แอป Best Wallet เปิดให้ดาวน์โหลดทั้งบน Google Play และ Apple App Store

ติดตามข่าวสารและอัปเดตล่าสุดของ Snorter ได้ที่ X และ Instagram หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ทางการของ Snorter Token เพื่อข้อมูลเพิ่มเติม

Phitchaya Rattanavong

พิชญา รัตนวงศ์ เป็นนักข่าวและนักวิเคราะห์ด้านคริปโตเคอเรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชน ผู้มีความเชี่ยวชาญในการถ่ายทอดข้อมูลที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายสำหรับผู้อ่านทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือผู้เชี่ยวชาญในวงการ ด้วยประสบการณ์กว่า 8 ปีในสายงานข่าวการเงินดิจิทัลและการกำกับดูแล Web3 พิชญาเคยร่วมงานกับทั้งสื่อในประเทศและต่างประเทศ เช่น Bangkok Biz, Asia Blockchain Review และ BeInCrypto เธอมุ่งมั่นในการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้กำหนดนโยบาย ผู้พัฒนาเทคโนโลยี และนักลงทุน พร้อมส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่องกฎระเบียบคริปโตในบริบทไทย-อาเซียน ผลงานของเธอมีจุดเด่นด้านการวิเคราะห์ข่าว DeFi การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ Web3 ที่กำลังเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค